วันจันทร์, พฤษภาคม 20, 2024
หน้าแรกNEWS"อาคม" รับเล็งกู้เงินต่างชาติอีก "พิธา" จับผิดมีงบไขมันซ่อนกว่าหมื่นล. ชงปรับโครงสร้างรัฐราชการ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“อาคม” รับเล็งกู้เงินต่างชาติอีก “พิธา” จับผิดมีงบไขมันซ่อนกว่าหมื่นล. ชงปรับโครงสร้างรัฐราชการ

สภาถกงบฯ ปี 65 วาระ 2-3 “อาคม” ยันกมธ.ปรับลด- โอนงบประมาณคำนึงถึงแก้โควิด เล็งกู้เงินจากต่างชาติเพิ่ม ด้านฝ่ายค้านชี้ทำงบฯ ผิดกฎหมายเลือกตั้ง “พิธา” จับผิดมีงบไขมันซ่อนกว่าหมื่นล้าน เสนอปรับโครงสร้างรัฐราชการไทยแก้ปัญหาระยะยาว  ก้าวไกลแฉซ้ำผลาญงบกลาง ให้กห.1.6 พันล.สร้างสถานที่กักตัว

เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท วาระ2-3  หลังจากกรรมาธิการวิสามัญฯะิจารณาเสร็จแล้ว

ซึ่งมีนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง  ในฐานะประธานกมธ.ได้เสนอรายงานอย่างสรุปต่อที่ประชุม ว่า ร่างพ.ร.บ.งบฯ 65 วงเงิน 3.1 ล้านล้านบาท กมธ.ฯ ปรับลด 16,362 ล้านบาท สำหรับการเพิ่มงบประมาณ ให้กับงบกลางรายการค่าใช้จ่ายบรรเทาแก้ปัญหาและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการะบาดของโควิด ตามจำนวนที่ปรับลดงบประมาณ นอกจากนั้นยังอนุมัติให้เปลี่ยนแปลงงบประมาณ พ.ศ.2565 ส่วนของ สำนักงานปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ สำนักงานนโยยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จำนวน 38 ล้านบาท เป็นงบประมาณของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อให้สอดคล้องกับ พ.ร.บ.ปรับปรุง กระทรวง ทบวง กรม
“การปรับลดและเพิ่มงบปะมาณให้ความสำคัญ ต่อความพร้อมและศักยภาพของหน่วยงาน ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ภารกิจเพื่อแก้ไขปัญหาโควิด-19 รายการจำเป็นเร่งด่วน เป็นประโยชน์กับประชาชน เพื่อให้ดำเนินการตามกรอบวงเงินงบประมาณ 3.1ล้านล้านบาท ตามที่สภาฯ รับหลักการวาระแรก” นายอาคม กล่าว

ทั้งนี้สมาชิกได้อภิปรายในมาตรา 4 งบประมาณรายจ่ายฯ 3.1ล้านล้านบาท ที่ขอให้ปรับลดหลักแสนล้านบาท เนื่องจากพบการจัดสรรงบประมาณที่ไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาของประเทศ รวมถึงพบการจัดงบประมาณที่ไม่เหมาะสมกับสภาพและเหตุการณ์ของบ้านเมือง

โดยนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ฐานะกมธ.ฯเสียงข้างน้อย อภิปรายว่า งบประมาณปี 2565 ที่ปรับลดเมื่อเทียบกับปี 2564 และ ปี 2563 พบว่างบที่ลดคือ งบดำเนินงาน และงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชน รวมถึงไม่มีโครงการที่พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลได้หาเสียงไว้กับประชาชน ตนขอปรับลด 4% หรือ 1.2 แสนล้านบาท เพื่อให้รัฐบาลจัดงบเพื่อแก้ปัญหา ไม่ใช่ซื้ออาวุธ เครื่องบิน หรือส่ิงที่ไม่จำเป็น

“งบประมาณรอบนี้ คือโอกาสสุดท้ายที่จะปรับเปลี่ยนงบเพื่อช่วยเหลือประชาชน ให้พรรคซีกรัฐบาลนำไปใช้สำหรับนโยบายที่หาเสียงเลือกตั้งกับประชาชน ที่รัฐบาลปัจจุบันไม่ได้ตั้งไว้ เพราะหากไม่ดำเนินการ คาดว่าจะมีผู้ยื่นว่าพรรคร่วมรัฐบาลทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และนำไปสู่ศาลฏีกา” นายวรวัจน์ อภิปราย

นายวรวัจน์ อภิปรายด้วยว่า การลงมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบฯ ถือว่ายากลำบากและเสี่ยงต่อการทำผิดกฎหมายเพราะไม่มีงบประมาณที่ใช้เพื่อดำเนินนโยบายของพรรคการเมือง เช่น พรรคพลังประชารัฐ ต่อการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 400 – 425 บาทต่อวัน, เงินเดือนปริญญาตรี 2หมื่นบาท, อาชีวะ 1.8 หมื่นบาท, พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 4ปี, ตั้งกองทุนหมู่บ้านพลังประชารัฐ หมู่บ้านละ 2 ล้านบาท , พรรคประชาธิปัตย์ ที่ประกาศนโยบาย เด็กแรกเกิดรับ 5,000 บาท เดือนต่อไปจนถึง 8 ปี เดือนละ 1,000 บาท, เบี้ยผู้สูงอายุ 1,000 บาท, พรรคภูมิใจไทย ต่อค่าแรง อสม. 800 -1,000 บาท เป็นต้น

