วันศุกร์, พฤษภาคม 17, 2024
หน้าแรกNEWSเวทีถลกคอรัปชั่นปชป.! "คีรี" ทิ้งบอมม์ หวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลใจให้รบ.หยุดโกงกิน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เวทีถลกคอรัปชั่นปชป.! “คีรี” ทิ้งบอมม์ หวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลใจให้รบ.หยุดโกงกิน

เวทีถลกคอรัปชั่นปชป.! “คีรี” ทิ้งบอมม์ รถไฟฟ้าสีส้ม จี้รบ.ตอบสังคมส่วนเกิน ชี้ช่วง 2-3 ปีคอรัปชั่นวงการประมูลสุดเลวร้าย โยงใยเหมือนรังผึ้ง หวังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ดลใจให้รบ.หยุดโกงกิน ด้าน “จุรินทร์” ชี้ ตบมือข้างเดียวไม่ดัง

วันที่ 9 ธ.ค.65 ที่ลานกิจกรรมสถานีรถไฟฟ้าช่องนนทรี พรรคประชาธิปัตย์ นำโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิฎฐ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จัดกิจกรรม ฟัง-คิด-ทำ หัวข้อ“ประชาธิปัตย์ห้ามเลือด! หยุดคนโกง หยุดงบประมาณรั่วไหล” พร้อมจัดเวทีเสวนามุมมองจากภาคต่างๆ

นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด กล่าวระหว่างร่วมเสวนามุมมองของภาคธุรกิจ ว่า จากที่ธุรกิจหลักของบริษัทคือโครงสร้างพื้นฐาน จึงโอกาสร่วมประมูลโครงการใหญ่ๆกับรัฐบาลหลายครั้ง ตนรู้สึกว่าในช่วง2-3 ปีนี้ มีการคอรัปชั่นรุนแรงมาก เพราะในการประมูลงานเมื่อ30 ปีก่อน จำนวนงบประมาณ5 หมื่นล้านบาทถึงแสนล้านบาท แต่สมัยนั้นไม่ค่อยมีใครคิดถึง มีสองบริษัทที่มีชื่อเสียงมาร่วมประมูล แต่เราก็ชนะในการประมูลรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยไม่มีอะไรที่เป็นคำถามได้ว่าผิดตรงไหน เพราะเราทำโครงการที่ดีที่สุดให้กับคนไทยในกทม. ที่มีความเสี่ยงมากกับรายได้แบบนี้ ขณะที่บางคนพอประมูลได้แล้วก็หนีไป เพราะไม่คิดจะทำจริงๆ แต่วันนี้เราทำสำเร็จแล้วโดยให้บริการมา20 กว่า ปี

“วันนี้เป็นวันแอนตี้คอรัปชั่น มีคนบอกผมว่าให้เตือนกันหน่อย คนที่คิดจะทำขอให้คิดถึงประเทศชาติบ้าง คุณกำลังทำลายประเทศชาติ เพื่อประโยชน์ของส่วนตัว ส่วนกลุ่ม อย่าให้มันเกินไป ผมก็อยู่ไม่ได้ คุณก็อยู่ไม่ได้ เมื่อประเทศขาดความมั่นคงด้วยการคอรัปชั่นแบบไม่สามารถบรรยายได้ แต่วันนี้อยู่ในกระแสสังคมที่เกี่ยวกับเราที่เคยประมูลคือ รถไฟฟ้าสายสีส้ม วันนี้ เวทีนี้ ผมอยากให้ผู้นำรัฐบาล ครม. คิด ถ้าจะให้ผ่านไปโดยวิธีนี้อย่าเลยครับ เพราะถ้าผ่านไปได้ท่านต้องตอบประชาชนให้ได้ว่าทำไมถึงราคาผิดไปจากเดิม ถ้าครม.ชุดนี้ให้ผ่าน ท่านเป็นบาปกับประเทศชาติแน่นอน กฎหมายทำอะไรท่านได้หรือเปล่าค่อยดูกัน แต่ท่านไม่ควรทำ”

