วันอาทิตย์, พฤษภาคม 19, 2024
หน้าแรกHighlight“ชัยชนะ”ลั่นไม่กลัวถูกฟ้องตรวจปมสอบ“ทักษิณ”อย่างซื่อสัตย์สุจริต
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“ชัยชนะ”ลั่นไม่กลัวถูกฟ้องตรวจปมสอบ“ทักษิณ”อย่างซื่อสัตย์สุจริต

‘ชัยชนะ’ ฟาดคู่ ‘รองฯสมศักดิ์ -ทนายวิญญัติ’ หลังออกลูกขู่ฟ้องกลับปม ‘ทักษิณ’ ลั่นไม่กลัวถูกฟ้อง เชื่อหากกระทำการโดยอาศัยอำนาจที่มีตามกฎหมายอย่างซื่อสัตย์สุจริตและตรงไปตรงมา ก็จะทำให้รอดพ้นโทษทางกฎหมาย

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.66นายชัยชนะ เดชเดโช ส.ส.นครศรีธรรมราช และรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า หากคณะกรรมาธิการฯ จะไปศึกษาดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจ ในเรื่องวิธีการ ขั้นตอนและมาตราการดูแลผู้ต้องขังเข้ากรณีเข้ารับรักษาตัวและรวมถึงเรื่องของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่ามีอาการป่วยจริงอย่างไร ก็ต้องระวังว่าจะถูกฟ้อง และ นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความประจำตัวนายทักษิณ ที่ประกาศว่า จะดำเนินการฟ้องร้องคนที่ต้องการให้เปิดเผยข้อเท็จจริงถึงอาการป่วยของนายทักษิณ

โดยอ้างว่า เข้าข่ายกระทำความผิดกฎหมาย ละเมิดสิทธิของผู้ป่วยและละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง ว่า ตนเห็นว่า ทั้งสองกรณี มีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ต้องการปกป้องสุดชีวิต และปกปิดไม่ให้สาธารณชนรับรู้ โดยให้เข้าใจเอาเองว่า นายทักษิณ ยังรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล และกลายเป็นชุดความคิดที่จะสะกดจิตคนไทยทั้งประเทศ ทั้งนี้ ดังนั้น การที่ทางคณะกรรมาธิการฯจะเดินทางไปดูงานที่โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสอบถามถึงมาตรฐานการรักษาพยาบาลของผู้ต้องขัง และ สอบสวนหาข้อเท็จจริงให้กับคนไทย ในวันที่ 12 มกราคม 2567 นั้น ถือว่าเป็นการทำหน้าที่แทนปวงชนชาวไทย ที่ได้รับเลือกมาตามระบอบประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญฯมาตรา129ก็ได้รับรองการกระทำของคณะกรรมาธิการแต่ละชุด

ในการสอบหาข้อเท็จจริง โดยยืนยันว่า ทางคณะกรรมาธิการการตำรวจ มีอำนาจหน้าที่อย่างถูกต้องในการดำเนินการดังกล่าว เพราะฉะนั้น ตนก็ต้องขอบคุณนายสมศักดิ์ และนายวิญญัติ ในความปรารถนาดีที่เป็นห่วงกลัวว่า คณะกรรมาธิการฯ และประชาชนที่ต้องการทราบข้อเท็จจริง จะกระทำผิดกฎหมาย เพราะเชื่อว่า หากกระทำการโดยอาศัยอำนาจที่มีตามกฎหมายอย่างซื่อสัตย์สุจริตและตรงไปตรงมาแล้ว ก็จะมีกฎหมายและข้อเท็จจริงคอยคุ้มครองบุคคลเหล่านั้น ให้รอดจากภยันตรายและโทษทางกฎหมาย แต่ถ้าหากว่า รู้ทั้งรู้ว่าข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเป็นอย่างไร ก็แต่ยังดันทุรังเพื่อช่วยเหลือให้บุคคลคนหนึ่งมีสิทธิมากกว่าคนอื่นๆ จนกลายเป็นคนไม่เท่ากันแล้ว นอกจากจะทำให้เกิดความไม่สบายใจกับตนเองแล้ว ยังจะทำให้ส่วนรวมขาดความเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของไทยด้วย

“ผมก็ไม่ได้แปลกใจที่ทั้งรองนายกฯ สมศักดิ์ และนายวิญญัติ จะใช้วิธีการฟ้องปิดปากกับทางคณะกรรมาธิการฯ และประชาชนที่ต้องการทราบว่า นายทักษิณ อยู่ที่ไหนและทำไมยังรักษาตัวไม่หาย และผมคิดว่า บุคคลทั้งสอง ควรจะคำนึงประเด็นสงสัยของประชาชนขณะนี้ มีหลายข้อสงสัยที่ทางคณะกรรมาธิการฯ จะต้องหาคำตอบให้ได้ เช่น ตกลงแล้วนายทักษิณป่วยหนักจริงหรือไม่ ทำไมได้เอกสิทธิ์และอภิสิทธิ์เหนือนักโทษคนอื่น ตกลงแล้วนายทักษิณจะได้กลับเข้าไปเรือนจำเพื่อชดใช้ความผิดหรือไม่ เป็นต้น

การที่ผมและคณะกรรมาธิการฯ จะมีกำหนดการดูงานและสอบหาข้อเท็จจริง ที่โรงพยาบาลตำรวจ ในวันที่ 12 มกราคม 2567 นั้น ซึ่งในขณะนี้อยู่ในขั้นตอนทำหนังสือถึงกรมราชทัณฑ์และสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ถือว่าเป็นการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายให้อำนาจไว้ ไม่ได้กระทำการเกินเลยแต่อย่างใด ซึ่งเป็นหน้าที่ของทางโรงพยาบาลตำรวจและกรมราชทัณฑ์เองว่า จะตอบรับให้ทางคณะกรรมาธิการฯ เข้าไปดูงานและตรวจสอบข้อเท็จจริงหรือไม่ เพราะถ้าไม่อนุญาต ทางโรงพยาบาลตำรวจ กรมราชทัณฑ์และผู้เกี่ยวข้องก็ต้องตอบคำถามสังคมให้ได้ โดยเฉพาะข้อสงสัยของประชาชน” นายชัยชนะ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img