รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทยแนะรัฐบาลตั้งสติแก้ของแพง ชี้มาตรการแก้ปัญหาระยะสั้นไม่ตอบโจทย์ จี้ลดต้นทุนการผลิต เปิดทางคนตัวเล็กให้เข้าถึงแหล่งทุน
วันที่ 30 ม.ค.65 นายเจตุบัญชา อำรุงจิตชัย รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า จากการติดตามบรรยากาศ การจับจ่ายในวันตรุษจีน โดยเฉพาะที่ตลาดเยาวราช พบว่าไม่คึกคักเท่ากับหลายปีที่ผ่านมา สินค้าหลายประเภทมีราคาสูงขึ้น สวนทางกับรายได้ที่ลดลง ของประชาชน และการขาดสภาพคล่องจากภาระหนี้สิน จึงต้องใช้จ่ายอย่างประหยัดมากขึ้น ขณะเดียวกันพบว่า คนส่วนใหญ่ซื้อของน้อยลง เพราะราคาเนื้อสัตว์ประเภทต่างๆ รวมถึงเครื่องเซ่นไหว้ ปรับตัวสูงขึ้น จึงต้องลดจำนวนของไหว้ลง โดยเลือกเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น เช่นเดียวกับบรรยากาศร้านขายทองภายในถนนเยาวราช ก็ไม่คึกคัก ต่างจากเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมาก่อนหน้านี้
นายเจตุบัญชา กล่าวว่า พรรคไทยสร้างไทยเห็นว่า การแก้ปัญหาของแพงโดยรัฐบาลยังไม่ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นโครงการขายสินค้าราคาประหยัด เป็นการแก้ปัญหาระยะสั้น ไม่ตอบโจทย์ ไม่สามารถแก้ของแพงได้จริง ทั้งยังเป็นการนำเงินภาษีประชาชนมาใช้ซื้อสิ้นค้าจากนายทุน มาขายในราคาถูก แข่งขันกับพ่อค้าแม่ขายรายย่อย หรือการ อนุมัติงบประมาณกว่า 53,000 ล้านบาทเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น เจตนาเพื่อดูแลพี่น้องประชาชนจริงหรือไม่ หรือเพื่อเตรียมการไปสู่การเลือกตั้ง และเรียกคะแนนนิยมให้กับบางพรรคการเมือง เช่นเดียวกับ โครงการคนละครึ่งเฟส 4 ที่ลดลงเหลือ 1,200 บาท และต้องใช้ยาว 3 เดือน กระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้จริง สวนทางกับราคาข้าวของ ที่แพงขึ้นทุกวัน
ดังนั้น พรรคไทยสร้างไทย จึงขอให้รัฐบาลตั้งสติ มีความจริงใจที่จะแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนและเปิดใจรับฟังแนวทาง การแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะข้อเสนอของพรรคไทยสร้างไทย ที่แนะนำให้ลดต้นทุนการผลิต เช่นราคาน้ำมัน ที่สูงจนประชาชนไม่สามารถแบกรับภาระได้ เพราะการที่ราคาน้ำมันสูงขึ้น จะทำให้ค่าขนส่งสูงขึ้น ทำให้ราคาสินค้าทุกประเภท ทั้งราคาสินค้าอุปโภค บริโภคเพิ่มขึ้น ดังนั้นการลดภาษีน้ำมันที่ปัจจุบันเก็บเกือบลิตรละ6บาท ให้เหลือประมาณ 25 บาทต่อลิตร จะช่วยลดรายจ่ายของคนไทย ไม่ให้ประชาชนต้องประสบความเดือดร้อน ไม่ต้องกู้หนี้ยืมสิน มารับมือผลกระทบจากการบริหารที่ไม่มีประสิทธิภาพของรัฐบาล
ขณะเดียวกัน รัฐต้องจริงจังกับการดูแลคนตัวเล็กไม่ว่าจะเป็นการเปิดทางให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เช่นข้อเสนอของพรรคไทยสร้างไทย ที่ได้เสนอตั้งกองทุนคนตัวเล็ก ซึ่งจะเป็นกลไกสำคัญให้ พี่น้องประชาชน คนรากหญ้า เกษตรกร ไปถึงผู้ประกอบการรายย่อย สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนโดยไม่ต้องผ่านระบบธนาคาร และไม่ใช่เป็นเพียงจะเป็นแหล่งเงินกู้เท่านั้น แต่กองทุนนี้ จะมีลักษณะของการส่งเสริมและดูแล ให้บุคคลเหล่านี้ มีส่วนร่วมในการตัดสินใจที่จะใช้เงินในการดำเนินธุรกิจด้วย
