วันเสาร์, พฤษภาคม 18, 2024
หน้าแรกHighlightรายย่อยขายเกิน80บาทถึงถูกริบโควต้า เร่งเพิ่มจุดขาย80บาทครบพันจุดก.ค.นี้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

รายย่อยขายเกิน80บาทถึงถูกริบโควต้า เร่งเพิ่มจุดขาย80บาทครบพันจุดก.ค.นี้

“โฆษกแก้หวยแพง” เตือนผู้ค้ารายย่อยถ้าขาย 80 บาทก็จะไม่ถูกริบโควต้า แต่ถ้าขายเกินถึงถูกริบ เผยสลากดิจิทัลมีผลตอบรับดีมาก นายกฯกำชับให้ดูแลทั้ง 2 ระบบให้สมดุลอย่างเป็นธรรม เร่งเพิ่มจุดจำหน่ายสลาก 80 บาทให้ครบ 1 พันจุดเร็วสุดภายในเดือนก.ค.นี้

เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.65 น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และในฐานะโฆษกคณะกรรมการแก้ไขปัญหาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการเสนอขายหรือขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในราคาที่เกินกว่าที่กำหนดในสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการประชุมทั้งคณะกรรมการแก้ไขปัญหาสลากเกินราคา และคณะกรรมรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เรื่องผลการจำหน่ายสลากดิจิทัล 2 งวดที่ผ่านมา ซึ่งมีผลตอบรับของประชาชนอย่างมากกับราคาสลาก 80 บาท โดยคณะกรรมการแก้ไขสลากเกินราคา ได้ให้ความคิดเห็นกับคณะกรรมการสลากฯไปว่า มีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะเพิ่มจำนวนสลากให้มากขึ้นในสัดส่วนของสลากดิจิทัล โดยให้เป็นการเพิ่มแบบค่อยเป็นค่อยไป งวดละ 1-2 ล้านใบก่อน โดยตั้งเป้าไว้ว่า ภายในสิ้นปีนี้จะมี 20 ล้านใบที่จะอยู่ในระบบสลากดิจิทัล และพยายามไม่กระทบกับผู้ค้ารายย่อยด้วย

น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีมีความเป็นห่วงทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย อยากให้มีความสมดุลว่า ในสัดส่วนของสลากดิจิทัลกับสลากที่เป็นใบ เพราะผู้ขายอีกส่วนหนึ่ง ยังคงคุ้ยเคยกับการซื้อขายเป็นใบๆ เป็นห่วงทั้ง 2 รูปแบบการขาย เพราะฉะนั้นนายกฯกำชับว่า อยากให้พิจารณาถึงความเหมาะสม และบาลานซ์ให้ได้ ทั้งผู้ขายแบบดิจทัลและผู้ขายแบบใบ ก็ต้องดูแลให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย เน้นการแก้ไขปัญหาให้สลากมีราคา 80 บาทให้ถึงมือประชาชนเท่านั้น

น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ส่วนความกังวลเรื่องถูกตัดโควตานั้น หากไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ยังมีสิทธิที่จะขายสลากกินแบ่งรัฐบาลได้แบบใบเหมือนเดิมได้ต่อไป เพียงแต่ท่านต้องไม่ขายเกินกว่าราคาที่กำหนด 80 บาท หากมีการตรวจพบก็จะถูกริบโควต้าทันที และอนาคตผู้ค้าสลากแบบแผง อยากจะเข้ามาสู่ระบบการขายแบบดิจิทัลนั้น ต้องชี้แจ้งว่า ณ ช่วงที่ทางคณะกรรมการฯทำงานในช่วงแรก ได้ให้กองสลากเปิดรับแบบให้สิทธิพิเศษผู้ค้ารายเดิม ลงทะเบียนขายแบบดิจิทัลก่อนคนทั่วไป ซึ่งมีผู้ค้ารายเดิมเพียง 3,000 รายสมัคร จากความต้องการ 10,000 กว่าราย ทางกองสลาก จึงต้องเปิดรับประชาชนทั่วไปเพิ่มกว่าอีก 7,000 ราย เพื่อให้เพียงพอต่อการเปิดร้านขายดิจิทัลสลาก 5,173,500 ล้านใบในงวดแรก ซึ่ง ณ ตอนนี้ปิดรับสมัครไปแล้ว และมีผู้ที่สมัครแสดงความจำนงไว้อยู่กว่า 7 หมื่นราย ดังนั้นผู้ค้าสลากแบบแผงที่ไม่ได้แสดงเจตจำนงไว้ ท่านต้องรอคิวเปิดรอบใหม่อีกครั้ง

