วันอาทิตย์, พฤษภาคม 19, 2024
หน้าแรกNEWSศาลอนุมัติหมายจับ‘แอมมี่กับพวกอีก2’ เจอ3ข้อหาหนักคดีเผาป้ายหน้าเรือนจำ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ศาลอนุมัติหมายจับ‘แอมมี่กับพวกอีก2’ เจอ3ข้อหาหนักคดีเผาป้ายหน้าเรือนจำ

ศาลอาญาอนุมัติหมายจับ “แอมมี่” นักร้องดัง พร้อมพวกอีก 2 คนแล้ว กรณีเผาป้ายหน้าเรือนจำคลองเปรม เจอข้อหาหนัก ม.112-วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น-ผิดพ.ร.บ.คอมพ์

เมื่อวันที่ 2 มี.ค.64 พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น. เปิดเผยความคืบหน้าในการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุวางเพลิงเผาพระบรมฉายาลักษณ์ บริเวณด้านหน้าเรือนจำคลองเปรม เมื่อคืนวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมาว่า ขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการนำพยานหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดและวัตถุพยานต่างๆ ไปที่ศาลอาญา เพื่อขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ก่อเหตุทั้ง 3 คนแล้ว เป็นชาย 2 หญิง 1 โดยหนึ่งในนั้นเป็นนักเคลื่อนไหวทางการเมือง หากได้หมายจับแล้ว ชุดสืบสวนจะไปนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนมาดำเนินคดีตามขั้นตอนทันที หากอยู่ในโรงพยาบาลทางเจ้าหน้าที่สามารถอายัดตัวได้ ยืนยันว่าคดีดังกล่าวตำรวจมีพยานหลักฐานที่ชัดเจนทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดในช่วงก่อนเกิดเหตุ ขณะก่อเหตุ หลังจากเกิดเหตุ และเส้นทางที่หลบหนี

ล่าสุด มีรายงานว่า ศาลอาญา รัชดา ได้อนุมัติหมายจับ ที่ 429/2564 ลง 2 มีนาคม 2564 ดำเนินคดีนายไชยอมร แก้ววิบูลพันธุ์ หรือ แอมมี่ The Bottom Blues กับพวกอีก 2 คน ในข้อหาควมผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112, วางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น และ ความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์

ก่อนหน้านี้ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรมว.ยุติธรรม กล่าวว่า จากไทม์ไลน์ที่ทางตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง ได้สืบสวนและตรวจหลักฐานจากกล้องวงจรปิดในพื้นที่เกิดเหตุ พบว่า จากการตรวจสอบของกล้องวงจรปิด กทม. เวลา 02.46 น. พบรถคนร้ายวิ่งผ่านร้านแกรนด์โฮม ใต้สะพานข้ามแยกพงษ์เพชร งามวงศ์วาน 35 จากนั้นเวลา 02.49 น.จากกล้องของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักงานใหญ่ พบรถคนร้ายวิ่งผ่านหน้าสำนักงาน ฝั่งถนนงามวงศ์วานขาออก วิ่งผ่านประตูเรือนจำกลางคลองเปรม และเวลา 02.50 น. จากกล้องมุมสูงของการไฟฟ้าฯ พบรถคนร้ายจอดริมถนนเลยจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร เวลา 02.55 น. พบรถคนร้ายถอยกลับมาห่างจากจุดเกิดเหตุ 20 เมตร จนกระทั่งเวลา 03.08 น. พบว่าไฟเริ่มติดตรงจุดเกิดเหตุ และอีก 1 นาทีต่อมาคนร้ายได้ขับออกไปเพื่อหลบหนี

“เรื่องนี้เป็นการเตรียมการมาอย่างแน่นอน เพราะในที่เกิดเหตุพบไฟแช็ก น้ำมัน เตรียมมาจุดไฟเผา และใช้เวลาในช่วงเช้ามืดของวันที่ 28 ก.พ. 64 ใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 10 นาที และหนีทันที เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางกรมราชทัณฑ์ได้ทำรายงานถึงสำนักพระราชวัง เพราะเวลาที่เรานำพระบรมฉายาลักษณ์มาใช้เราต้องขออนุญาตจากทางราชวัง หากถูกเผาทำลายเราก็ต้องรายงานให้ทราบ” ว่าที่ ร.ต.ธนกฤตกล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img