วันเสาร์, พฤษภาคม 18, 2024
หน้าแรกNEWS"ไทกร" จี้ "กมธ.เกษตรฯ" สอบ "หมูเถื่อน" แฉ 90% สำแดงสินค้าเป็น "หัวปลาแซลมอน"
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ไทกร” จี้ “กมธ.เกษตรฯ” สอบ “หมูเถื่อน” แฉ 90% สำแดงสินค้าเป็น “หัวปลาแซลมอน”

“ไทกร” โร่ฟ้อง “กมธ.เกษตรฯ” ใช้อำนาจสอบ “หมูเถื่อน” ทำประชาชนเดือดร้อน แฉ 90% สำแดงสินค้าเป็น “หัวปลาแซลมอน” บี้ “นายกฯ” เร่งกวาดล้างโจรในคราบเครื่องแบบ

วันที่ 29 พ.ย.2566 ที่รัฐสภา นายไทกร พลสุวรรณ ตัวแทนประชาชน เข้ายื่นหนังสือต่อนายศักดินัย นุ่มหนู สส.ตราด พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร เพื่อขอให้ตรวจสอบการทำลายเนื้อสุกรผิดกฎหมายจำนวน 4500 ตัน ของกรมปศุสัตว์ซึ่งมีพฤติกรรมพิรุธน่าสงสัย

โดยนายไทกร กล่าวว่า หลังจากที่ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้สั่งให้มีการทำลายเนื้อหมูเถื่อนที่อยู่ที่ท่าเรือแหลมฉบังจำนวน 4,500 ตันในทางลับ ซึ่งเรื่องนี้มีการส่อพิรุธโดยอ้างเหตุว่ามีกระบวนการต่อต้านการฝังกลบเนื้อหมูเถื่อน ของกลางที่จับได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือการทำงานของกรมปศุสัตว์และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ไร้จิตสำนึก เอาหมูเถื่อนที่กรมปศุสัตว์ระบุว่าติดโรคระบาดไปฝังที่อำเภอคลองหาด จ.สระแก้ว ฝังแค่ 30 ตัน กลิ่นเน่าเหม็นคลุ้งไปทั่ว จนชาวบ้านประท้วง ซึ่งสาเหตุที่ชาวบ้านไม่ให้ฝังเพราะไม่มีการทำประชาคมของชาวบ้านในพื้นที่และเป็นการกระทำที่ผิดพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาและส่งเสริมสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ รวมถึงผิดพ.ร.บ.การสาธารณสุข และผิดกฎกระทรวงสาธารณสุขว่าด้วยการกำจัดมูลฝอยติดเชื้อ ผิดพ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ เพราะกรมปศุสัตว์แจ้งว่าเนื้อหมูที่อยู่ในคลังสินค้าของท่าเรือแหลมฉบังติดเชื้อโรคที่ระบาดได้ไกลถึง 259 กิโลเมตร จึงถือว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อการเลี้ยงสัตว์และการทำปศุสัตว์ในประเทศ

นายไทกร กล่าวต่อว่า ส่วนสาเหตุที่ต้องมาอาศัยอำนาจของ กมธ.ฯ เพราะเห็นว่าประวัติแต่ละคนที่ดูแลเรื่องการกำจัดหมูเถื่อน 4,500 ตัน นั้นดูแล้วไม่โปร่งใส และจะเชื่อได้อย่างไรว่าคนเหล่านี้จะไม่เอาหมูเถื่อนเข้ามาเวียนขายอีก นอกจากนี้ ยังเห็นอีกว่า 90%ที่นำหมูเถื่อนเข้ามามีการเขียนสำแดงสินค้าว่า หัวปลาแซลมอน

“พวกนี้ไม่ใช่ข้าราชการ พวกนี้คือโจรในเครื่องแบบ คนที่เป็นสุจริตชนไม่มีใครปกป้องโจร มีแต่โจรด้วยกันที่ปกป้องโจร ต้องฝากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ถ้าจะกวาดล้างต้องล้างทั้งหมด ทั้งผู้ที่มีส่วนร่วมในการที่นำเข้ามา ทำงานล่าช้า ไม่ใช่ย้ายเฉพาะอธิบดีดีเอสไอ แล้วคนอื่นลอยหน้าลอยตาแบบนี้ ขอให้ กมธ.ฯ เร่งใช้อำนาจจัดการเรื่องนี้”นายไทกร กล่าว

นายไทกร ยังกล่าวถือกรณีที่มีการย้ายอธิบดีดีเอสไอว่า “เป็นเรื่องที่ไม่ปกติ เพราะย้ายหลังจากที่ไปจับห้างของเจ้าสัว และในวันถัดไปก็มาย้ายเขา มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ เรื่องนี้นายกฯต้องทำให้ความจริงปรากฎ ยืนยันไม่รู้ครั้งที่ร้อยแปดว่าตนเองเป็นรัฐบาลของประชาชนแต่พฤติกรรมของนายกฯเป็นรัฐบาลลูกสมุนเจ้าสัว”

ด้านนายศักดินัย กล่าวว่า ทางกมธ.ฯ จะนำเรื่องนี้เข้ามาดำเนินการและจะติดตามอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจะลงไปดูกระบวนการในการทำงานว่ามีการทำอย่างไร ทั้งนี้ จะมีการเชิญดีเอสไอในวันที่ 14 ธ.ค.นี้ เพื่อเข้ามาให้ข้อมูล

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img