วันเสาร์, พฤษภาคม 18, 2024
หน้าแรกNEWS“นอท กองสลากพลัส”เปิดตัว“พรรคเปลี่ยน” ชูนโยบายหวย พร้อมจับมือพรรคเสียงข้างมาก
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“นอท กองสลากพลัส”เปิดตัว“พรรคเปลี่ยน” ชูนโยบายหวย พร้อมจับมือพรรคเสียงข้างมาก

นอท กองสลาก” เปิดตัวพรรคเปลี่ยน ชูนโยบายหวยสร้างรายได้เข้ารัฐ ลั่นจับมือพรรคเสียงข้างมากตั้งรัฐบาล

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 2 เม.ย.66 นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือ นอทกองสลากพลัส หัวหน้าพรรคเปลี่ยน แถลงเปิดตัวพรรคเปลี่ยน ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อและแบบแบ่งเขต พร้อมเปิดตัวนโยบายพรรค ณ ที่ทำการพรรคเปลี่ยน ภายในอาคารเอสเอสพีทาวเวอร์ 1

นายพันธ์ธวัช กล่าวว่า พรรคเปลี่ยนมี 3 นโยบายหลัก 5 นโยบายรอง และพรรคมีจุดยืนคือการเปลี่ยนประเทศด้วยการพูดถึงปัญหา ใช้วิธีที่ตนเองถนัดคือการหาเงินจากหวย โดยนโยบายแรกคือ หวยโอกาส สร้างเศรษฐี 2 ทาง เพิ่มรางวัลที่ 1 เป็นจำนวน 200 ใบ พิมพ์สลากเพิ่มจาก 100 ล้านฉบับเป็น 200 ล้านฉบับ เพื่อแก้ปัญหาสลากราคาแพงปิดทางหวยใต้ดิน สร้างรายได้เข้ารัฐถึง 55,000 ล้านบาทต่อปี ก่อนนำเงินไปสร้างกองทุนเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยเพื่อคนพิการ เงินอุดหนุนการศึกษาผู้พิการระดับ ปวช.ตั้งกองทุนพัฒนาศักยภาพผู้สูงอายุและผู้พิการ และสร้างธนาคารโอกาส ปล่อยดอกเบี้ยเงินกู้ร้อยละ 1 ให้คนจนมีโอกาสลืมตาอ้าปาก

ถัดมาคือนโยบายส่งลูกหลานกลับไปทำงานออนไลน์ที่บ้าน สร้างเศรษฐกิจในชุมชนและให้โอกาสได้ดูแลครอบครัวพร้อมช่วยเหลือลูกหนี้กรมสรรพากรโดยการตั้งศูนย์เจรจาหนี้ ลดเบี้ยปรับร้อยละ 1.5 ต่อเดือน ลดหนี้ภาษีย้อนหลังพร้อมจดทะเบียน e-tax งดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม 3 ปี ส่งเสริมให้จดทะเบียนสมัครประกันสังคม ม.39 ได้ พร้อมเก็บภาษีแพลทฟอร์มต่างประเทศเต็มอัตราร้อยละ 10 ลดการผูกขาดแพลทฟอร์มออนไลน์ของชาวต่างชาติ และตั้งศูนย์เปลี่ยนพลัส รับเรื่องร้องเรียนการฉ้อโกงออนไลน์

นายพันธ์ธวัช กล่าวว่า นโยบายต่อมาคือการเปลี่ยนชีวิตคนกลางคืนและอาชีพอิสระ แก้ไขกฎหมายให้ผู้ค้าบริการทางเพศและทำโอนลี่แฟนส์ได้อย่างถูกกฎหมาย จัดโซนให้สถานบันเทิงเปิดบริการได้ถึง 04.00น. สร้างประกันสังคมอาชีพอิสระ ให้ลดหย่อนภาษีได้เช่นเดียวกับผู้ประกันตนตาม ม.33 ผลักดันกลุ่มอาชีพต่างๆ เช่นหาบเร่แผงลอย ไรเดอร์ส่งของ รวมถึงผู้ค้าบริการทางเพศให้เข้าระบบภาษี มีระบบประกันสังคม รับสิทธิรักษาพยาบาลฟรี และสวัสดิการต่างๆ เท่าเทียมคนมีรายได้ประจำ

นายพันธ์ธวัช กล่าวอีกว่า นโยบายรองของพรรคเปลี่ยนจะผลักดันการสมรสเท่าเทียม ให้สิทธิการแต่งตัวไปเรียนหรือทำงานตามเพศสภาพ ส่งเสริมการเข้าถึงเทคโนโลยีแก่ผู้สูงวัย ผลักดันเอกชนให้จ้างงานผู้สูงวัยเพื่อลดปัญหาของผู้สูงวัยในอนาคต สนับสนุนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวเมืองรอง ผลักดันซอฟ์ทเพาเวอร์มูเตลู ยกระดับนักกีฬาของไทย ผลักดันลีกทุกระดับตั้งแต่เยาวชน ถ่ายทอดสดกีฬาทุกนัด ส่งเสริมการแข่งขันลีกในประเทศอย่างโปร่งใส และส่งเสริมสวัสดิการนักกีฬาในวันเกษียณ นอกจากนี้ยังสนับสนุนผู้ต้องขังโดยการเพิ่มสวัสดิการ ส่งเสริมให้ผู้พ้นโทษได้ฝึกอาชีพ ในการทำงานสุจริต เพื่อลดนักโทษคดียาเสพติดที่มีจำนวนที่สุด และอุปการะเด็กที่เกิดในเรือนจำเพราะพ่อแม่ติดคุก