ทางด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฐานะกมธ.ฯ อภิปรายให้ปรับลดงบประมาณ 1แสนล้านบาท เพราะยังพบกลุ่มงบประมาณที่ไม่ตอบโจทย์การแก้ไขวิกฤต แบ่งเป็น 3 กลุ่มไขมัน คือ ไขมันความมั่นคง ที่พบว่ามีงบจัดซื้ออาวุธในกระทรวงกลาโหม หรืองบซื้อปืนตำรวจ, ไขมันกลุ่มก่อสร้าง เป็นงบก่อสร้าง บ้านพัก, สร้าอาคาร แม้งบปี 2565 จะถูกตัด 1,000 ล้านบาท จากเงินทั้งหมด 1.7 แสนล้านบาท ถือว่าน้อย เมื่อเทียบกับงบสวัสดิการประชาชน เช่น งบประกันสังคม ตัด 1.9 หมื่นล้านบาท, งบสวัสดิการประชาชน ตัด 2หมื่นล้านบาท และ ไขมันที่เป็นงบพิรุธ การจัดซื้อในมูลค่าที่สูงกว่าราคาตลาด ตนเชื่อว่าหากตัดได้อีก จะประหยัดความฟุ่มเฟือยของประเทศได้อีกหลายหมื่นล้านบาท

“ทางเลือกระยะยาวสำหรับการประหยัดงบประมาณ ต้องปรับโครงสร้างรัฐราชการไทย โดยเฉพาะหน่วยงานที่เป็นต้นเหตุ งบซ้ำซ้อน ไม่ชัดเจน เช่น กลาโหม มีหน่วยงานด้านกฎหมาย เช่น กรมพระธรมนูญสำนักงานพระธรรมนูญทหาร กระทรวงคมนาคม มีกรมท่าอากาศยาน และ การท่าอากาศยาน , มีกรมทางหลวง และ กรมทางหลวงพิเศษ เป็นต้น ทั้งที่หน่วยงานดังกล่าวมีบทบาทเหมือนกัน”

น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.สบัญชีรายชื่อ ในฐานะกมธ. อภิปรายว่า ควรปรับโครงสร้างงบประมาณให้ตอบสนองวิกฤต เช่นค่าใช้จ่ายบุคลากร เงินเดือนข้าราชการ คิดเป็น 40 เปอร์เซนต์ของงบประมาณทั้งหมด เพิ่มขึ้นทุกปี คงเพิ่มต่อเนื่องในงบประมาณปี 66และปี67 แต่การจัดเก็บรายได้น้อยกว่าที่ตั้งไว้ อีกไม่นานสำนักงบประมาณจะปรับลดเงินเดือนบุคลากรภาครัฐ หากไม่รื้อโครงสร้างงบประมาณใหม่ ส่วนการกระจายอำนาจ ที่ผ่านมาส่วนกลางหวงอำนาจ ไม่กระจายอำนาจให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาทิ โครงการแก้มลิง100กว่าโครงการของกรมชลประทาน การตัดถนนทางหลวงชนบทของกรมทางหลวงชนบท หรือกระทั่งการเก็บผักตบชวาที่หน่วยงานส่วนกลางไม่ยอมปล่อยมือให้ท้องถิ่นทำ แต่คงไว้ให้กรมต่างๆ 6กรม ทำงานเก็บผักตบชวา เพราะมีงบต้องเก็บทุกปี

ด้านนายอาคม ชี้แจงว่าเป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งวินัยการเงินการคลังของรัฐ หรือ หนี้สาธารณะ ทั้งนี้การจัดงบในวงเงินดังกล่าวเมื่อชะลดหรือปรับลด กมธ.ฯ เน้นการแก้ปัญหา พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เรื่องหนี้สาธารณะต้องปรับแผนการก่อหนี้ ในแผนที่ผ่านมา โครงการหรือแผนงานที่เสนอมีปัญหาความพร้อม หรือพร้อมแต่มีปัญหาการปฏิบัติ กระทรวงการคลังที่ผมให้นโยบาย คือ ทบทวนโครงการลงทุนต่างๆ ที่ขอใช้เงินกู้ ต้องเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล , ประเด็นของโลก โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ มิตรต่อสิ่งแวดล้อม โครงการที่เสนอต้องเข้มงวด ไม่ใช่แค่จองช่ือไว้ นอกจากนั้นโครงการที่บรรจุแต่ล่าช้า การเบิกจ่ายต้องพิจารณากู้เท่าที่จำเป็น” นายอาคม ชี้แจง

