“ปชป.” ยื้อโหวตหัวหน้าพรรคคนใหม่ อ้างรอกกต.รับรองส.ส. “ราเมศ” เผย “เฉลิมชัย” พูดคำไหนคำนั้นตัวเลขไม่ถึงไม่เล่นการเมือง ย้ำยังรักเชื่อฝีมือ ปัดข่าวจับมือร่วมรัฐบาล ชี้บิดเบือน ยันไม่เกิน 13 ก.ค.เห็นโฉมหน้าผู้นำพรรคคนใหม่
วันที่ 24 พ.ค.2566 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนเชวง รักษาการโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.)ชุดรักษาการว่า ที่ประชุมได้แจ้งว่า มีประชาชนได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ทั่วประเทศจำนวน 89,180 คน ถือว่ามีจำนวนเพิ่มมากขึ้น และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้ลาออกจากหัวหน้าพรรค โดยขั้นตอนต่อไปจะมีการเลือกตั้งหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ภายใน 60 วัน ส่วนกระบวนการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ ในอดีตจะต้องเปิดให้มีการหยั่งเสียงเบื้องต้นเหมือนครั้งที่ที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออก แต่ขณะนี้เราตัวแทนประจำจังหวัด และสาขาพรรค ที่ประชุมจึงเสนอให้มีการยกเว้นข้อบังคับพรรค แต่ยังรับฟังสมาชิกทุกคน หลังจากนี้พรรคเรียกประชุมใหญ่วิสามัญอีกครั้ง
นายราเมศ กล่าวว่า ที่ประชุมกก.บห.ได้กำหนดองค์ประชุมในการเลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่คือ ว่าที่ส.ส.ที่ผ่านการเลือกตั้งทั้ง 24 คนที่จะเป็นองค์ประชุมหลัก 70% จึงต้องรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง รับรองก่อน ในส่วนอื่นๆยังเป็นไปในข้อบังคับพรรคทุกประการ เช่น จะต้องมีกรรมการบริหารพรรค อดีตหัวหน้าพรรค อดีตรัฐมนตรี อดีตผู้ว่าราชการ ที่จะร่วมเป็นองค์ประชุม 30 % โดยหลังจากนี้จะมีการประชุมเพื่อกำหนดสัดส่วนที่เหมาะสมอีกครั้ง ส่วนการประชุมกก.บห.ชุดรักษาการครั้งนี้ยังไม่ใช่นัดสุดท้าย แต่หลังจาก กกต.รับรองส.ส.จะมีการประชุมอีกครั้ง จะต้องมีการเลือกกรรมการบริหารชุดใหม่ภายในวันที่ 13 ก.ค.นี้
เมื่อถามว่า การที่ยกเว้นข้อบังคับในเรื่องการหยั่งสียงเป็นเพราะต้องการหลีกเลี่ยงปัญหาความขัดแย้งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตหรือไม่ นายราเมศ กล่าวว่า ในอดีตการแข่งขันตามระบอบประชาธิปไตยเป็นเรื่องธรรมดา แต่เมื่อเลือกเสร็จก็จบ แต่ที่ยกเว้นข้อบังคับเพราะเรามีตัวแทนแต่ละจังหวัดเพียงพออยู่แล้ว เรายังเห็นความสำคัญของสมาชิก ทั้งนี้ที่ประชุมยังได้มีการพูดคุยถึงผลการเลือกตั้ง แต่ยังไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด เพียงแต่ให้กำลังใจกัน หลังจากประชุมกก.บห.ก็จะมีการประชุมว่าที่ส.ส.เพื่อที่จะขับเคลื่อนการทำงานภายใต้ระบบรัฐสภาต่อไป
“ยืนยันยังไม่มีความเห็นประเด็นร่วมหรือไม่ร่วมรัฐบาล หรือ ลงมติเลือกนายกฯคนไหน การดำเนินกิจกรรมทางการเมืองทั้งหมดต้องอยู่ภายใต้มติพรรค รวมทั้งเรื่องของนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการเลขาธิการพรรค ที่ยืนยันต่อที่ประชุมอย่างชัดเจนว่าไม่เคยพูดคุยติดต่อประสานงานเรื่องการตั้งรัฐบาลกับใครทั้งสิ้น ข่าวที่ออกไปเป็นการบิดเบือน เพื่อดิสเครดิตพรรค ซึ่งนายเฉลิมชัย ยังพูดในหลักการ “คำไหนคำนั้น” เมื่อตัวเลขไม่ถึงตามที่ท่านประกาศไว้ก็ต้องไม่เล่นการเมือง แต่สมาชิกยังเชื่อมั่นในศักยภาพในการทำหน้าที่ ยังรักพรรค และยังต้องการคำปรึกษาจากเลขาธิการพรรค รวมถึงผู้อาวุโสที่มีประสบการณ์ ซึ่งเราก็ดำเนินการมาโดยตลอด”นายราเมศ กล่าว
