“บิ๊กตู่” ลั่นไม่หวั่นไหว โดนรุมสารพัดปัญหา เร่งช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบโควิดยันไม่เลื่อนคนละครึ่ง-ยิ่งใช้ยิ่งได้ รัฐบาลดูแลให้ดีที่สุดพร้อมยอมรับเสียใจหลายคนใช้วาจากิริยาไม่สุภาพแต่อดทนอยู่แล้ว
เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.64 ที่ทำเนียบรัฐบาลภายหลังประชุมด่วนศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ(ศบศ.) เพื่อหามาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบเศรษฐกิจภายหลังมีการประกาศปิดพื้นที่และกิจการในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และจังหวัดชายแดนใต้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เปิดเผยว่า รัฐบาล ครม. และส่วนราชการต่างๆ รับฟังความเห็นจากทุกภาคส่วนทุกครั้งไม่ว่าทำอะไรก็ตาม แต่วันนี้ต้องให้ความสำคัญการแพร่ระบาดในคลัสเตอร์แรงงาน จึงเกิดผลกระทบในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ที่ประกาศออกไป จึงต้องเร่งช่วยเหลือเยียวยาในส่วนนี้ก่อน เพื่อลดผลกระทบในช่วง 1 เดือนก่อน
โดยมีงบประมาณที่เตรียมไว้แล้วทั้งในส่วนของรัฐบาลและเงินจากกองทุนประกันสังคมรวมแล้วประมาณ 7,500 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือในกิจการที่ได้รับผลกระทบตามประกาศ ส่วนในระยะอื่นๆ ก็จะดูแลต่อไปให้ทั่วถึงโดยจะดำเนินการตามแนวทางที่เคยทำมาแล้วและมาตรการใหม่ๆ ที่จะออกมา เช่น โครงการคนละครึ่ง ยิ่งใช้ยิ่งได้ยืนยันว่าออกตามกำหนดการเดิมไม่มีการเลื่อนแต่อย่างใด
ส่วนที่มีการนำเสนอข่าวมีแรงงานทยอยหนีกลับต่างจังหวัดนั้น นายกฯ ระบุว่า ได้สั่งการให้ทหาร ตำรวจและพลเรือนลงปฏิบัติหน้าที่ทันที เพื่อป้องกันการเดินทางกลับบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่หน้างานหลายคนก็ได้รับความเสี่ยงสูงเช่นเดียวกัน ทั้งนี้เชื่อไม่มีใครอยากกลับบ้าน เพราะกลับไปก็จะจะถูกควบคุมไม่ให้ออกนอกพื้นที่ เพราะไม่มีงาน แต่อยู่ในการควบคุมก็จะมีการจ่ายค่าแรง50% พร้อมการสนับสนุนหาอาหารการกินให้ อีกทั้งที่เป็นห่วงเป็นพิเศษคือร้านอาหารรายย่อย ซึ่งปกติคนระมัดระวังจากโควิดไม่ออกมานอกบ้านกัน ดังนั้นจึงได้ขอความร่วมมือสมาคมก่อสร้างและผู้ประกอบการร้านอาหาร ให้ประกอบอาหารส่งแคมป์คนงานต่างๆ เพื่อเป็นทางเลือกให้ร้านอาการมีรายได้ ซึ่งกทม.รับทราบไปแล้ว
เมื่อถามว่า มีผู้ประกอบการเรียกร้องให้นั่งกินในร้านอย่างน้อย 25% พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอเวลาดูก่อน รัฐบาลเยียวยาให้อยู่แล้วในช่วง1 เดือน แต่จะขอประเมินก่อนในทุก 15 วัน และจากนั้นถ้าดีขึ้นก็หาแนวทางให้ว่าจะทำอย่างไร ศบค.จะพิจารณาให้ ทั้งนี้ตนรู้ถึงความเดือดร้อนของทุกคน ตนและครม.ก็เดือดร้อนไม่น้อยกว่าทุกคน เพราะทำอย่างไรให้ทุกคนดำรงชีวิตอยู่ได้ในช่วงนี้ ขณะเดียวกันหลายประเทศก็เดือดร้อนยิ่งกว่าเราอีกมากเช่นกัน
เมื่อถามว่า หากประเมินจากผู้ติดเชื้อในขณะนี้คาดว่าตัวเลขจะเบาบางลงไปได้ในช่วงใด พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตัวเลขที่ขึ้นต้องยอมรับในหลักการด้วยว่าถ้าไม่ค้นหาเชิงรุกก็ไม่ขึ้น เพราะบางคนติดเชื้อแต่ไม่มีอาการ เมื่อตรวจเชิงรุกต้องยอมรับตัวเลขเพิ่มขึ้น แต่ก็ต้องมองว่าตัวเลขรักษาหายรายวันเท่าไหร่ และเราต้องปรับอยู่ตลอดเวลาไม่ได้ทำงานรายวัน แต่ต้องดูเป็นระบบและประกอบด้วยหลายส่วน ถ้าคิดคนเดียวอาจถูก แต่บางครั้งทำไม่ได้จึงต้องเห็นใจ
