วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 16, 2024
หน้าแรกHighlightเตือนหน้าฝน..เชื้อโรคเยอะ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

เตือนหน้าฝน..เชื้อโรคเยอะ

กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนหน้าฝนโรคมาก  แนะสวมหน้ากากอนามัยและช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายเพื่อป้องกันโรคติดต่อนำโดยยุงลาย

นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในฤดูฝนนี้ โดยเฉพาะในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยได้รับผลกระทบจากพายุโซนร้อนโนอึล ทำให้ในหลายพื้นที่ของประเทศมีฝนตกอย่างต่อเนื่อง แม้พายุจะผ่านไปแล้วแต่ยังทิ้งร่องรอยไว้คือน้ำขังในภาชนะต่างๆ อาจเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายได้ นั้น กรมควบคุมโรค จึงขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังป้องกันตนเองไม่ให้ถูกยุงกัด เพราะอาจเสี่ยงป่วยด้วยโรคไข้เลือดออก และโรคติดต่อนำโดยยุงลายอื่นๆ และช่วยกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลายเพื่อตัดวงจรการเกิดยุงลายพาหะนำโรค

โดยสถานการณ์ของโรคไข้เลือดออกตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กันยายน 2563 พบผู้ป่วย 55,004 ราย เสียชีวิต 37 ราย สัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 2,159 ราย กลุ่มอายุที่พบมากที่สุด 3 อันดับ คือ 5-14 ปี  รองลงมา 15-24 ปี และ 25-34 ปี ส่วนจังหวัดที่มีอัตราป่วยต่อแสนประชากรสูงสุด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน ระยอง ชัยภูมิ นครราชสีมา และขอนแก่น ตามลำดับ สำหรับสถานการณ์โรคไข้ปวดข้อยุงลาย พบผู้ป่วย 8,369 ราย ซึ่งสูงกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของหลายปีที่ผ่านมา โดยพบกระจายอยู่ทั่วประเทศ แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต ส่วนโรคติดเชื้อไวรัสซิกา พบผู้ป่วย 127 ราย

สำหรับการป้องกันโรคติดต่อนำโดยยุงลายนั้น ขอให้ประชาชนสำรวจพื้นที่ที่มีน้ำขัง และร่วมกันกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายในบริเวณรอบๆ ตัวบ้านและในชุมชน โดยแนะให้ประชาชนเก็บบ้าน เก็บขยะ เก็บน้ำ ตามมาตรการ “3 เก็บ ป้องกัน 3 โรค”

ดังนี้ 1.เก็บบ้านให้สะอาด เช่น พับเก็บเสื้อผ้าใส่ในตู้หรือแขวนให้เรียบร้อย เพื่อไม่ให้มีมุมอับทึบเป็นที่เกาะพักของยุง 2.เก็บขยะที่อยู่บริเวณรอบบ้าน เก็บภาชนะใส่อาหารหรือน้ำดื่มที่ทิ้งไว้ใส่ถุงดำ และนำไปทิ้งลงถังขยะ เพื่อไม่ให้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และ 3.เก็บน้ำ ภาชนะที่ใส่น้ำเพื่ออุปโภค บริโภค ต้องปิดฝาให้มิดชิด ล้างคว่ำภาชนะใส่น้ำ และเปลี่ยนน้ำในกระถางหรือแจกันทุกสัปดาห์ ป้องกันไม่ให้ยุงลายวางไข่ ซึ่งจะสามารถป้องกันได้ 3 โรค คือ 1.โรคไข้เลือดออก 2.โรคติดเชื้อไวรัสซิกา 3.โรคไข้ปวดข้อยุงลายหรือโรคชิคุนกุนยา

ทั้งนี้ หากประชาชนมีอาการป่วย เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หายใจเหนื่อยหอบ เบื่ออาหาร ปวดท้อง ซึ่งอาจมีลักษณะคล้ายกันหลายโรค ทั้งไข้หวัดใหญ่ ไข้เลือดออก และโรคโควิด 19 จึงขอให้ประชาชนใส่หน้ากากอนามัย รับประทานยาลดไข้ 1-2 วัน ถ้าอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน เพื่อรับการวินิจฉัยโรคหาสาเหตุว่าเกิดจากโรคอะไรและรับการรักษาต่อไป สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img