วันอาทิตย์, พฤษภาคม 19, 2024
หน้าแรกHighlight“นายกฯ”ยันไม่เคยคิดปลด“เศรษฐพุฒิ” แต่อนาคตไม่ทราบต้องไปถาม“ขุนคลัง”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“นายกฯ”ยันไม่เคยคิดปลด“เศรษฐพุฒิ” แต่อนาคตไม่ทราบต้องไปถาม“ขุนคลัง”

ายกฯ ยันไม่เคยคิดปลดผู้ว่าฯ ธปท. และไม่เคยมีแนวคิดแก้ก.ม.ลดอำนาจ แต่อนาคตไม่รู้เป็นหน้าที่กระทรวงการคลัง โนคอมเมนต์ #saveผู้ว่าแบงก์ชาติ

เมื่อเวลา 13.10 น. วันที่ 6 พ.ค.7 ที่โรงพยาบาลโพนทอง ตำบลสระนกแก้ว อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงความเห็นที่ขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มองว่าเป็นอุปสรรคต่อการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต ว่า ตนไม่เคยบอกว่าเป็นอุปสรรคของเงินดิจิทัล หากมีข้อสงสัยตนก็มีหน้าที่ในการอธิบายตรงนี้ไม่ใช่ปัญหา ส่วนที่มีความเห็นต่างกันตนก็ได้ชี้แจงไปชัดเจนแล้ว และตนไม่มีแนวคิดจะแก้พระราชบัญญัติเกี่ยวกับอำนาจของผู้ว่าฯธปท.ไม่เคยพูด ต้องไปถามต้นตอของข่าว ซึ่งเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลัง ที่ต้องไปดูแล ตนไม่เคยพูดเลย ส่วนเรื่องการแก้ไขกฎหมาย ต้องมีการส่งเรื่องมาจากกระทรวงการคลัง ซึ่งตนยังไม่เห็นมีการส่งขึ้นมา

นายกฯ กล่าวยืนยันว่า ไม่เคยพูดให้ผู้ว่าฯลาออก และปลดผู้ว่าฯ ด้วยความเคารพ ถ้าท่านผู้ว่าฯฟังอยู่ ตนไม่เคยกดดัน และไม่เคยพูดด้วย ตนกดดันอาจจะมีการพูดคุยถึงเรื่องเนื้องานเป็นหลัก ตนเป็นผู้นำรัฐบาลพูดมาแค่นี้โดยตลอด ก็แค่นี้ แต่อนาคตไม่ทราบ ต้องถามนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง และไม่เคยไปมีประเด็นอะไรกับท่านเลย และไม่เคยขัดแย้งอะไรกัน ไม่ได้มีการไปต่อว่าอะไรทางผู้ว่าฯธปท.

ส่วนการยื่นให้กฤษฎีกาตีความการใช้เงินจากธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เมื่อไหร่ นายเศรษฐา กล่าวว่า เดี๋ยวให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เป็นผู้ชี้แจง ทั้งนี้เรื่องของเงินดิจิทัลที่บอกว่ามีปัญหา ตนเพิ่งได้ยิน แต่ก็ไม่เห็นว่ามีปัญหาอะไร มีการแถลงข่าวไปเรียบร้อย และโครงการก็เดินไปแล้ว ตอนนี้ทุกฝ่ายต่างคนต่างมีหน้าที่ต้องไปทำงานกัน ตรงไหนที่ต้องมีการตรวจเช็คที่กฤษฎีกา ก็มีการทำงานกันไป อย่างไรก็ตามตนคงไม่ไปแสดงความเห็นเรื่องที่ทางผู้ว่าธปท.บอกว่านักการเมืองมาแล้วก็ไป แต่ธปท.ต้องรักษาสภาพการเงินการคลังของประเทศ แต่ตนคิดว่าตรงนี้ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระ ธปท. รัฐบาล สภาฯ เรามาทำงาน เพื่อใคร เพื่อประชาชน จิตใจตนยึดโยงกับประชาชนอย่างเดียว และกฎหมาย

