วันอาทิตย์, พฤษภาคม 19, 2024
หน้าแรกHighlight“บิ๊กลือ”อำลากำลังพลในโอกาสเกษียณอายุราชการ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“บิ๊กลือ”อำลากำลังพลในโอกาสเกษียณอายุราชการ

ผู้บัญชาการทหารเรือมอบโอวาทแก่กำลังพลในโอกาสอำลาหน่วยในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล ณ พระราชวังเดิม ฝากเตือนใจทุกคนทำบทบาทตัวเองให้ดี ไม่ต้องหวังสิ่งตอบแทน เมื่อเดินไปไหนแหงนหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน 

เมื่อวันที่ 28 ก.ย.พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ  (ผบ.ทร.) ได้เยี่ยมอำลากำลังพลกองทัพเรือ ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล ในโอกาสเกษียณอายุราชการ ณ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร  โดยมี นายทหารชั้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ และหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล รวม 28 หน่วย เข้าร่วมพิธี  


โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มอบโอวาทแก่กำลังพล ความว่า การอำลาหน่วยในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลครั้งนี้ แตกต่างจากทุกครั้งที่ใช้โรงเรียนนายเรือ สมุทรปราการ เป็นสถานที่เยี่ยมอำลาครั้งสุดท้ายก่อนเกษียณอายุราชการ แต่คราวนี้ใช้ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม ซึ่งในอดีตคือโรงเรียนนายเรือ เป็นสถานที่เยี่ยมอำลา ด้วยเพราะที่แห่งนี้คือจิตวิญญาณของกองทัพเรือ ล้นเกล้ารัชกาลที่ 5 ได้ทรงมาเปิดโรงเรียนนายเรือ ณ ที่แห่งนี้ รากแก้วรากแรกได้หยั่งลง ณ ที่นี้ จากนั้นได้ขยายเป็นรากแขนง รากฝอย นำพากองทัพเรือเติบโตโดยลำดับ เหมือนดังเม็ดพันธุ์ที่หว่านลงในพื้นที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ มีการเติบโต มั่นคง แข็งแรง จากทหารเรือที่ต้องสะพายดาบ แบกปืนคาบศิลา ล้าสมัย ไปรบราฆ่าฟันกับอริราชศัตรู ด้วยพระปรีชาสามารถของพระเจ้าอยู่หัว ได้ส่งพระราชบุตรเชื้อพระวงศ์ไปศึกษายังต่างประเทศมาสร้างกองทัพเรือ เป็นกองทัพเรือสมัยใหม่ ที่เข้มแข็ง รบได้ทั้งสี่มิติในปัจจุบัน นี่คือรากเหง้าจิตวิญญาณที่เจริญเติบโตมา

 ประการที่สองอยากจะฝากไว้ก็คือ ด้วยสถานการณ์ที่เราเผชิญในโลกปัจจุบันคือ โควิด -19 ที่เราต้องสวมผ้าหน้ากากอนามัยกันทุกผู้ทุกคน จึงไม่อยากรบกวนพวกเรามากจนเกินไปนัก อย่างที่บอกไว้ว่า ที่นี่คือศูนย์รวมจิตวิญญาณ เราควรจะสวมบทคืนสู่สามัญ เป็นของเตือนใจว่า เมื่อถึงจุดนั้นทุกคนก็ต้องคืนสู่สามัญ สิ่งที่ฝากไว้ก็คือความเจริญงอกงามของกองทัพเรือ แตกกิ่งก้านสาขาต่อไป คนรุ่นหลังเป็นคลื่นลูกต่อ ๆ ไป คลื่นระลอกเเล้วระลอกเล่า ถาโถม ซัดสาดเข้าฝั่งฉันใด พวกเราก็เป็นเช่นนั้น ผู้บัญชาการทหารเรือคนนี้อำลาไป คนใหม่ก็ต้องมา น้อง ๆ ที่อยู่ตรงหน้าบางคนก็ทำงานด้วยความเข้มแข็งในเยาว์วัย บางคนก็เริ่มโรยรา คนรุ่นหลังต้องสามารถทดแทนและดีกว่าคนรุ่นแรก ๆ โดยลำดับ เช่นนี้ก็เชื่อได้ว่ากองทัพเรือของเราจะเข้มแข็งมั่นคงปลอด ภัย เราก็เหมือนต้นไม้ที่แข็งแรงต้องเติบโตต่อไปรดน้ำพรวนดิน ต้องแตกกิ่งก้านสาขาออกดอกออกผลต่อไปนี่คือสิ่งที่ความหมายของสองปีที่ผ่านมา 

“กองทัพเรือมีหน้า มีตา มีชื่อเสียง เกิดได้เพราะอะไร ไม่ใช่หตุเพราะผู้บัญชาการมีความรู้ความสามารถ แต่เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของพวกเราต่างหาก ที่ร่วมมือรับบทบาทหน้าที่ที่พวกเราเองทำ มีมากทำมาก มีน้อยทำน้อย บางครั้งสถานการณ์ไม่ดีไม่เอื้ออำนวยต่อการทำ ก็ศึกษาหาความรู้ไป แต่โดยรวมทุกคนทำบทบาทของตัวเองได้ดีแล้ว เมื่อดีแล้ว ไม่ต้องหวังสิ่งตอบแทน สักวันหนึ่งสิ่งเหล่านั้นจะกลับคืนมาตอบแทนเรา อย่างน้อยเมื่อเดินไปไหน แหงนหน้าไม่อายฟ้า ก้มหน้าไม่อายดิน  นี่คือสิ่งที่ผมอยากจะพูดกับพวกเราเป็นอนุสติเตือนใจ เป็นคำพูดเชิงโอวาทครั้งสุดท้าย ผู้บัญชาการเองต้องอำลาราชการไป ไม่เว้นทุกผู้ทุกคนเป็นเช่นนี้เมื่อถึงวันก็ต้องอำลา ขอขอบคุณทุกผู้ทุกคนที่ร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกัน ทำให้กองทัพเรือมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี มีเกียรติภูมิ ทหารเรือ ต้องเป็นกองทัพทหารของประชาชน หายใจ เชื่อมใจ และมีชะตาชีวิตร่วมกันกับประชาชน สู้เพื่อรับใช้ประชาชน ที่ใดมีศัตรู ที่ใดมีอันตราย ที่นั่นย่อมมีทหารของกองทัพเรือ ให้สมกับคุณค่าที่ส่งมอบให้กับสังคม เป็นกองทัพเรือ ที่ประชาชนเชื่อมั่น และภาคภูมิใจ” ผบ.ทร. กล่าว. 

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img