นายคีรี กล่าวย้อนถึงการประมูลโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มว่า เมื่อ3 ปีที่แล้ว มติครม.ให้ผ่านและให้มีการประมูล โดยมีการผ่านพรบ.ร่วมทุนกันเรียบร้อย โดยมี2 บริษัทที่ร่วมประมูลในโครงการเดียวกันเท่ากัน เสป็กเหมือนกันหมด ตนไม่ทราบว่าบริษัทคู่แข่งเสนอราคาให้เท่าไหร่ จะชนะหรือไม่ หากชนะต้องให้ราคาต่ำกว่าตน ซึ่งราคาที่ตนยื่นประมูลไปเท่ากับวิธีคิดราคาในวันนี้ คือ ไม่ถึง9 พันกว่าล้านบาท ซึ่งรัฐต้องสนับสนุนเพื่อให้ได้รถไฟฟ้าสายสีส้ม แต่วันนี้กลับอ้างทุกอย่าง อาจจะมาจากเจ้ากระทรวง องค์การที่ดูแลเรื่องนี้ คิดอะไรไม่ทราบ สิ่งที่ออกมาคือประกาศผู้ที่ชนะ รัฐบาลต้องจ่ายอีกเป็นเงิน7.8 หมื่นล้านบาท ผิดไปถึง6 หมื่นกว่าล้าน ตนอยากถามเจ้ากระทรวง องค์กรที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะผู้นำรัฐบาล ว่าหากผ่านไปจะตอบกับประชาชนอย่างไร

“สิ่งที่ผมอยากเห็นวันนี้คือเอาให้มันถูกต้อง ที่ผมร้องเรียนเพียงอย่างเดียวคือต้องการให้ประมูลให้ถูกต้อง ผมเคยแพ้ เคยชนะในการประมูล แต่ที่ผ่านมาตรวจสอบได้ทุกงาน ทุกโครงการที่เราได้มาไม่เคยทำลายประเทศชาติ เสียดายถ้าวันนี้โครงการที่งบประมาณเกินแสนล้าน ถ้าให้ผ่านไปแบบความคิดที่ต้องการคอรัปชั่น ผมดูแล้วตกใจ มันมากที่สุดอย่างกับรังผึ้งมหาศาลรุนแรงที่สุดในประเทศไทย”

ทั้งนี้ผู้ดำเนินรายการได้ถามว่า หากมีพรวิเศษหนึ่งข้อ นายคีรีอยากจะขอให้รัฐบาลทำอะไรเกี่ยวกับการต่อต้านคอรัปชั่น นายคีรีกล่าวว่าระหว่างที่ตนเดินทางอยู่ในรถยนต์ ได้ดูข่าวผู้นำรัฐบาลและทุกคนมายืนประกาศเป็นวาระแห่งชาติว่า จะไม่ให้การคอรัปชั่นเกิดขึ้น ซึ่งได้ยินแล้วรู้สึกดีใจมาก แต่ที่ผู้นำพูดว่ามีจิตใจจริงที่ไม่ให้เกิดสิ่งเหล่านี้

“ผมขอเอาแค่ชะลอ เบาๆมือหน่อย ในโลกนี้ปัญหาคอรัปชั่นไปทั้งโลก ถ้าใครคนหนึ่งจะยืนมาบอกว่าจะแก้ไขอะไรต่างๆ แค่ขอให้จิตใจคนนั้นเริ่มก่อนและลงมือทำ พร หรือ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะปกป้องให้มันคลายลงมา ไม่ให้เกินไปจนถึงกระทบกับเศรษฐกิจ โครงสร้างของประเทศชาติ “นายคีรีกล่าวทิ้งท้าย

ด้านนายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคเห็นความสำคัญในการจัดการทุจริตและให้ความสำคัญกับความซื่อสัตย์สุจริตซึ่งถือเป็นอุดมการณ์ 1 ใน 10 ข้อตั้งแต่ก่อตั้งพรรคขึ้นมา โดยเราได้ยึดว่าพรรคจะต้องดำเนินการด้วยวิธีบริสุทธิ์และพรรคจะดำเนินการเมืองด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อย่างไรก็ตามทุจริตเกิดจากการสมคบคิดและสมคบทำ ฉะนั้นการตบมือข้างเดียวจึงไม่ดัง ทั้งนี้ การทุจริตคอรัปชั่นได้เกิดการวิวัฒนาการจากเดิมที่เป็นการทุจริตงบประมาณได้แปรรูปเป็นการทุจริตเชิงนโยบายซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการดำเนินคดีและเข้าโดนจำคุกไปหลายราย

“การจะปรามปราบการทุจริตได้นั้น ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันจึงจะแก้ไขได้สำเร็จ การทุจริตไม่ได้เป็นภัยแต่เพียงงบประมาณและผลประโยชน์ของประชาชนเท่านั้น แต่ยังเป็นภัยกับภาพลักษณ์ประเทศและระบอบประชาธิปไตย ซึ่งเราจะเห็นได้จากการปฏิวัติ หนึ่งในเหตุผลที่ต้องทำการปฏิวัติมาจากการทุจริต ฉะนั้นก็อย่าให้การโกงเป็นเครื่องมือในการกวักมือเรียกวงจรอุบาท ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์พร้อมร่วมมือต่อต้านการโกง” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img