“ช่วงแรกท่านผู้ว่าฯบอกผมชัดเจนแล้วว่า ไม่อยากให้ผมสื่อสารโดยตรงกับท่าน ให้ผ่านกระทรวงการคลัง ผมก็ทำตามที่ท่านบอกมา และผมก็ไม่ได้เชิญสื่อมวลชนมากล่าวโทษผู้ว่าฯ หรืออะไรเลยใช่ไหม เมื่อท่านถามมาว่าดอกเบี้ยสูงไหม ผมก็บอกว่าดอกเบี้ยสูงก็เท่านั้นเอง ผมไม่ได้เป็นคู่กรณีกับผู้ว่าฯ คู่กรณีของผมคือความยากจนของพี่น้องประชาชน และความยากจนเกิดมาจากดอกเบี้ยสูง ผมก็บอกแค่นี้ ถ้าจะเปลี่ยนใจผมอย่างไรก็เปลี่ยนใจผมไม่ได้ ฝ่ายการเมือง ฝ่ายสส. รัฐมนตรี และองค์กรอิสระ อย่างเช่น ธปท.เอง ก็มีความปรารถนาดีต่อพี่น้องประชาชน แต่มองปัญหาคนละแบบเท่านั้นเอง ซึ่งต่างคนก็ต่างมีหน้าที่ที่ต้องทำซึ่งกันและกัน”นายกฯ กล่าวและว่า ส่วนที่มองว่า เหมือนนโยบายการเงินการคลังไปคนละทางกัน จะทำให้บริหารงานยากหรือไม่นั้น ยอมรับว่าก็มีความลำบากเหมือนกัน ซึ่งต้องมีการพูดคุยกัน อย่างที่ผู้สื่อข่าวเคยมีคำแนะนำมา ซึ่งตนก็พูดผ่าน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.)ไป

ส่วนถ้าจะพูดอะไรประโยคหนึ่งถึงผู้ว่าฯ ธปท. อยากจะพูดอะไร นายเศรษฐา กล่าวว่า “ไม่ ผมว่าไม่มี ผมพูดชัดเจนแล้วสิ่งที่เราเห็นด้วยไม่เห็นด้วย อย่าว่าแต่ผู้ว่าฯธปท.เลย คนในรัฐบาลเองคนในพรรคเอง เราก็เป็นผู้ใหญ่ด้วยกันทุกคน นโยบายต่างๆ มีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เราเป็นผู้ใหญ่แล้วเราก็พูดคุยกันไป อย่าให้มีวาทกรรมว่าจะปลด จะอะไรมันไม่ใช่ ไม่ได้อยู่ในความคิดของผม แม้กระทั่งนิดเดียว เราอยู่ด้วยกันเป็นผู้ใหญ่ ก็มีความประสงค์ดีกับประชาชน เพราะฉะนั้นความเห็นต่างก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว วันนี้ผมก็ไม่ได้เห็นตรงกับทุกเรื่อง แต่เราก็คุยกันด้วยภาษาที่สามารถพูดคุยสื่อสารกันได้ พยายามที่จะยืดหยุ่นประนีประนอมกันได้ เพราะผมเชื่อว่าทุกคน รวมถึงทุกคนที่ยืนอยู่ที่นี่ มาทำงานเพื่อประชาชน อย่าไปเอาเรื่องส่วนตัวเข้ามาดีกว่า เรื่องความขัดแย้ง เป็นเรื่องที่เราไม่อยากให้มีเกิดขึ้น แต่เมื่อมีความเห็นต่างเราก็พยายามบริหารความเห็นต่างตรงนี้ บนบรรทัดฐานของการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน”

นายกฯ กล่าวว่า ทั้งนี้ตนไม่มีคอมเม้นต์เรื่องกระแสโซเชียลที่ติด #saveผู้ว่าฯแบงก์ชาติ เพราะมองว่าท่านไม่มีอะไรที่จะต้องถูกเซฟ เพราะท่านก็มาถูกต้อง ท่านก็มีหน้าที่ของท่าน ก็ทำงานไป หลายๆอย่างที่ท่านทำผมเห็นด้วยก็มี ก็เหมือนกันหลายๆอย่างที่ตน ทำเชื่อว่าท่านก็เห็นด้วย และหลายอย่างที่ตนทำก็อาจจะไม่เห็นด้วย แต่เราเป็นผู้ใหญ่ด้วยกันแล้ว อย่างน้อยฝ่ายตนก็มาทำเพื่อประชาชน ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะไปขัดแย้งกับใคร ไม่มีข้อคิดเห็นที่ว่าจะต้องเซฟ และคิดว่าท่านไม่ต้องการการเซฟ เพราะไม่มีใครจะไปปลดท่าน ไม่มีใครพูด รัฐมนตรีคนใหม่ก็ไม่ได้พูด ตนเองก็ไม่ได้พูด เพียงแต่ท่านแปลเรื่องเราไม่เห็นตรงกันในบางเรื่องใช่หรือไม่ พยายามยกระดับขึ้นไปให้เกิดความขัดแย้ง แต่ยืนยันนะที่นี้ ไม่ว่าจะในสาธารณะหรือส่วนตัวก็ตาม ตนก็พูดแบบนี้แหละเรื่องดอกเบี้ยเรื่องเดียว ไม่ได้พูดเรื่องการกำกับดูแลแบงค์ หรือหนี้เสียก็ไม่ได้พูด เราก็เป็นผู้ใหญ่กันแล้ว เรื่องที่มันดีมันถูกต้องก็ไม่ต้องชมกันหรอก ท่านก็ทำของท่านในสิ่งที่ดีไป

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img