วันอาทิตย์, พฤษภาคม 19, 2024
หน้าแรกHighlight“สุรนันทน์”เล่าความในใจบันทึกช่วยจำ เข้า“สอท."มีคนเตือนแล้วจะ“เปลืองตัว”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“สุรนันทน์”เล่าความในใจบันทึกช่วยจำ เข้า“สอท.”มีคนเตือนแล้วจะ“เปลืองตัว”

“สุรนันทน์” เล่าความในใจบันทึกช่วยจำ “สร้างอนาคตไทย” เผยมีคนเตือนแล้วอย่าไปทำเลยจะเปลืองตัว แต่ต้องการเห็นพรรคการเมืองที่เป็นพรรคมวลชน มีประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง

เมื่อวันที่ 28 ก.พ.นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตรองหัวหน้าพรรค และประธานภาค กทม.พรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) ได้โพสต์ข้อความระบุว่า

บันทึกช่วยจำ

สร้างอนาคตไทย (ตอนที่ 1/5)

ผมตั้งใจจะเขียนโพสต์นี้ตั้งแต่เมื่อปลายปีที่แล้ว แต่ด้วยความที่ไม่อยากให้กลายเป็นประเด็นทางการเมืองภายใต้ความเปลี่ยนแปลงของพรรคสร้างอนาคตไทยในขณะนั้น จึงรอไว้ก่อน อย่างไรก็ตามในฐานะที่ทำงานการเมืองมานาน ทำให้ตัดสินใจเล่าบางเรื่อง เพื่อให้ผู้ที่ให้ความไว้วางใจผมและสนับสนุนผมทางการเมืองได้เข้าใจว่าอุดมการณ์และจุดยืนทางการเมืองของผมไม่เคยเปลี่ยนแปลง

ปีที่แล้ว พ.ศ. 2565 ผมได้เข้าร่วมงานกับพรรคสร้างอนาคตไทย ที่มี ดร.อุตตม สาวนายน เป็นหัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นเลขาธิการพรรค (2 จาก 4 กุมาร) ด้วยการชักชวนจาก ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ ดร.อุตตม ที่ตกลงกันคือ ผมรับปากว่าจะช่วยหลังบ้านเรื่องการสื่อสาร และวิเคราะห์ข่าว กำหนดท่าทีทางการเมือง ต่อมา ดร.สมคิด ขอให้ผมเปิดตัวรับตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคและประธานภาค กทม. ส่วนเรื่องแคมเปญช่วยเป็นกรณีไป เพราะเจ้าภาพหลักคือ โฆษกพรรค และทีมงานโฆษก

มีคนเตือนผมหลายคนว่าอย่าไปทำเลยจะเปลืองตัว รวมทั้ง 1 ใน 4 กุมารที่ไม่ได้เข้าร่วมงานการเมืองรอบนี้ และผู้ใหญ่อีกหลายท่าน “สิ่งที่คุณคิด มันจะไม่ใช่ คนที่คุณเห็นและคิดว่ารู้จัก ก็จะไม่ใช่”

ผมขอบคุณในทุกคำเตือน ที่ผมเดินหน้าร่วมงานกับสร้างอนาคตไทย เพราะผมคิดเพียงว่า น่าจะดีถ้ามีพรรคการเมืองใหม่ ที่มีนโยบายวางตัวอยู่เหนือความขัดแย้ง มีแนวทางแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่ชัดเจน และมีบุคลากรที่มีประสบการณ์ที่น่าจะทำงานเป็นบริหารงานได้ ผมยอมรับว่า ตอนนั้นผมเชื่อว่าแนวคิดของ ดร.สมคิด อาจเป็นทางออกหนึ่งของประเทศได้

ในขณะเดียวกัน ผมต้องการเห็นพรรคการเมืองที่เป็นพรรคมวลชน มีประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง มีประชาชนและสมาชิกพรรคที่เข้ามาร่วมอุดมการณ์สร้างพรรคให้เข้มแข็ง และนั่นคือเหตุผลหลักที่กลับเข้าสู่วงการเมือง หลังจากรัฐประหารเมื่อปี 2557 และใช้เวลา 7-8 ปีที่ผ่านมาทำธุรกิจร้านอาหารร้านกาแฟ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img