วันจันทร์, พฤษภาคม 13, 2024
หน้าแรกHighlight‘รัฐบาล’ยัน‘เงินดิจิตอล’ไปใช้ที่บ้านเกิด เปิดกว้างทุนใหญ่-ร้านสะดวกซื้อร่วมได้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘รัฐบาล’ยัน‘เงินดิจิตอล’ไปใช้ที่บ้านเกิด เปิดกว้างทุนใหญ่-ร้านสะดวกซื้อร่วมได้

“เศรษฐา”ิ ลั่นไม่แตะรธน.หมวด 1-2 ย้ำเงินดิจิตอลกลับไปใช้ที่บ้านเกิด หวังกระตุ้นศก.ภูมิภาค โวตั้งเป้าเศรษฐกิจโต 5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ชี้บัตรคนจนยังอยู่ เล็งใช้ดิจิตอลแก้โกง ด้าน “รมช.คลัง” ยันไม่คิดใช้เงินจากกองทุน ดันนโยบายแจกเงิน เปิดกว้างทุนใหญ่-ร้านสะดวกซื้อเข้าร่วมได้

เมื่อวันที่ 11 ก.ย.66 เวลา 17.33 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา เพื่อพิจารณาการแถลงนโยบายของรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.การคลัง ชี้แจงว่า ขอขอบคุณทุกความเห็นที่เสนอแนะนำ ในการดำเนินนโยบายจะยึดโยงประโยชน์ของประชาชน และจะครอบคลุมทุกกลุ่ม ทุกสถานะอย่างเท่าเที่ยมและทั่วถึง ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญยืนยัน.ไม่แก้ไขหมวด 1 และหมาด 2 อย่างแน่นอน ส่วนการพักหนี้เกษตรกร 9 ปีที่ผ่านมามีการพักหนี้ 13 ครั้ง ที่หลายคนระบุว่าไม่ใช่แก้ปัญหาอย่างยั่งเยืน ซึ่งเรื่องนี้รัฐบาลตระหนักดี และมีมาตาการหลายอย่างเพิ่มรายได้ขึ้น 3 เท่าภายใน 4 ปีด้วยการใช้ตลาดนำ นวตกรรมเสริม เพิ่มรายได้ ควบคู่ไปกับการพักหนี้ เพื่อเกษตรกรลืมตาอ้าปากได้ ฟื้นฟูตัวเอง กลับมาแก้ไขปัญหาประกอบอาชีพได้ได้อย่างมีเกียรติ มีศักดิ์ศรี ดังนั้นการพักหนี้จะเกิดประโยชน์มากกว่า 9 ปีที่ผ่านมาแน่นอน

นายกฯ กล่าวว่า ส่วนรื่อง 4 กิโลเมตรเงินดิจิตอลวอตเลต เรื่องนี้เราตระหนักดี เพราะในชนบทอาจมีร้านค้านไม่เพียงพอ ขอไปดูรายละเอียดก่อนดำเดินการให้เหมาะสมอีกครั้ง ส่วนระยะเวลาในการใช้ 6 เดือน เพราะต้องการกระกตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น เพื่อต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญมาก มีบางคนบอกว่าอยากให้ยกเลิกการใช้รัศมี 4 กิโลเมตร คิดว่าเศรษฐกิจภูมิภาคต้องการการกระตุ้น ผู้มีถิ่นฐานใดก็ควรกลับไปใช้ที่นั้น มีเวลา 6 เดือนในการใช้กลับไปหาญาติพี่น้อง เพื่อสถาบันของครอบครัว และบางจังหวัดบางเขตอาจขยาย ต้องดูอีกครั้ง

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า สำหรับค่าแรงขั้นต่ำนั้สมควรได้รับการปรับโดยเร็ว และตั้งเป้าหมายว่าเราจะทำให้เศรษฐกิจโตเฉลี่ย 5 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ตลอดระยะเวลา 4 ปี ทำให้ค่าแรงขึ้น 600 บาทต่อวัน และปริญญา 25,000 บาทต่อปี ส่วนค่าพลังงาน เป็นเรื่องที่เราตระหนักดีที่จะต้องลด เรามั่นใจจะทำให้ต่ำลงอย่างมีนัยยะ อย่างไรก็ดีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐยังคงมีอยู่ ทั้งนี้ เรื่องความห่วงใยเกี่ยวกับการป้องกันการทุจริตนั้น รัฐบาลให้ความสำคัญในความโปร่งใสโดยเราจะใช้ระบบดิจิตอลให้มากขึ้น เพื่อลดการทุจริตมิชอบ

ด้านนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ชี้แจงยืนยันว่า นโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ใช่นโยบายเพื่อให้ได้มาซึ่งคะแนนเสียงเลือกตั้ง แต่มองว่าภาวะเศรษฐกิจต้องมีนโยบายกระตุ้น ซึ่งหลักคิดสำคัญ กระตุ้นไปยังชุมชนทั่วภูมิภาคอย่างทั่วถึง ด้วยกลไกบล็อกเชนเพื่อกำหนดกรอบใช้จ่ายเงินที่ในกระเป๋าดิจิทัลได้ นอกจากนั้นมีหลักสร้างโครงสร้างพื้นฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลเพื่อให้อนาคตประชาชนมีกระเป๋าเงินสด และเงินดิจิทัล สร้างโครงสร้างพื้นฐานให้ไทยเป็นผู้นำทางด้านเศรษฐกิจดิจิทัล

“แหล่งที่มาของงบประมาณ ได้พูดคุยหลากหลาย ขอให้ระวังในการอภิปรายและเสนอความเห็น อย่าชี้นำ เพราะกระบวนการที่อภิปรายในสภาฯ อาจกระทบความเชื่อมั่น ความเชื่อถือกรอบวินัยการเงินการคลัง ซึ่งรัฐบาลยึดมั่นกรอบวินัย จะไม่แตะงบในส่วนของกองทุนวายุภักดิ์ บำเหน็จบำนาญ ข้าราชการ กองทุนสำรองระหว่างประเทศ หรือ กองทุนประกันตน ไม่แม้แต่จะคิด กระบวนการนั้นขอเวลาตรวจรายละเอียดและเดินหน้าโครงการ ซึ่งจะมีความชัดเจนทั้งงบประมาณ กรอบงบประมาณและการใช้คืนงบประมาณ ไม่กระทบหนี้สาธารณะ ไม่กู้เพิ่มแน่นอน”นายจุลพันธุ์ กล่าว

นายจุลพันธุ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลจะไม่เลือกปฏิบัติ ว่าทุนใหญ่หรือร้านสะดวกซื้อ เข้าร่วมไม่ได้ เป็นสิทธิของประชาชนในการเลือกกิจกรรม แต่รัฐมีนโยบายเพื่อจูงใจให้การใช้เกิดประโยชน์ ทั้งนี้พบว่ามีประชาชนรวมกลุ่มเพื่อนำเงินไปต่อยอดอาชีพ และสร้างประโยชน์ชุมชน ซึ่งล้ำหน้าไปกว่าที่ประชุมรัฐสภา ซึ่งจะสามารถแตกยอดความคิด และเม็ดเงินเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น การรวมเงินเพื่อซื้อปัจจัยการผลิตเกษตรกรรมที่มีต้นทุนสูง จะเกิดการสร้างรายได้ใหม่ และแชร์ลิ่งของสินทรัพย์ การซื้อเครื่องจักรขนาดใหญ่ เป็นต้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img