วันศุกร์, พฤษภาคม 17, 2024
หน้าแรกHighlightโบรกคาดปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศกดตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

โบรกคาดปัจจัยเสี่ยงต่างประเทศกดตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า

โบรกมองหุ้นไทยสัปดาห์หน้าผันผวนต่อจากปัจจัยลบต่างประเทศกดดัน ทั้งสงครามรัสเซีย-ยูเครน-เฟดขึ้นดอกเบี้ย ประเมินกรอบแนวรับ 1,620 จุด แนวต้านแรกที่ 1,660 จุด

นายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยว่าภาวะตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (14 มี.ค.-18 มี.ค.) ผันผวนในทิศทางขาขึ้น แม้ว่าจะเผชิญจากปัจจัยลบจากต่างประเทศ เนื่องจากเงินเฟ้อของไทยยังไม่น่ากังวลหากเทียบกับประเทศพัฒนาแล้ว โดยเงินเฟ้อที่ขึ้นมาจากพลังงาน เช่น ค่าไฟฟ้า น้ำมัน ขณะที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว คาดว่างบบจ.ไตรมาส1จะออกมาดีซึ่งเป็นจุดพีคของปี


ทั้งนี้หากดูข้อมูลสถิติของนักลงทุนต่างชาติเมื่อปี 64 ที่ผ่านมาซื้อหุ้นไทยที่ต้นทุนเฉลี่ย 1,687 จุดซึ่งถือว่าขาดทุนอยู่ ดังนั้นนักลงทุนต้องเข้ามาซื้อหุ้นไทยเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนเป็นบวก เพราะถ้าเทขายทิ้งก็ขาดทุน ขณะที่ดอกเบี้ยไทยยังอยู่ในระดับต่ำนอกจากนี้ Valuation หุ้นไทยไม่แพงหากคิดจากดัชนี 1,650 จุด PEอยู่ที่ 18.5 เท่า

สำหรับปัจจัยที่ติดตามสำคัญคือการประชุมของธนาคารสหรัฐหรือเฟดในวันที่ 15-16 มี.ค.นี้ คาดว่าเฟดจะปรับขึ้น
ดอกเบี้ย 0.25% หลังจากเงินเฟ้อทั่วไปเดือนก.พ.ของสหรัฐฯ ที่ผ่านมาสูงถึง 7.9% เงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 7.4% แต่ถ้าขึ้นดอกเบี้ย 0.5% จะทำให้ตลาดเกิดความผันผวนอีกครั้งนอกจากนี้ต้องดูว่าเฟดจะปรับลดขนาดงบดุลบัญชี หรือ Balance Sheet อย่างไร

ขณะเดียวกันต้องเกาะติดสงครามระหว่างรัสเซีย-ยูเครน เนื่องจากการเจรจาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่มีความคืบหน้าซึ่งตลาดซึมซับข่าวดังกล่าวมาในระดับหนึ่งแล้ว ขณะที่ดัชนี VIX Index หรือดัชนีวัดความกลัวของนักลงทุนทำจุดต่ำสุดในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมาคาดการณ์ว่าความผันผวนจากปัจจัยดังกล่าวน่าจะลดลง

ส่วนธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) ปรับลดจีดีพีลงเหลือ 3.7% จากเดิมอยู่ที่ 4.2%เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นจาก 3.8% เป็น 5.1% และเตรียมยุติการซื้อสินทรัพย์ในไตรมาส 3 ซึ่งเร็วกว่าที่ตลาดคาดการณ์ก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตามคือมาตรการลดค่าครองชีพให้กับประชาชน หลังราคาน้ำมันแพง เงิน เฟ้อพุ่ง ซึ่งเป็น sentiment เชิงบวกกระตุ้นการใช้จ่ายต่อเนื่องอย่างไรก็ตาม ด้านกลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นได้ประ โยชน์จากดอกเบี้ยทิศทางขาขึ้น รวมถึงหุ้นแลกการ์ดคาดว่าจะฟื้นตัวหลังการท่องเที่ยวกลับคืนมา และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะหากราคาพลังงานย่อตัว มองกรอบแนวรับ 1,620 จุด แนวต้านแรกที่ 1,660 จุด แนวต้านถัดไปที่1,685 จุด

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img