“รุ่ง”มองเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-33.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐจับตาสถานการณ์ความ ตึงเครียดในยูเครน และราคาน้ำมัน เผยสถิติตั้งแต่ม.ค.-4 มี.ค.ที่ผ่านมา บาทแข็งขึ้นแท่นอันดับ 1 ในภูมิภาคเม็ดเงินต่างชาติไหลทะลักเข้าไทย 1.92 แสนล้านบาท
น.ส. รุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการฝ่ายส่งเสริมธุรกิจและกำกับดูแลโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 32.30-33.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐจับตาสถานการณ์ความตึงเครียดในยูเครน และราคาน้ำมันวันที่ 10 มี.ค. ตัวเลขสำคัญชิ้นสุดท้ายก่อนประชุมเฟด คือเงินเฟ้อ ก.พ. ของสหรัฐฯ ตลาดคาด 7.9%
สำหรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือน ก.พ. ของสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 678,000ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 440,000 ตำแหน่งส่วนอัตราการว่างงานปรับตัวลงสู่ระดับ 3.8% ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.9%
อย่างไรก็ตาม ภาพใหญ่กระแสเงินทุนยังไหลเข้าไทย ในลักษณะหลุมหลบภัยสงครามแต่ต้องระวังผลกระทบจากราคาน้ำมันในตลาดโลกต่อเศรษฐกิจไทยเช่นกัน ทั้งนี้ตั้งแต่ม.ค.- 3 มี.ค. นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิหุ้นไทย 8.7 หมื่นล้านบาท และพันธบัตรซื้อสุทธิ ไทย 1.05 แสนล้านบาท
ส่วนการเคลื่อนไหวสกุลภูมิภาค ตั้งแต่ ม.ค.- 4 มี.ค.ที่ผ่านมาพบว่าบาท-ไทยแข็งค่าสุด 2.50%รองลงมาคือหยวน -จีน 0.58% ยกเว้นรูปี-อินเดียอ่อนสุด 2.28%วอน-เกาหลีใต้ 1.88 %ดอลลาร์-ไต้หวัน 0.75%เปโซ-ฟิลิปปินส์ 1.36% รูเปียห์-อินโดนีเซีย 0.90%ดอลลาร์-สิงคโปร์ 0.67%ริงกิต-มาเลเซีย 0.46% และดอง-เวียดนาม 0.07 % ค่าเงินบาทได้แรงหนุนจากเงินทุนไหลเข้า รวมถึงการที่จีนพิจารณาแนวทางผ่อนปรนนโยบาย Zero Covid ซึ่งสร้างความหวังว่าไทยจะได้กลับมาต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนในปีนี้
