วันอาทิตย์, พฤษภาคม 19, 2024
หน้าแรกHighlightดอลลาร์แข็ง-บอนด์ยิลด์พุ่งกดเงินบาทอ่อน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ดอลลาร์แข็ง-บอนด์ยิลด์พุ่งกดเงินบาทอ่อน

ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.57 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่า หลังดอลลาร์แข็ง-บอนด์ยิลด์สหรัฐฯพุ่ง ขณะที่อีซีบีส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในเดือนก.ค.นี้

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักวิเคราะห์ประจำห้องค้าเงิน ธนาคารกรุงไทย  เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ  34.57 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ  34.49 บาทต่อดอลลาร์  โดยแนวโน้มค่าเงินบาทผันผวนและมีโอกาสอ่อนค่าทดสอบแนวต้านในโซน 34.70-34.80 บาทต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นโซนที่ผู้ส่งออกต่างรอทยอยขายเงินดอลลาร์อยู่  ซึ่งแรงกดดันฝั่งอ่อนค่ายังคงเป็น ความกังวลเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยที่หนุนให้เงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่าขึ้น 

ซึ่งต้องรอติดตามรายงานข้อมูลเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ ในวันนี้อย่างใกล้ชิด เพราะหาก เงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นจากเดือนก่อนหน้ามากกว่าคาด ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดเพิ่มความคาดหวังการเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงของเฟด นอกจากนี้ เงินบาทก็อาจเผชิญแรงกดดันใหม่ หลังจากที่มีรายงานว่า ทางการจีนได้ใช้มาตรการ Lockdown เพื่อควบคุมการระบาดในบางพื้นที่ของนครเซี่ยงไฮ้ ซึ่งภาพดังกล่าวอาจกดดันบรรยากาศการลงทุนสินทรัพย์ในฝั่ง EM Asia ได้

ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูง เราคงแนะนำว่า ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ ใช้ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนมองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.55-34.75 บาท/ดอลลาร์

โดยแนวโน้มบรรดาธนาคารกลางอาจเดินหน้าเร่งขึ้นดอกเบี้ย เพื่อควบคุมปัญหาเงินเฟ้อยังคงเป็นปัจจัยที่กดดันตลาดการเงินในช่วงนี้ โดยล่าสุด ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ส่งสัญญาณพร้อมขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมเดือนกรกฎาคม 0.25% และหากแนวโน้มเงินเฟ้อระยะกลางเร่งตัวขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ ECB ก็พร้อมเร่งขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนกันยายน นอกจากนี้ ECB ยังได้ประกาศเตรียมยุติโครงการซื้อสินทรัพย์หรือคิวอี (Asset Purchase Program: APP) ในเดือนนี้ 

ซึ่งแนวโน้มการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นมากของ ECB ได้กดดันให้ในฝั่งตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี STOXX600 ย่อตัวลงต่อเนื่อง -1.36% ส่วนในฝั่งตลาดหุ้นสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดก็ยังคงกังวลแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟด หากรายงานเงินเฟ้อ CPI ในวันนี้ ยังคงอยู่ในระดับสูงและมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง 

ซึ่งความกังวลปัญหาเงินเฟ้อและการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟดได้หนุนให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 3.06% กดดันให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ต่างปรับตัวลดลง นำโดยดัชนีหุ้นเทคฯ Nasdaq -2.75% ส่วนดัชนี S&P500 ก็ปรับตัวลดลง -2.38% 

ส่วนตลาดบอนด์ แนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของบรรดาธนาคารกลางหลัก ได้กดดันให้ผู้เล่นในตลาดต่างลดการถือครองพันธบัตรระยะยาวลง ทำให้บอนด์ยีลด์ 10 ปี ส่วนใหญ่ ต่างปรับตัวสูงขึ้น อาทิ บอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นกลับสู่ระดับ 3.06%

ทั้งนี้มองว่าตลาดบอนด์ยังคงเผชิญความผันผวน จนกว่าตลาดจะมั่นใจแนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐฯ รวมถึงทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ซึ่งต้องรอลุ้นรายงานเงินเฟ้อ CPI ในวันนี้ และรอติดตาม Dot Plot ใหม่จากการประชุมเฟดเดือนมิถุนายน

ด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก โดยล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY Index) ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องสู่ระดับ 103.3 จุด ตามการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ท่ามกลางความกังวลแนวโน้มเงินเฟ้อสหรัฐฯ อาจปรับตัวขึ้นต่อและหนุนโอกาสเฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง 

นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าลงของเงินยูโร (EUR) ที่พลิกกลับมาอ่อนค่าลงต่อเนื่อง สู่ระดับ 1.06 ดอลลาร์ต่อยูโร สวนทางกับที่เราคาดการณ์ไว้ แม้ว่า ECB จะส่งสัญญาณพร้อมขึ้นดอกเบี้ยอย่างชัดเจน แต่ ECB ก็ได้ปรับลดคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจลงพอสมควร พร้อมปรับเพิ่มประมาณการเงินเฟ้อขึ้นมาก ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังคงกังวลภาพเศรษฐกิจยุโรปและมองว่าความเสี่ยง Stagflation (เศรษฐกิจชะลอ บนภาวะเงินเฟ้อสูง) เพิ่มมากขึ้น 

อย่างไรก็ตาม การแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ พร้อมกับการปรับตัวขึ้นของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ยังคงกดดันให้ราคาทองคำย่อตัวลงสู่ระดับ 1,848 ดอลลาร์ต่อออนซ์ 

สำหรับวันนี้ ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ รายงานข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ โดยตลาดประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป CPI เดือนพฤษภาคม อาจเร่งขึ้น 0.8% จากเดือนก่อนหน้า (+8.3%y/y) หนุนโดยการเร่งขึ้นของราคาน้ำมันเชื้อเพลิง รวมถึงราคาสินค้าในภาคการบริการและค่าเช่าบ้านที่ยังคงปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง 

ซึ่งการเร่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้อทั่วไปอย่างต่อเนื่อง อาจสะท้อนว่า เฟดยังมีโอกาสเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรง หรือ เฟดสามารถขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนกันยายนรวมถึงการประชุมหลังจากนั้นได้ ซึ่งความไม่แน่นอนของทิศทางดอกเบี้ยนโยบายเฟดอาจกดดันให้ตลาดการเงินผันผวนมากขึ้นได้ 

อย่างไรก็ดี เราประเมินว่า แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอาจมีความชัดเจนมากขึ้น หลังเฟดเปิดเผย Dot Plot ใหม่ในการประชุมเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ อนึ่ง ความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจจากปัญหาเงินเฟ้อและการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด จะกดดันให้ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (U of Michigan Consumer Sentiment) เดือนมิถุนายน ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 58 จุด จาก 58.4 จุด ในเดือนก่อนหน้า

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img