“ชัยวุฒิ”ไม่เชื่อ นายกฯปรับ “ธรรมนัส”ออกจากรมช.เพื่อแก้แค้น แต่เกิดจากหากไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ก็ย่อมต้องมีการปรับเปลี่ยนเป็นธรรมดา มั่นใจรัฐบาลจะอยู่ครบเทอม
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 10 ก.ย. ที่รัฐสภา นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวถึงสถานการณ์ภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ภายหลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พ้นจากรมช.เกษตรและสหกรณ์ ว่า ภายในพรรคยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ก็คงจะดูทิศทางอีกครั้งว่าจะเป็นอย่างไร ขณะนี้ยังไม่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งใดๆ ภายในพรรค โดยเฉพาะตำแหน่งเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ที่ ร.อ.ธรรมนัสดำรงตำแหน่งอยู่
ส่วนเมื่อไม่มีตำแหน่งรัฐมนตรีแล้ว ตำแหน่งเลขาธิการพรรคฯ ควรเป็นคนอื่นหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ไม่เกี่ยวกัน ตำแหน่งเลขาฯ เป็นตำแหน่งของพรรค ตำแหน่ง ครม.ก็เป็นตำแหน่งบริหารราชการแผ่นดิน เชื่อว่าทางหัวหน้าพรรคก็คงมีการพูดคุยกับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป ว่าจะปรับเปลี่ยนแนวทางการทำงานภายใน พรรคหรือไม่ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าในพรรคยังคงทำงานร่วมกันอย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เชื่อว่าไม่มีผลกระทบต่อรัฐบาลแน่นอน
ส่วนถ้าหาก ร.อ.ธรรมนัส อาจจะมีการตั้งพรรคการเมืองใหม่ จะส่งผลต่อพรรค พปชร.ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปหรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ยังอีกนาน ยังไม่ถึงเวลาที่จะพูด เพราะกว่าจะเลือกตั้งก็เดือน มี.ค.66 ซึ่งการตั้งพรรคการเมืองเป็นสิทธิของนักการเมืองอยู่แล้ว ดังนั้นเร็วไปที่จะพูดตอนนี้ ส่วนสมาชิกและรัฐมนตรีของพรรคยังนั่งคุยกันปกติ ไม่มีอะไร เป็นความขัดแย้งหรือความไม่เข้าใจของคนไม่กี่คน คนส่วนใหญ่ยังทำงานร่วมกันได้ ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัส เปิดเผยความอึดอัดในการร่วมงานกับพรรคพปชร.จนในวันนี้ก็ไม่ได้มาร่วมลงมติแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 นายชัยวุฒิ กล่าวว่า ขอให้ไปสอบถามจาก ร.อ.ธรรมนัสเอง แต่การลงมตินั้น บางคนมาไม่มาเป็นความเห็นทางการเมืองที่อยากโหวตหรือไม่อยากโหวต ไปว่ากันไม่ได้ อย่างไรก็ตามมั่นใจว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอม เพราะไม่มีเหตุผลอะไรที่จะอยู่ไม่ครบเทอม ถ้ามีผลก็ล้มไปแล้วตั้งแต่ตอนอภิปรายไม่ไว้วางใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ร.อ.ธรรมนัสถูกปรับพ้นคณะรัฐมนตรีนั้น ถือเป็นการแก้แค้นของนายกฯ กรณีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ ร.อ.ธรรมนัสพยายามจะล้มนายกฯ หรือไม่ นายชัยวุฒิ กล่าวว่า หากไม่สามารถทำงานร่วมกันได้ ก็ย่อมต้องมีการปรับเปลี่ยนเป็นธรรมดา ไม่ใช่เรื่องการแก้แค้น แต่เป็นการปรับเปลี่ยนเพื่อให้การทำงานสามารถสนองประโยชน์ของประเทศชาติได้