ส่วนที่ผู้ค้ารายย่อยกังวลว่าลูกค้าจะไม่ซื้อสลากใบนั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ปัจจุบันสลากดิจิทัลเป็นเพียง 5% ของ 100 ล้านใบ สัดส่วนส่วนแบ่งตลาดถือว่าน้อยมากกับความต้องการ แต่สิ่งที่กระทบมากสุดคือ ความรู้สึกของผู้ซื้อ ที่ยังเห็นราคาสลากหน้าแผงขายเกินราคา ผู้ซื้ออาจจะควักเงินจ่ายหน้าแผงยากขึ้น มีความลังเลในการตัดสินใจซื้อมากขึ้น ส่วนที่จะเพิ่มเป็น 20% หรือ 20 ล้านใบนั้น ก็เป็นสัดส่วนที่ค่อยเป็นค่อยไป

ส่วนที่มีข้อกังวลว่า สาเหตุที่สลากดิจิทัลขายหมดเร็วเพราะมีการกว้านซื้อมากักตุน สุดท้ายไปบวกเพิ่มเป็นใบละ 100 เกิน 80 บาทเหมือนเดิมหรือไม่ น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า สลากดิจิทัลไม่สามารถจะซื้อแล้วนำไปขายต่อได้ เพราะผู้ซื้อผ่านแอปฯเป๋าตัง จะถูกบันทึกตัวตนไว้ในระบบเลยว่า ท่านเป็นผู้ซื้อสลากนี้ แล้วทำการผูกบัญชีผ่านแอปฯ หากถูกรางวัลจะจ่ายตรงให้กับผู้ซื้อสลากใบนี้เท่านั้น ดังนั้นการนำไปขายต่อ ก็เป็นการกระทำผิดเงื่อนไข ผู้ที่ซื้อต่อไปก็มีความเสี่ยงที่เมื่อถูกรางวัลแล้ว จะไม่ได้รับเงินรางวัลด้วย เพราะฉนั้นหากพี่น้องประชาชนพบเห็นการขายต่อสลากดิจิทัล ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือโทรมากองสลากได้เลย แล้วขอให้ช่วยกันส่งต่อข้อมูลที่ถูกต้องว่าไม่ซื้อสลากดิจิทัลที่มีคนนำมาขายต่อ เพราะว่าอาจจะเป็นกลลวงของมิจฉาชีพได้

น.ส.ทิพานัน กล่าวอีกว่า ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ เพื่อเร่งเพิ่มจุดจำหน่ายสลาก 80 บาทให้ครบ 1 พันจุดให้เร็วที่สุดภายในเดือนก.ค.นี้ โดยตรวจสอบคุณสมบัติผู้ขายและจุดจำหน่าย ซึ่งตอนนี้มีเกือบ 800 จุดทั่วประเทศ แผนการที่จะเพิ่มในอนาคตให้มากกว่า 1 พันจุดขึ้นไปอีก โดยมีแผนที่จะดำเนินการเพิ่มเติม เนื่องจากมีคนสมัครเป็นตัวแทนขายผ่านการคัดเลือกสลาก 80 บาทเป็นจำนวนมาก

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img