นายพันธ์ธวัช กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ตนได้ลงพื้นที่ จ.อุดรธานี ชาวบ้านได้ให้การตอบรับเป็นอย่างดี มีกำลังใจเต็มที่ จากนี้จะลงพื้นที่รับฟังปัญหาจากประชาชนคนหาเช้ากินค่ำในแต่ละจังหวัดให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะตนก็เคยเป็นคนกลุ่มนั้นมาก่อน พร้อมฝากสโลแกนพรรคว่า “อยากเปลี่ยนประเทศไทยต้องใช้นอท” ยืนยันว่าตนจริงจังและไม่กลัวว่าจะเกิดปัญหาอะไรขึ้น

พร้อมกันนี้ในช่วงท้ายของการแถลงข่าวนายพันธ์ธวัช ได้เปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเปลี่ยน ซึ่งเป็นคนพิการ คือนายณรงค์ ไปวันเสาร์ นายกสมาคมคนพิการตะวันออก พร้อมเผยว่า อาชีพขายสลากเป็นอาชีพที่ถูกจริตคนพิการมากที่สุด เพราะทำง่าย ขายดี คนพิการต้องเข้าถึงโควต้าสลากทั้งหมด เพื่อให้ได้ยึดเป็นอาชีพหลักในการหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว นอกจากนี้พรรคเปลี่ยนจะเข้าไปตรวจสอบดูแลการบังคับใช้กฎหมายเกี่ยวกับผู้พิการอย่างจริงจัง เพราะที่ผ่านมาแม้จะมีกฎหมายครอบคลุม แต่ยังไม่เคยถูกใช้อย่างจริงจัง เช่น อาคารต่างๆ รถขนส่งสาธารณะถูกกำหนดให้คนพิการเข้าถึงการใช้งานได้อย่างเท่าเทียม

นายพันธ์ธวัช กล่าวอีกว่า หลังพรรคเปลี่ยนได้รับการรับรองจาก กกต.ก็ได้ตั้งสาขาพรรคครบทั้ง 4 ภาค ยอมรับว่ามีผู้ติดต่อขอร่วมงานจำนวนมาก แต่เพราะมีอุดมการณ์ไม่สอดคล้องกัน จึงไม่ได้พามาร่วมงานด้วย ทั้งนี้เนื่องจากเรามีเวลาไม่เพียงพอจึงส่งผู้สมัคร ส.ส.ทั้งหมด 9 คน ใน 8 จังหวัดได้แก่ จ.สระบุรี จ.ปัตตานี จ.ร้อยเอ็ด จ.ลพบุรีจ.กาญจนบุรี จ.ภูเก็ต จ.อุตรดิตถ์ จ.ตรัง พร้อมยืนยันพรรคตนจะอยู่ข้างประชาธิปไตย พร้อมร่วมทำงานกับพรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมากในรัฐสภา อย่างไรก็ตาม สำหรับการร่วมงานกับพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพรรคพลังประชารัฐ ที่สนับสนุน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นั้นตนจะพิจารณาอีกครั้ง

ทั้งนี้ตนไม่มีความกังวลกับเรื่องคดีความต่างๆ ที่เกิดขึ้น หากตนมีความผิดจริงก็คงทำอะไรไม่ได้ ขอให้เป็นดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ แต่ขณะนี้ยังยืนยันว่าตนบริสุทธิ์ และตนก็เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม หากไม่ผิดก็ไม่มีอะไรมาทำร้ายตนได้ เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อการทำงานทางการเมือง โดยตั้งใจจะทำงานอย่างเต็มที่ให้ได้ 3 ล้านเสียง ส่วนตัวอยากได้เบอร์ 7 เพราะเหนื่อยดี ทำงานไม่หยุด ทำงาน 7 วัน เพราะเราเป็นพรรคของคนทำงาน ตนมองว่าการเมืองคงไม่ต่างกับการทำงานบริษัท อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้ติดตั้งป้ายหาเสียงที่ จ.อุดรธานี เพียงที่เดียว รอจับฉลากเลือกเบอร์เสร็จสิ้นแล้วจะติดตั้งครั้งเดียว

นายพันธ์ธวัช กล่าวยอมรับว่าตนสนใจเรื่องทางการเมืองมานาน และยังเคยไปร่วมการชุมนุมมาบางครั้ง แต่ก่อนหน้านี้ยังไม่พร้อม กระทั่งเริ่มมีประสบการณ์ เริ่มเข้าถึงประชาชนและมีผู้คนรู้จักจึงตัดสินใจว่าจะลงมือทำเพื่อประเทศชาติสำหรับครูปรีชา ใคร่ครวญ ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จังหวัดกาญจนบุรี ที่ผลักดันเรื่องสลาก 80 บาทเช่นกันนั้นตนเองมองว่าครูปรีชา มีลักษณะเป็นลูกค้ามากกว่าตนที่มีประสบการณ์บริหารธุรกิจสลากออนไลน์มากกว่า

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img