รมว.คลัง ชี้แจงว่า การกู้เงินที่ได้รับอนุมัติ ต้องทยอยและพิจารณาตลาดพันธบัตรสภาพคล่องภายในประเทศ เพื่อไม่ให้รัฐบาลแย่งเงินของเอกชน การกู้เงินต้องพิจารณาแหล่งเงินกู้ ที่ผ่านมา 98% กู้ภายในประเทศ หากต้องการให้เอกชนลงทุนอาจกระทบสภาพคล่อง
ภายในประเทศ ทำให้ต้องพิจารณาใช้เงินกู้ต่างประเทศ กรณีการสั่งซื้ออุปกรณ์เงินตราต่างประเทศ ขณะนี้ดอกเบี้ยจ่ายของเรามีภาระต่ำให้มีขีดความสามารถกู้ได้

ต่อมา ได้พิจารณามาตรา 6 งบกลาง จำนวน 587,409 ล้านบาท โดยน.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกมธ. กล่าวว่า ขอตัดงบกลาง จำนวน 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งปีนี้มีการเพิ่มงบประมาณให้งบกลางอีก จำนวน 1.63 หมื่นล้าน เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายและบรรเทาสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทั้งที่ความจริงได้ตั้งเงินสำรองจ่ายเพื่อฉุกเฉินและความจำเป็นอยู่แล้ว จำนวน 89,000 ล้านบาท ซึ่งตนคิดว่าน่าจะมากเกินพอแล้ว เพราะที่ผ่านมา สภาฯเพิ่งอนุมัติพ.ร.ก.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท เพราะฉะนั้นเงินไม่พอจึงไม่ใช่ปัญหาสำคัญ แต่ปัญหาที่สำคัญ คือ การใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม งบกลางที่ให้อำนาจตรงกับนายกฯ ตรวจสอบได้ยาก ตนขอข้อมูลไป ก็ได้ข้อมูลการเบิกจ่ายจากสำนักงานงบประมาณของรัฐสภา ถึงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมาเท่านั้น โดยงบประมาณเพื่อบรรเทาโควิด 9 เดือนที่ผานมา เบิกจ่ายได้เพียง 23 เปอร์เซ็นต์ ส่วนงบกลางเพื่อสำรองใช้ยามจำเป็น เพิ่งเบิกจ่ายได้ 3 เปอร์เซ็นต์ หรือ2,743 ล้านบาท 

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า งบกลางเพื่อใช้บรรเทาโควิดนั้น ถ้าเป็นโครงการใหญ่จะอนุมัติโดยตรงจากมติครม. ซึ่งมีโครงการที่น่าสงสัย เช่น การอนุมัติงบประมาณให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อทำสถานกักตัวของรัฐ จำนวน 1,613 ล้านบาท ซึ่งเรื่องนี้ไม่น่าจะใช้ความเชี่ยวชาญของกระทรวงกลาโหม นอกจากนี้ ยังมีโครงการที่ไม่เข้าใจว่าเกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาโควิดอย่างไร เช่น โครงการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันสู่โอลีโอเคมิคอล แบบครบวงจร จำนวน 22 ล้านบาท  โครงการสร้างรายได้จากอาชีพประมง แหล่งน้ำชุมชน สำนักงานประมง จังหวัดนครราชสีมา 1,147 ล้านบาท  ค่าทำพัฒนาเนินทรายงาม ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศตามเส้นทางท่องเที่ยว 19 ล้านบาท ถามว่าโครงการเหล่านี้เป็นการแก้ไขโควิดอย่างไร

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า เมื่อสืบค้นก็พบว่าโครงการเหล่านี้นำเสนอไปยังคณะกรรมการกลั่นกรองเงินกู้ ตามพ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท เมื่อวันที่ 31 ต.ค.63 มติที่ประชุมเห็นชอบโครงการดังกล่าว แต่เมื่อเสนอเรื่องต่อครม. ได้มีความเห็นของสำนักงบประมาณให้ใช้แหล่งเงินอื่น โดยให้ใช้งบกลาง ในรายการค่าใช้จ่ายบรรเทาและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และยังมีโครงการระดับจังหวัด อีก 86 โครงการ ที่กำลังอยู่ระหว่างการเสนอด้วย ถามว่าการกระทำเช่นนี้จะยิ่งไม่สับสนหรือ รัฐบาลเคยบอกว่าเงินกู้จะไม่ใช้ซ้ำซ้อนกับเงินที่เป็นงบประมาณแผ่นดิน การอนุมัติเช่นนี้ ทำถูกต้องแล้วใช่หรือไม่ ในส่วนของเงินสำรองใช้จ่ายในยามฉุกเฉินจำเป็น ยังพบว่ามีโครงการ ซ่อมสร้างถนน มากถึง 180 โครงการ โครงการเกี่ยวกับแหล่งน้ำประปาอีก 250 โครงการ  ถามว่ามีความจำเป็นเร่งด่วนอย่างไร ฉะนั้นการที่สภาฯกำลังจะเพิ่มงบประมาณให้งบกลางอีก 1.63 หมื่นล้านบาท จะยิ่งมีพื้นที่มากพอให้ทำโครงการอะไรก็ได้ที่อยู่ในอำนาจเห็นชอบของนายกฯใช่หรือไม่ แบบนี้คือการเซ็นต์เช็คเปล่าใช่หรือไม่

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img