“รัฐบาลนี้ยืนยันผมจะดูแลเต็มที่และรับฟังความเห็นทุกคนไม่ว่าชอบหรือไม่ชอบผมก็เอามาฟังมาดูทั้งหมด แล้วดูว่าอันไหนที่ทำได้ผมก็รับมา แต่ถ้าไม่เป็นประโยชน์ผมก็ไม่อยากจะดู ถ้ามันในเชิงสร้างความเกลียดชังสร้างความขัดแย้งมากๆ มันไม่เกิดประโยชน์ เวลานี้บ้านเมืองมันต้องเป็นแบบนี้ ผมไม่รังเกียจใครเลย เพราะผมถือว่าทุกคนเป็นคนไทย หลายอย่างผมก็เสียใจอยู่เหมือนกันที่หลายๆคนใช้วาจากิริยาไม่สุภาพ มันควรหรือไม่ในประเทศไทยวันนี้ผมก็ไม่อยากจะพูดแต่ผมก็อดทนอยู่แล้ว”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
อย่างไรก็ตามนายกฯยังยืนยันเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ซึ่งเป็นแซนด์บ็อกซ์ ทุกคนก็ต้องช่วยกัน ต่อให้นายกฯ ประกาศอะไรไปถ้าทุกคนไม่ร่วมมือมันก็ไม่ได้ทั้งนั้น ถ้าทุกคนอันนั่นก็ไม่ได้อันนี้ก็ไม่ได้ อันนี้จะเอาอันนี้ไม่เอา แล้วมันจะทำอะไรได้ดังนั้นต้องหามาตรการที่เหมาะสมและเดินหน้าไปให้ได้ วันนี้ก็ต้องเชื่อฟังหมอและระบบสาธารณสุข ซึ่งเขาก็ยืนยันว่าถ้าเราฉีดที่นั่นอย่างนั้นและคนที่เข้ามาฉีดครบ 2 เข็มแล้วอยู่ในพื้นที่ที่เป็นเกาะก็คอนโทลได้ ถ้าทำตรงนั้นได้เราก็มาดูในพื้นที่ที่เป็นแผ่นดินใหญ่โดยต้องทยอยถ้าทำทีเดียวก็เกิดปัญหา ที่ผ่านมาทุกคนเดือดร้อนและขอผ่อนคลายผ่อนคลายให้แล้วเกิดปัญหาก็ต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงปัญหาเตียงไม่เพียงพอด้วยว่า กำลังดำเนินการอยู่ โดยวันนี้เร่งเพิ่มเตียงผู้ป่วยสีแดง และวันหน้าหากไม่พอก็ต้องกระจายไปต่างจังหวัด เพื่อเคลื่อนย้ายคนป่วยไปที่อื่นๆ โดยได้สั่งการให้มีการขยายรับผู้ป่วยให้มากขึ้น ซึ่งปัญหานอกจากมีสถานที่และเครื่องมือแล้วต้องมีบุคลากรทางการแพทย์โดยจะมีการให้หมอที่จบใหม่เข้ามาช่วย ซึ่งทุกอย่างต้องคิด อย่างละเอียดอาจจะถูกใจบ้างหรือไม่ถูกใจบ้าง แต่เมื่อฟังทุกคนแล้วเราก็ต้องมีการปรึกษาและทำอย่างไรให้ดีที่สุด ย้ำว่าเห็นใจทุกคน หากเห็นใจซึ่งกันและกันไปได้หมด แต่ถ้าไม่เห็นใจซึ่งกันและกันมันก็ไปไม่ได้ ความขัดแย้งก็สูงขึ้น ดังนั้นการเมืองขออย่าเพิ่งก่อนวันนี้
เมื่อถามว่ากับสถานการณ์ต่างๆรวมถึงมีม็อบในวันนี้นายกฯ หวั่นไหวหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “ผมจะหวั่นไหวอะไร ผมยืนอยู่ตรงนี้ผมไม่เคยหวั่นไหวอะไรทั้งสิ้น ผมเคยบอกแล้วว่าผมจะทำของผมให้ดีที่สุดตราบใดที่ผมยังทำได้ก็แค่นั้น ผมรักประชาชน รักอย่างเจตนารมณ์อันบริสุทธิ์และผมไม่ได้ต้องการอะไรจากเขา มีแต่เพียงผมจะดูแลให้เขามากที่สุด ตอนนี้ทุกคนช่วยกันหมด เมื่อรัฐบาลช่วยกันรัฐบาลเป็นหนึ่งเดียว เรื่องอื่นๆเรื่องสภาก็ว่ากันไปแล้วเป็นหนึ่งเดียวกันในการดูแลประชาชน จึงต้องดูผลงานที่ครม.ทำมา”
ทั้งนี้ภายหลังการแถลงข่าว นายกฯได้ หันมายกมือขอบคุณรองนายกรัฐมนตรีพร้อมผู้ที่เกี่ยวข้องที่ พร้อมกล่าวว่า“ขอขอบคุณทุกคน ครม.ไม่ได้หลับได้นอนไม่ได้หยุด ทำงานทุกวัน”
