ตลาดหุ้นไทยปิดลบ 4.08 จุด กังวลความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์หลัง “เพโลซี” เยือนไต้หวัน-จับตากลุ่มโอเปกพลัสเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันหรือไม่ หากเพิ่มมากกว่าคาดกดหุ้นกลุ่มพลังงาน มองแนวโน้มพรุ่งนี้แกว่งในกรอบ 1,560 -1,600 จุด ชู 3 หุ้นเด่นdefensive ราคาแลกการ์ด
นายภราดร เตียรณปราโมทย์ รองผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,589.16 จุด ลบ 4.08 จุดหรือ0.26 % ระหว่างวันซื้อขายสูงสุด 1,598.54 จุด และต่ำสุดที่ 1,585.71 จุด มูลค่าการซื้อขาย 59,464.45 ล้านบาทว่า ตลาดหุ้นไทยปิดลบเล็กน้อย ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเหนือปรับตัวลงหนัก เช่น จีน ลง 2.3%ไต้หวัน 1.6% ญีุ่ป่น 1.4%
หลังจากที่นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ได้เดินทางเยือนไต้หวันทำให้ตลาดเกิดความกังวลความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ เพราะหากมีสถานการณ์ความเสี่ยงเกิดขึ้นจะเป็นปัจจัยกดตลาด เพราะสหรัฐฯ จีน และไต้หวันถือเป็นประเทศยักษ์ใหญ่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโลกมากกว่าปมขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครนสำหรับหุ้นที่กลุ่มกดตลาดเป็นชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ เช่น DELTA ลง 5.1%ราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงกดหุ้นกลุ่มพลังงาน เช่น PTTลง 1% BANPU ลง 2%
ส่วนราคาน้ำมันที่ร่วงเป็นผลมาจากความกังวลเศรษฐกิจถดถอย และการเกิด Inverted Yield Curve หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรุ่นอายุ 2 ปี สูงกว่าระยะยาว 10 ปี นอกจากนี้จะต้องติดตามการประชุมกลุ่มโอเปกพลัสว่าจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันหรือไม่ ถ้าเพิ่มซัพพลายจะกดดันหุ้นพลังงาน
รวมถึงตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญอื่น ๆ เช่นการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.คาดว่าจะอยู่ที่ 2.75 แสนตำแหน่งลดลงจากเดือนมิ.ย.อยู่ที่ 3.7 แสนตำแหน่งถ้าตัวเลขต่ำกว่าเดิมจะทำให้เกิดความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยมากขึ้น ตลอดจนการประกาศเงินเฟ้อไทยคาดว่าจะอยู่ที่ 7.9%
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยปรับฐานเนื่องจากที่ผ่านมาได้ปรับขึ้นมาก่อนหน้านี้ประเมินกรอบพรุ่งนี้ 1,560 -1,600 จุด เน้นลงทุนหุ้น defensiveราคาแลกการ์ด นำโดย TRUE (FV@B5.70) BEM (FV@B 10.30)PYLON (FV@B 6.45)
