วันจันทร์, พฤษภาคม 20, 2024
หน้าแรกHighlight“ครกหินแกรนิต-เผือกหอม”ขึ้นทะเบียน GI รุกตลาดใน-นอกประเทศ 
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ครกหินแกรนิต-เผือกหอม”ขึ้นทะเบียน GI รุกตลาดใน-นอกประเทศ 

“พาณิชย์” ประกาศขึ้นทะเบียน GI อีก 2 รายการ ทั้งครกหินแกรนิตตาก-เผือกหอมบ้านหมอ มั่นใจช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าสร้างรายได้ให้ชุมชน

นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า หลังจากกรมทรัพย์สินทางปัญญา เดินหน้าทำงานเชิงรุก ขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ครบ 77 จังหวัดทั่วประเทศ เมื่อปีที่ผ่านมา ล่าสุด ได้ประกาศขึ้นทะเบียน GI เพิ่มอีก 2 รายการ คือ “ครกหินแกรนิตตาก” ของจังหวัดตาก และ “เผือกหอมบ้านหมอ” ของจังหวัดสระบุรี ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชนด้วยความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถผลิตในท้องถิ่น พร้อมส่งเสริมให้มีการรักษาคุณภาพผ่านระบบคุณภาพมาตฐานสินค้า GI ทำให้สร้างมูลค่าทางการตลาดให้กับสินค้า GI มูลค่า 40,000 ล้านบาท    

สำหรับครกหินแกรนิตตากเป็นผลิตภัณฑ์จากหินแกรนิตในจังหวัดตาก ครอบคลุมพื้นที่ 4 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตาก อำเภอบ้านตาก อำเภอสามเงา และอำเภอวังเจ้า โดยครกจะมีรูปทรงเป็นทรงกลม มีขอบด้านข้างใช้สำหรับจับหรือยก ผลิตด้วยเครื่องมือที่ทำให้ได้รูปทรงที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและได้มาตรฐาน แข็งแรงทนทาน ไม่เปราะ ไม่กะเทาะหลุดง่าย

ส่วนเผือกหอมบ้านหมอ ปลูกในจังหวัดสระบุรีครอบคลุมพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอบ้านหมอ อำเภอดอนพุด และอำเภอหนองโดน เป็นเผือกหอมมีหัวขนาดใหญ่ สายพันธุ์เผือกหอมเชียงใหม่หรือเผือกหอมพิจิตร เนื้อเผือกมีสีขาวอมม่วงอ่อน มีเส้นใยสีม่วงกระจายทั่วหัว เมื่อนำมานึ่งหรือต้มเนื้อเผือกจะร่วนซุย และมีกลิ่นหอมเป็นพิเศษกว่าเผือกหอมทั่วไป 

อย่างไรก็ตาม ในปี 2565 กรมทรัพย์สินทางปัญญาตั้งเป้าหมายในการขึ้นทะเบียน GI อีกจำนวน 18 รายการ อาทิ ผ้าไหมสาเกต จังหวัดร้อยเอ็ด สับปะรดศรีเชียงใหม่ ผ้าตีนจกโหล่งลี้ลำพูน และมะม่วงน้ำดอกไม้สมุทรปราการ เป็นต้น

ส่วนสินค้าที่ขึ้นทะเบียน GI เป็นที่เรียบร้อยแล้วมีทั้งหมด 154 รายการ กรมฯจะเดินหน้าผลักดันให้มีการจัดทำระบบควบคุมคุณภาพสินค้า GI เพื่อรักษามาตรฐานสินค้า GI ตลอดจนส่งเสริมด้านการตลาด ช่วยเพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้สินค้า GI ไทยสามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น สร้างรายได้กลับสู่ชุมชน สร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน 

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img