“เรืองไกร”ร้อง “ป.ป.ช.” เชิญ “ชูวิทย์ “ให้ข้อมูล 3 หมื่นล้าน รถไฟฟ้าสายสีส้มเพื่อจะได้เอาคนผิดมาลงโทษ
เมื่อวันที่ 26 ก.พ. 66 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา เปิดเผยว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มที่อาจมีการทุจริตมูลค่าความเสียหายถึง 3 หมื่นล้านบาท ตามที่ปรากฏเป็นข่าว จากการกล่าวอ้างของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ นั้น ในรื่องดังกล่าวตนเคยร้องไปที่ ป.ป.ช. เมื่อปลายปีที่แล้ว ต่อมา ป.ป.ช.เคยทำหนังสือถามตนว่ามีข้อมูลเพิ่มเติมหรือไม่ ตนตอบไปได้เพียงบางส่วนเท่านั้น แต่จากข้อมูลที่นายชูวิทย์ออกมาแฉและกล่าวอ้างต่อหน้าสื่อมวลชนในช่วงนี้นั้น ตนเห็นว่า เป็นข้อมูลที่ต้องรีบตรวจสอบ เพราะมีการกล่าวอ้างถึงตัวเลขความเสียหายหรือการทุจริตที่มีมูลค่าสูงถึง 3 หมื่นล้านบาท ดังนั้น ถ้า ป.ป.ช. ได้ข้อมูลตามที่นายชูวิทย์กล่าวอ้าง ก็จะทำให้มีการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และเอาคนผิดมาลงโทษได้ ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและช่วยให้ข้อมูลของนายชูวิทย์ ถูกตรวจสอบโดยตรงจาก ป.ป.ช.
นายเรืองไกร กล่าวว่า ดังนั้น วันนี้ ตนจึงได้ส่งหนังสือไปทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้ป.ป.ช. ตรวจสอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มเพิ่มเติม โดยขอให้ ป.ป.ช. รีบเชิญนายชูวิทย์ไปให้ถ้อยคำ (ตามแนวคำถามที่ ป.ป.ช. เคยถามตนเพิ่มเติม) ดังต่อไปนี้ 1.นายชูวิทย์ประสงค์จะกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดว่ากระทำความผิดตามที่กล่าวหา (โดยระบุชื่อ นามสกุล และตำแหน่ง) และบุคคลดังกล่าว มีหน้าที่ความรับผิดชอบอย่างไร 2.ขอให้นายชูวิทย์ไปให้ถ้อยคำว่า พฤติการณ์ของการกระทำความผิดของแต่ละบุคคลที่กล่าวหา ในแต่ละกรณีกล่าวหาโดยละเอียด พร้อมทั้งระบุพยานหลักฐานที่ยืนยันการกระทำความผิด และขอให้ระบุวัน เวลา และสถานที่เกิดเหตุ ในแต่ละกรณีให้ชัดเจน 3.ขอให้สอบถามนายชูวิทย์ด้วยว่า มีบุคคลใดร่วมกระทำความผิดหรือไม่ หากมี โปรดระบุชื่อ นามสกุล และระบุพฤติการณ์ของบุคคลที่ร่วมกระทำความผิดว่า ได้ร่วมกระทำความผิดในขั้นตอนใด เมื่อใด พร้อมทั้งขอให้นายชูวิทย์ ส่งมอบหรือแจ้งพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดด้วย และ 4.ขอให้นายชูวิทย์ชี้แจงต่อป.ป.ช.ด้วยว่า ได้ร้องเรียนเรื่องดังกล่าวไปยังหน่วยงานใดหรือไม่ เช่น นายกรัฐมนตรีเป็นต้น หรือเรื่องดังกล่าวมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยหน่วยงานใดหรือไม่ เช่นกระทรวงคมนาคม เป็นต้น มีการลงรับหนังสือที่ยื่นแล้วหรือไม่ ผลเป็นประการใด การกล่าวหาว่ามีการทุจริตที่มีมูลค่าความเสียหาย 3 หมื่นล้านบาท นั้น มีที่มาเช่นไร ใครจ่ายใครรับ จ่ายกันโดยวิธีการใด ในหรือต่างประเทศ
นายเรืองไกร กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนไม่ทราบว่านายชูวิทย์ ไปยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบแล้วหรือไม่ เพราะเรื่องดังกล่าวมีการกล่าวหาเจ้าหน้าที่ของรัฐ จึงเป็นกรณีที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจของป.ป.ช.โดยตรง ดังนั้น ตนจึงต้องขอให้ ป.ป.ช. เชิญ นายชูวิทย์มาให้ถ้อยคำพร้อมส่งพยานหลักฐานที่มีการแฉไปแล้ว และเชื่อว่า นายชูวิทย์ ต้องให้ความร่วมมือกับ ป.ป.ช. เป็นอย่างดีโดยไม่มีเงื่อนไขใด ๆ รวมทั้งนายชูวิทย์ควรแถลงข่าวให้สื่อมวลชนทราบโดยทั่วกัน ดังที่แสดงออกมาก่อนหน้านี้หลายครั้งแล้ว ทั้งนี้ เพื่อให้ ป.ป.ช. รีบดำเนินการต่อไป
