วันเสาร์, พฤษภาคม 18, 2024
หน้าแรกHighlight“ชลน่าน”ถล่ม “3 ป.” ยึดครองประเทศ “นายกฯ”โต้รับเงิน-ท้าให้โชว์หลักฐาน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ชลน่าน”ถล่ม “3 ป.” ยึดครองประเทศ “นายกฯ”โต้รับเงิน-ท้าให้โชว์หลักฐาน

“หมอชลน่าน” ซักฟอก “ส่วยแรงงานเถื่อน” จัดส่ง “บิ๊ก ป.” ต้นตอแพร่เชื้อโควิดระบาดรอบ 2 พร้อมถล่ม “3 ป.” แบ่งอำนาจกันยึดครองประเทศ แยกกันดูแล “ส.ว.และองค์กรอิสระ-พรรคการเมือง-ส่วนราชการท้องถิ่น” ด้านนายกฯตอบโต้ ยัน “3 ป.” ไม่มีการรับเงิน ท้าให้ไปหาพยานหลักฐานมาแล้วไปสู้คดีกันในศาล

เมื่อเวลา 15.45 น. วันที่ 17 ก.พ.64 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม เพื่อพิจารณาญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย อภิปรายไม่ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม, พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี โดยระบุว่า สาเหตุเนื่องจากการความล้มเหลวของการแก้ปัญหาโควิด-19 ระบาด โดยเฉพาะพล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะประธาน ศบค. ตนไม่สามารถไว้วางใจให้ทำหน้าที่ต่อไป แม้จะมีมาตรการช่วยเหลือประชาชน แต่กลับพบว่า ทำให้ประชาชนเจอความลำบาก เช่น การลงทะเบียนเพื่อรับเงินช่วยเหลือ ผ่านธนาคารกรุงไทย ที่พบประชาชนแออัดหน้าธนาคารเพื่อลงทะเบียน เพราะภาพผู้สูงอายุที่ไม่มีสมาร์ทโฟน ไปต่อแถวยาวเหยียดหน้าธนาคารกรุงไทย ลงทะเบียนรับเงินเยียวยา 7,000 บาท คือความล้มเหลว ไร้ประสิทธิภาพที่ไม่ได้เกิดขึ้นครั้งแรก

“มูลเหตุความล้มเหลว ต้องโทษไปที่ฐานจิตและวิธีคิดของนายกรัฐมนตรีที่บริหารเงินกู้ล้มเหลว มีเงินแต่ใช้ไม่เป็น เยียวยาไม่ครบถ้วน แบ่งแยกความเป็นมนุษย์ นายกรัฐมนตรีเป็นโรคเอ็นพีดีคือ โรคหลงตนเอง มีอาการ 17 อย่าง ทุกข้ออยู่ในตัวนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะไม่ยอมรับความผิดตัวเอง มักโทษเป็นความผิดผู้อื่น ความผิดพลาดที่ล้มเหลวคือ การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน รวบอำนาจรัฐมนตรีทั้งหมดเป็นของตัวเอง ตัดสินใจผิดพลาด ใช้คนไม่ถูกงาน เอาทหารมารักษาโรค คงคุ้นชินกับการเสพติดอำนาจ” นพ.ชลน่าน กล่าว

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า การระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้นระลอก 2 มี “ขบวนการค้าแรงงานเถื่อนข้ามชาติ” รับส่วยในพื้นที่ มี 12กลุ่ม อยู่ในกระบวนการรับส่วยแรงงานต่างด้าวเถื่อน แบ่งหน้าที่กันทำ มี “ดาบ จ.” เป็นหัวหน้าทีมเก็บส่วย กระจายส่งแรงงานต่างด้าวเถื่อนไปที่ 4 จังหวัด คือ กทม. สมุทรสาคร สมุทรปราการ สมุทรสงคราม และยังมี “แก๊งส่วยคนจีน” ขนคนจีนเข้ามาในไทย มี “เจ๊ อ.” เป็นหัวหน้าทีม ทั้งขบวนการแรงงานต่างด้าวเถื่อนและแก๊งส่วยคนจีน มีการเก็บส่วยส่งถึง “บิ๊ก ป.” ทำให้คดีต่างๆ แรงงานต่างด้าวเถื่อนที่ถูกจับเงียบหาย เพราะทำกันเป็นขบวนการ สะท้อนให้เห็นความปล่อยปะละเลยของ “ระดับบน” ที่รู้เห็นเป็นใจ ช่วยให้คดีต่างๆ เงียบหาย และขบวนการเหล่านี้ยังอยู่ได้ สิ่งเหล่านี้เป็นภาพสะท้อนการปล่อยปะละเลย ไร้ความรับผิดชอบ พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร จะมีผลประโยชน์หรือไม่ ขอรอฟังคำชี้แจงอยู่

นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า เรื่องขอกล่าวหาพล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ไม่ยึดมั่นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และทำผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง จากการมีส่วนร่วมการทำรัฐประหารปี 2549 ปี2557 การยึดอำนาจคือการทำลายล้างประชาธิปไตย นับจากปี 2557 “กลุ่ม 3ป.” กระจายขุมกำลังปกครองประเทศเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แบ่งหน้าที่กันทำ ยึดครองประเทศ โดย พล.อ.ประยุทธ์ ยึดส.ว. และองค์กรอิสระ ส่วน พล.อ.ประวิตร คุมพรรคการเมือง และ พล.อ.อนุพงษ์ ดูแลส่วนราชการภูมิภาคและราชการท้องถิ่น ประเทศนี้อยู่ภายใต้ “3 ป.” นอกจากนี้การจะตรวจสอบการทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร ตั้งกระทู้ถามในสภา นายกรัฐมนตรีไม่เคยมาตอบสักครั้ง เท่ากับไม่ให้ความสำคัญสภา จิตสำนึกไม่มี ระบบรัฐสภาล้มเหลว แก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ ประเทศสิ้นหวัง เป็นการสร้างภาพไร้ความจริงใจ หมดเวลาแล้ว ขอให้คืนอำนาจให้ประชาชน

เครดิตภาพ : สุรเชษฐ์ วัชรวิศิษฏ์

ต่อมาในเวลา 17.26 น. ที่รัฐสภา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลุกขึ้นชี้แจงกรณีที่นพ.ชลน่าน อภิปรายโจมตีเรื่องแรงงานต่างด้าวและขบวนการหลบหนีเข้าเมืองว่า จากที่ได้ฟังการอภิปรายนั้น ก็ยังไม่เคยเห็นแผนภูมิข้อมูลที่มีการนำมาอภิปรายแสดง ต้องขอเวลาไปสอบสวนดูว่า เรื่องขบวนการหลบหนีเข้าเมืองนั้น ได้ดำเนินการมาอย่างไร เพราะเป็นเรื่องการทำงานของเจ้าหน้าที่ในระดับล่าง ขอเวลาก่อน เมื่อได้รายละเอียดเรียบร้อยแล้ว จะมาชี้แจงให้ได้รับทราบต่อไป ส่วนเรื่องการปฏิญาณตนรับธงชัยเฉลิมพล ที่บอกว่าตนไม่ได้กล่าวข้อความเต็ม เช่นเดียวกับการถวายสัตย์ปฏิญาณตนตามรัฐธรรมนูญนั้น เป็นคนละกรณีกัน เนื่องจากข้อความก็แตกต่างกัน นั่นเป็นเรื่องของธงชัยเฉลิมพล ที่ตนนำทหารไปรับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ

จากนั้นเวลาประมาณ 17.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ชี้แจงตอนหนึ่งยืนยันว่า “ข้อกล่าวหาที่ว่าปล่อยให้มีการลักลอบเข้าและออกแรงงานต่างด้าวเข้ามาในประเทศ มีการทุจริตผิดกฎหมาย มีการเรียกรับผลประโยชน์ ผมยืนยัน ‘3 ป.’ ไม่มีรับเงิน เดี๋ยวไปพิสูจน์มา หาประจักษ์พยานมา แล้วไปสู้กับผมในคดี ในนี้ท่านพูดได้ ผมก็พูดได้ แต่ผมต้องรักษากริยาของผม ผมรู้ว่าต้องการให้โมโห ยากฮะ…ยาก บอกไว้ก่อน

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า การจดทะเบียนแรงงาน ซึ่งก่อนหน้านี้มีขบวนการแรงงานเถื่อน ตนก็ดำเนินการทั้งสิ้น บอกแล้วว่า รังเกียจคนทำผิดกฎหมาย รังเกียจเงินชั่วๆ ที่ได้มาจากการทำความผิด ตนเกลียดลูกน้องเลวๆ เกิดเกียรติยศและศักดิ์ศรีอยู่กับตนมาตั้งแต่เกิดจนตายในสายเลือดของตน อย่ามาบอกว่าตนไม่เคารพในศักดิ์ศรีและเกียรติของตัวเอง ไม่เช่นนั้น ตนไม่มาทนนั่งอยู่แบบนี้ นี่ไม่ได้โมโห และวันนี้ได้เปิดช่องทางให้คนแจ้งสายตรงมาทำให้ได้ข้อมูลมากขึ้นและทำให้ได้มีการจับกุมหลายคดี จะเป็นกระบวนการที่มีทหาร ตำรวจ มันมีอยู่แล้ว แต่ตนไม่พูดตรงนี้ เพราะพูดไม่ได้กำลังสอบสวนอยู่ และที่ท่านบอกว่าระดับบนรอรับเงินอย่างเดียว เงินตรงไหน ตนไม่มีเรื่องของการทุจริตไม่เคยคุ้นชินกับการทุจริต

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img