วันอาทิตย์, พฤษภาคม 19, 2024
หน้าแรกHighlight“บิ๊กโจ๊ก”เผยนายกฯฝากแนวทางงานความมั่นคง เน้นย้ำ“ปราบปรามมาเฟีย”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“บิ๊กโจ๊ก”เผยนายกฯฝากแนวทางงานความมั่นคง เน้นย้ำ“ปราบปรามมาเฟีย”

“บิ๊กโจ๊ก” เผยนายกฯฝากแนวทางทำงานด้านความมั่นคง ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว ช่วงเปิดฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนแหาเข้าไทย เน้นย้ำปราบปรามมาเฟีย ยกคดี “กำนันนก” เป็นตัวอย่าง ล้างบางพวกมีอิทธิพล

เมื่อวันที่ 10 ก.ย.66 ที่บ้านพิษณุโลก พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาตำรวจแห่งชาติ กล่าวภายหลังร่วมประชุมกับ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดหรือป.ป.ส. กับนายกรัฐมนตรี ที่บ้านพิษณุโลกว่า นายกฯได้ให้แนวทาง 2 เรื่อง เรื่องแรกคือด้านการท่องเที่ยว ที่รัฐบาลมีนโยบายฟรีวีซ่าให้นักท่องเที่ยวจีน ซึ่งในส่วนของหน่วยงานความมั่นคงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มองว่าเป็นเรื่องที่มีประโยชน์กับประเทศเป็นอย่างมาก เนื่องจากการที่นักท่องเที่ยวจีนไม่เดินทางมาประเทศไทย เพราะมีขั้นตอนยากลำบากในการเดินทางเข้าประเทศ ต้องการเปิดวีซ่าจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาที่ประเทศไทยได้สะดวกมากขึ้น โดยตำรวจจะมีการเพิ่มมาตรการความปลอดภัย เชื่อว่าจะช่วยส่งเสริมอุตสาหกรรมภาคการท่องเที่ยว ให้สามารถฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเน้นย้ำในส่วนด้านความปลอดภัยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลเพื่อรองรับนโยบายนี้ ซึ่งจะทำให้โรงแรม ร้านค้า กลับมาฟื้นตัวได้อย่างรวดเร็ว ต้องยอมรับว่านักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของไทย

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า นายกฯได้มีเน้นย้ำ และเป็นกังวล คือการปราบปรามมาเฟียและผู้มีอิทธิพล และให้ความเป็นธรรมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยนายกฯให้แนวทางให้มีการปราบปรามให้ถึงที่สุด รวมถึงที่มีการฮั้วประมูลในพื้นที่ โดยเฉพาะเรื่องคดีกำนันนก ที่มีเงินเป็นพันล้านบาท ภายในเวลาไม่กี่ปี และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย

“ยืนยันว่าผมจะลงไปกำกับดูแลเรื่องนี้โดยตรง เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น และตำรวจต้องไม่เป็นไม้ค้ำยันให้ผู้มีอิทธิพลเหล่านี้”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

เมื่อถามว่า นายกฯได้มีการกำชับเรื่องใดเป็นพิเศษหรือไม่ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า เรื่องคดีกำนันนกนายกฯให้สอบสวนให้ถึงที่สุด ส่วนจะมีการออกหมายเรียกตำรวจเพิ่มเติมอีก 6 คนหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวน หากสอบสวนแล้วพบว่า เป็นผู้กระทำผิด ก็จะดำเนินการอนุมัติขอหมายจับต่อศาล และออกหมายจับต่อไป

เมื่อถามว่า ตำรวจสามนายที่มีส่วนเกี่ยวข้องให้นำเซิร์ฟเวอร์ไปทิ้งน้ำ จะมีการดำเนินการต่ออย่างไร พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ได้มีการกู้เซิฟเวอร์แล้ว และจะใช้เวลา 3-4 วัน ในการกู้ข้อมูล

เมื่อถามว่า ทรัพย์สินของกำนันนก ต้องมีการอายัดหรือไม่ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า ขนาดนี้ยังไม่มีการอายัดทรัพย์สิน เนื่องจากยังไม่เข้าข่ายความผิด ขณะนี้ได้เอกสารและข้อมูลส่วนใหญ่มารวบรวมไว้แล้ว โดยจะมีการสอบสวนเรื่องฮั้วประมูล หากพบว่ามีการหัวประมูลจริง ก็จะเข้าความผิดฐานฟอกเงิน ซึ่งจะใช้มาตรการการยึดทรัพย์ได้

เมื่อถามว่า ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมด ต้องรับผิดชอบหรือไม่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวยืนยันว่า ในหลักของกฎหมาย หากละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ การทำลายวัตถุพยานหลักฐาน ซึ่งในเหตุการณ์จะแบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกเกิดเหตุแล้ววิ่งหนี จะถือว่าละเว้นการปฏิบัติหน้าที่แน่นอน กลุ่มที่สองคือกลุ่มร่วมทำลายพยานหลักฐาน และพากำนันนกหนี ซึ่งกลุ่มแรกได้มีการออกหมายจับไปบางส่วนแล้ว และกลุ่มที่สาม พาคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล ซึ่งตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับกลุ่มนี้ ทั้งนี้ความชัดเจนเริ่มเห็นได้ชัดอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ตำรวจที่มีความเกี่ยวข้อง โดยส่วนใหญ่เป็นตำรวจภาค 7 และตำรวจกองบัญชาการสอบสวนกลาง (ตำรวจทางหลวง) ซึ่งคดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อน เพราะพยานหลักฐานมีครบ เพียงแค่ตรวจสอบ CCTV และเส้นทางการเงิน คาดว่าใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์ก็จะสอบสวนเสร็จสมบูรณณ์

เมื่อถามว่า ประเด็นหลักในคดีนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องส่วย แต่เป็นการขอตำแหน่งหน้าที่ แล้วไม่ให้ จึงมีการสั่งยิง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวยืนยันว่า จะดำเนินการเรื่องนี้อย่างเด็ดขาด ซึ่งกำนันนกยังคงให้การปฏิเสธ ยังไงก็ไม่มีทางหลุดรอกจากคดีนี้ ซึ่งวันนี้มีทั้งคำให้การยืนยัน พยานแวดล้อม

“ยังไงก็ไม่มีทางหลุด ขณะนี้กำนันนกยังไม่ยื่นของประกันตัว คาดว่าน่าจะกลัวกำนันนกไม่มีทางหลุด ไม่ให้ตำรวจพื้นที่ทำเพราะอาจมีการหลุดรั่ว ทำให้คดีนี้เป็นตัวอย่าง ว่าใครทำตัวเป็นผู้มีอิทธิพลต้องเจอแบบนี้ ซึ่งวันนี้จะล้างให้หมด”พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img