“อลงกรณ์”ยันไม่เคยพบซื้อเสียงเลือกตั้งเก้าอี้กก.บห. “ปชป.แต่มีเสนอเงื่อนไขแลกย้ายพรรค ผิดหวัง ไตรรงค์”ใส่ร้ายพรรคประชาธิปัตย์ ทั้งที่เคยเป็นสมาชิกมาอย่างยาวนาน
เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 66vนายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวหาพาดพิงพรรคประชาธิปัตย์ว่ามีการซื้อเสียงในการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคฯ ว่า ในฐานะที่ตนเป็นคณะกรรมการบริหารพรรคฯ หลายสมัย และเป็นรองหัวหน้าพรรค 4 สมัยจนถึงทุกวันนี้ซึ่งได้รับการเลือกตั้งจากที่ประชุมใหญ่ของพรรคฯ ทุกครั้ง อีกทั้งขอยืนยันว่าตนไม่เคยซื้อเสียงในการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคฯ และไม่เคยพบเห็นว่ามีการซื้อเสียงในการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารพรรคฯ มีเพียงการหาเสียงตามวิถีทางประชาธิปไตยของผู้สมัครในตำแหน่งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคในแต่ละยุคแต่ละสมัย
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายไตรรงค์ระบุว่าอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์อ่อนลงนั้น ตนขอปฏิเสธ เพราะพรรคประชาธิปัตย์ตั้งแต่ก่อตั้งพรรคมาจนถึงวันนี้ ยังยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พรรคประชาธิปัตย์ยังดำรงความเป็นสถาบันทางการเมืองที่ไม่มีใครเป็นเจ้าของ และพรรคประชาธิปัตย์ไม่ใช่พรรคการเมืองประเภทที่ตั้งขึ้นมาเฉพาะกิจเพื่อคนใดคนหนึ่งชั่วคราว จึงอยู่มาได้กว่า76ปี ทั้งนี้นายไตรรงค์คงจะตอบได้ดีว่าวันนี้ยืนอยู่กับพรรคการเมืองประเภทไหน มีอุดมการณ์ประชาธิปไตยอ่อนหรือแก่ เมื่อเทียบกับพรรคประชาธิปัตย์ที่นายไตรรงค์เคยเป็นสมาชิกมาอย่างยาวนาน
นายอลงกรณ์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ปราศรัยว่ามีพรรคที่ตกปลาในบ่อเพื่อนนั้น ก็ไม่เคยเอ่ยถึงชื่อของพรรคการเมืองใดหรือบุคคลใดเป็นการเฉพาะเจาะจง เพราะสังคมทราบถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์และพรรคอื่นๆที่ตกเป็นเหยื่อของพรรคเหล่านั้นเป็นอย่างดี โดยมีส.ส.และอดีตส.ส.ของพรรคที่ถูกติดต่อทาบทาม หรือได้รับการเสนอเงื่อนไขเพื่อแลกเปลี่ยนในการย้ายพรรค ซึ่งบางคนตกลงย้ายไปพรรคอื่น แต่บางคนที่ยังมีอุดมการณ์เหนียวแน่นกับพรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังอยู่กับพรรค
“ผมทราบจากการบอกเล่าว่ามีการเสนอเงื่อนไขแลกกับการย้ายพรรค ส่วนเงื่อนไขจะเกี่ยวกับเงินหรือตำแหน่งหรือไม่นั้นคนที่เกี่ยวข้องย่อมทราบดีกว่าทุกคน อย่างไรก็ตามมีบางคนบางท่านที่ย้ายออกไปโดยไม่เกี่ยวกับเรื่องเงื่อนไขแลกเปลี่ยนก็มีเช่นกัน จะเหมารวมทั้งหมดไม่ได้ สำหรับคำว่าตกปลาในบ่อตัวเองน่าจะเป็นการอุปมาอุปไมยที่ใช้ไม่ได้ ไม่มีพรรคการเมืองใดต้องตกปลาในบ่อตัวเอง การปกป้องสมาชิกพรรคไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของการตกปลาในบ่อเพื่อน เหมือนแม่ไก่ที่เห็นเหยี่ยวบินโฉบมาก็ต้องกางปีกคุ้มครองลูกของตน ผมเป็นคนที่ออกมาปกป้องดร.ไตรรงค์เมื่อกล่าวปราศรัยผิดพลาดบนเวทีหาเสียงที่โคราชด้วยความรักความผูกพันที่มีมาอย่างยาวนานทั้งในทางส่วนตัวและในฐานะเป็นผู้อาวุโสของพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำงานกับพรรคมาเกือบตลอดชีวิตทางการเมือง และยิ่งคิดไม่ถึงว่า ท่านจะกล่าวหาใส่ร้ายทำลายชื่อเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ได้ถึงปานนี้ ท่านเปลี่ยนแปลงไปมากจริงๆ ผิดหวังมากๆครับ.”นายอลงกรณ์ กล่าว
