อัยการเลื่อนฟังคำสั่งคดี “สว.อุปกิต” คดีฟอกเงินยาเสพติด หลังเจ้าตัวร้องขอความเป็นธรรม อสส.ให้ตรวจสอบบริษัทอื่นๆ ที่ได้รับเงินบัญชียาด้วย ขณะที่ “โกศลวัฒน์”ระบุว่าการยื่นขอความเป็นธรรมในครั้งนี้ ทำให้อัยการจะต้องส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนพิจารณา ร่วมกับคณะทำงานสอบสวนที่อัยการตั้งขึ้น
เมื่อวันที่ 17 เม.ย. นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด กล่าวถึงกรณีที่คณะพนักงานสอบสวนคดีนอกราชฯ ได้นัดหมายฟังคำสั่งคดี นายอุปกิต ปาจรียางกูร สมาชิกวุฒิสภาในความผิดฐาน สมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ เกี่ยวพันกับคดีนายตุน มิน ลัต อายุ 53 ปี นักธุรกิจค้าอาวุธชาวเมียนมาซึ่งเดิมนัดฟังคำสั่ง ช่วงภายหลังเทศกาลสงกรานต์นี้นั้น
ว่า วันนี้ทางอัยการได้เลื่อนนัดฟังคำสั่งทางคดีออกไปก่อน เนื่องจากก่อนหน้านี้นายอุปกิต ได้ยื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่อ น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด เมื่อวันที่ 3เม.ย. ที่ผ่านมาโดย นายอุปกิต ระบุว่า เงินในบัญชีที่มีการกล่าวหาว่าเป็นเงินค่ายาเสพติด นอกจากบัญชีที่มีการเกี่ยวพันกับ นายอุปกิตเเล้วยังมีการโอนเงินเข้ามายังบริษัทชั้นนำในประเทศไทยอีกหลายเเห่ง รวมถึงรัฐวิสหกิจในประเทศ เเต่คณะพนักงานสอบสวนกลับเเจ้งข้อหาดำเนินคดีเฉพาะนายอุปกิต จึงยื่นขอความเป็นธรรมให้อัยการสูงสุดพิจารณาตรวจสอบ ว่าเป็นการกลั่นเเกล้งทางการเมืองหรือไม่ เนื่องจากนายอุปกิต ได้ให้อาคารที่ดินกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่เพิ่งเช่าที่ดินอาคารเป็นที่ทำการพรรค ประกอบถูกมองว่านายกรัฐมนตรี เป็นผู้เเต่งตั้ง สมาชิกวุฒิสภา ซึ่งทำให้มองว่าเป็นการโจมตีทางการเมืองเพื่อไปกระทบกับบุคคลอื่น
นายโกศลวัฒน์ ยังกล่าวว่า การยื่นขอความเป็นธรรมในครั้งนี้ ทำให้อัยการจะต้องส่งเรื่องให้พนักงานสอบสวนพิจารณา ร่วมกับคณะทำงานสอบสวนที่อัยการได้ตั้งขึ้นมา รวมทั้งยังมีประเด็นที่ต้องสอบสวนเพิ่มเติม ทำให้จำเป็นต้องเลื่อนการสั่งคดีในครั้งนี้ออกไปก่อน
