“‘วันนอร์’ ไม่กังวลวันโหวตเลือกนายกฯ 13 ก.ค.นี้ เชื่อสมาชิกมี “คุณวุฒิ – วัยวุฒิ” พร้อมทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนด้าน “ปดิพัทธ์” ไม่กังวลสถานการณ์ชุมนุม หากยึดกรอบ ก.ม.
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 7 ก.ค. ที่ห้องประชุม 604 ชั้น 6 อาคารรัฐสภา เกียกกาย นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา พร้อมด้วยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน เข้ารับพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานสภาผู้แทนราษฎรและรองประธานสภาผู้แทนราษฎร เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
ภายหลังจากสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งประธานและรองประธานตามลำดับ ดังนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎร นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง และนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง ให้ปฏิบัติหน้าที่โดยสมบูรณ์ ซึ่งมีข้าราชการประจำสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ผู้แทนจากพรรคก้าวไกล พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชาติ แต่งเครื่องแบบข้าราชการชุดขาวเต็มยศ เข้าร่วมพิธีอย่างสมเกียรติ ก่อนที่ทั้งหมดจะถ่ายภาพเป็นที่ระลึกหน้าพระบรมฉายาลักษณ์
จากนั้น เวลา 10.15 น. นายวันมูหะมัดนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร พร้อมด้วยนายปดิพัทธ์ และนายพิเชษฐ์ ร่วมกันแถลงข่าว โดยนายวันมูหะมัดนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาฯ และรองประธานสภาฯ พวกเราจะขอน้อมนำพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานในรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภาเมื่อวันที่ 3 ก.ค.66 มาปฏิบัติ เพื่อประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติต่อไป
ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า สำหรับการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี จะต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ และข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ส่วนกรอบเวลาการประชุมเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและข้อบังคับอยู่แล้ว ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ หากพูดล่วงหน้าอาจจะไม่ตรงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ซึ่งการประชุมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 ก.ค.66 นี้ หวังว่าจะดำเนินด้วยความเรียบร้อย หากการประชุมไม่เสร็จสิ้น ได้หารือกับนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ในฐานะรองประธานรัฐสภา ให้เปิดประชุมอีกครั้งในวันพุธที่ 19 ก.ค.66 เนื่องจากเป็นวันที่เหมาะสมที่สุด เว้นไว้หนึ่งสัปดาห์ให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ทำหนังสือเชิญมาประชุมอีกครั้ง
“การประชุมเลือกนายกรัฐมนตรีจะเสร็จสิ้นเรียบร้อยหรือไม่อยู่ที่ที่ประชุม หน้าที่ของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ คือ เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่เลือกนายกรัฐมนตรีเพื่อไปบริหารประเทศต่อไป เราต้องทำหน้าที่เพื่อให้ได้นายกรัฐมนตรีให้ได้ เพราะประเทศจะไม่มีนายกรัฐมนตรีไม่ได้ เนื่องจากปัญหาของประชาชนและประเทศรอคอยรัฐบาลใหม่ ดังนั้นหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติ ต้องสนับสนุนให้การบริหารประเทศต่อไปได้ ในเวลาที่เหมาะสม ที่ประชาชนต้องการ”นายวันนอร์ กล่าว
ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ส่วนความกังวลของส.ว.ในการเสนอชื่อบุคคลเดิมเพื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ในการประชุมครั้งที่ 2 สามารถทำได้ตามรัฐธรรมนูญ แต่ส่วนตัวไม่อยากคาดการณ์ในสถานการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น หากโหวตนายกรัฐมนตรีครั้งแรกไม่ผ่าน จะต้องมีการกำหนดวันเพื่อโหวตอีกครั้ง รวมถึงต้องใช้ดุลยพินิจในฐานะประธานสภาฯ ให้เกิดความเหมาะสม และอยากให้ทุกคนเห็นแก่ประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นหลัก เพราะเป็นสิ่งสำคัญในการทำให้ประเทศเดินหน้าได้ อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจไม่สามารถคาดเดาได้ว่าสมาชิกแต่ละคนจะโหวตอย่างไร เราไม่มีความกังวลเรื่องนี้เพราะทุกคนมีคุณวุฒิและวัยวุฒิ มีประสบการณ์ ทุกคนมีหัวใจตรงกัน เพื่อบ้านเมือง ประเทศชาติและประชาชน เป็นสิ่งสำคัญ ทุกคนต้องทำให้ดีที่สุด
“ฝากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ รัฐสภาจะทำหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด ตามที่ท่านได้คาดหวัง ในฐานะที่ผมเป็นประมุขฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นประธานรัฐสภา ขอความสนับสนุนจากพี่น้องประชาชน และขอความร่วมมือจากทุกฝ่าย เราทำงานนี้เพื่อประเทศชาติ ขอให้สนับสนุนให้เรามีผู้นำประเทศอย่างเรียบร้อยในเวลาที่ท่านรอคอย ต้องร่วมมือกันทุกฝ่าย ทั้งสภา พรรคการเมือง ประชาชน และสื่อมวลชน ขอให้งานที่จะมีในวันที่ 13 ก.ค.นี้ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย” ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าว
เมื่อถามว่า กังวลเรื่องการเมืองการชุมนุม วันโหวตนายกรัฐมนตรี นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้มีการแบ่งหน้าที่ให้รองประธานสภาฯ ส่วนการรักษาความปลอดภัย การให้บริหารประชาชนที่จะเข้ามาในพื้นที่รัฐสภารอวันที่ 10 ก.ค. แต่ถามว่าประชาชนมีสิทธิ์ชุมนุมไหม มีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญแน่นอน หากอยู่ในขอบเขต และพ.ร.บ.การชุมนุม จึงไม่มีกังวลใดๆ.
