วันศุกร์, พฤษภาคม 17, 2024
หน้าแรกHighlightฝ่ายค้านยื่นเอกสารแย้ง“มีชัย” เข้าข่ายให้การเท็จ ยืนกรานเริ่มนับ 24 ส.ค.57
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ฝ่ายค้านยื่นเอกสารแย้ง“มีชัย” เข้าข่ายให้การเท็จ ยืนกรานเริ่มนับ 24 ส.ค.57

“ฝ่ายค้าน” ยื่นหลักฐานเพิ่มบันทึกประชุมกรธ. ให้ศาลรธน. ซัด “มีชัย” เข้าข่ายให้การเท็จ-กลับลำ ยืนกรานนับสาระ 8 ปี 24 ส.ค.57 จี้ “ชวน” ส่งวันนี้ก่อนที่ศาลนัดตัดสินพรุ่งนี้

วันที่ 7 ก.ย.65 ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และผุ้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ได้ยื่นเอกสารเพิ่มเติมเกี่ยวกับบันทึกการประชุมของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญหรือกรธ.ฉบับที่ 500 และ 501 ถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ ผ่านนพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาฯ

โดยนพ.ชลน่าน กล่าวว่า มีชัย ฤชุพันธ์ อดีตประธานกรธ. เคยให้ความห็นเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งนายกฯ ยืนยันว่าวาระการดำรงตำแหน่งของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.60 โดยอ้างว่ามีบทบัญญัติหลายประการทั้งมาตรา 164 และยังอ้างถึงการจำกัดสิ่ทธิ์ย้อนหลังปี 60 ไม่ได้ รวมถึงอ้างการบันทึกการประชุมกรธ.ครั้งที่ 500 และ 501 เป็นบันทึกไม่ครบถ้วน ไม่สมบูรณ์ ไมมีการรับรองจากที่ประชุมกรธ. เพราะนั้นทางพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่าเป็นปัญหาเรื่องไม่ถูต้องของนายมีชัย และเข้าข่ายให้การเท็จกับศาลรัฐธรรมนูญ ถ้าเป็นจริงฝ่ายค้านจึงรวบรวมความเห็นค้ดค้าน โดบเราให้น้ำหนักว่าต้องเริ่มนับตั้งแต่วันที่ 24 ส.ค.2557 จะอ้างเป็นนายกฯในวันที่ 6 เม.ย. 60 ไม่ได้ เพราะมีพระบรมราชโองการแต่งตั้ง ต้องต่อเนื่องมา และการกระทำที่เกิขึ้นเป็นเหตุผลเชิงประจักษ์

“ฝ่ายค้านได้แนบบันทึกการประชุมครั้งที่ 500 โดยมีละเอียด 22 หน้า และเพื่ออ้างอิงว่าเอกสารครั้งที่ 500 มีความครบถ้วนสมบูรณ์ จึงมีการส่งบันทึกการประชุมครั้งที่ 501 เมื่อวันที่ 11 ก.ย.51 ซึ่งเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย มีเนื้อหารับรองการประชุมของกรธ. ครั้งที่ 497 – 500 ว่ามีความถูกต้องโดยไม่มีการแก้ไข ดังนั้น บันทึกการประชุมครั้งที่ 500 จึงมีความสมบูรณ์ ซึ่งแตกต่างจากที่นายมีชัยพูดว่าบันทึกการประชุมกรธ.ไม่สมบูรณ์ เป็นการกล่าวเท็จเหมือนดคีทั่วไป เป็นการกลับคำให้การในชั้นศาล ถ้าเป็นคดีทั่วไปถือว่าเป็นพยานบุคคลที่ไม่ให้ความสำตัญ ทั้งที่มีเวลาซักซ้อมเอื้อประโยชน์ได้ ดังนั้นสิ่งที่พรรคร่วมฝ่ายค้านส่งไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ขอให้นายชวนส่งไปโดยเร็วที่สุด เพราะศาลรัฐธรรมนูญนัดประชุมพิเศษพรุ่งนี้ เพื่อพิจารณาเอกสารหลักฐานทั้งหมดให้สิ้นสงสัย และอาจนัดวินิจฉัยเลยก็ได้”นพ.ชลน่าน กล่าว

เมื่อถามว่า มองเจตนาที่เอกสารหลุดอย่างไร นพ.ชลน่าน กล่าวว่า มองได้หลายมุม ถ้าเอกสารนี้หลุดออกมาจากตรงไหนจะทำให้เราวิเคราะห์ได้ง่ายขึ้นในเจตนา แต่สิ่งที่คาดการณ์ได้ คือเหมือนการโยนให้สังคมได้วิพากษ์วิจารณ์ว่าคิดอย่างไรในประเด็นนี้ เพื่อทดสอบกระแสสังคม เพราะแนวทางการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ จะให้น้ำหนัก 2 ด้าน คือ ด้านข้อกฎหมาย และด้านข้อเท็จจริงทางรัฐศาสตร์ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นประโยชน์หรือเป็นโทษอย่างไรต่อสังคม สุดท้ายหากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เป็นไปตามที่นายมีชัยให้ความเห็น จะตอกย้ำถึงความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจากการอยากอยู่ยาวของนายกฯ แต่จะสร้างความขัดแย้งจนเกิดวิกฤตขนาดไหนยังไม่รู้

เมื่อถามว่า สิ่งที่นายมีชัยเคยระบุในบันทึกการประชุมครั้งที่ 500 ในปี 61 กับสิ่งที่นายมีชัย ชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญในครั้งล่าสุด อะไรมีน้ำหนักความน่าเชื่อถือมากกว่า นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ปี 61 มีความน่าเชื่อมากกว่า เพราะตอนนั้นนายมีชัย มีสติสัมปชัญญะครบถ้วน แต่สิ่งที่ชี้แจงล่าสุด นายมีชัยลืมแม้กระทั่งว่ามีบันทึกการประชุมครั้งที่ 501 แสดงถึงการมีสติไม่ครบถ้วน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img