“พลังงาน” เตรียมแก้ปัญหาพลังงานราคาแพงในช่วงปลายปี หวังลดค่าไฟฟ้า เล็งขยายการลงทุนกรีนเอ็นเนอร์ยี่เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนผลิตไฟฟ้ามากกว่า 50%
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานเร่งดำเนินการ คือ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เนื่องจากช่วงไตรมาสสุดท้ายปี 2565 หลายประเทศเข้าฤดูหนาว ทำให้ความต้องการใช้พลังงานสูง ส่งผลให้ราคาพลังงานยิ่งเป็นปัญหาขึ้นไปอีก โดยเฉพาะผลกระทบต่อค่าไฟฟ้า หากก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ที่เป็นส่วนประกอบหลักในการผลิตไฟฟ้ามีราคาสูง เป็นเรื่องที่ต้องเตรียมหาแนวทางรับมือ
“แอลเอ็นจีที่เรานำเข้าประมาณ 40% ประกอบกับช่วงนี้การผลิตก๊าซในประเทศมีแนวโน้มลดลง จึงต้องเร่งการผลิตก๊าซในอ่าวไทยให้เพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกันต้องดูว่าราคาเป็นอย่างไร หากราคาแพงจะใช้น้ำมันดีเซลแทน คาดว่าไตรมาสสุดท้ายปีนี้ถึงไตรมาสแรกปีหน้า ราคาก๊าซธรรมชาติจะอยู่ที่ประมาณ 35-40 เหรียญต่อเอ็มเอ็มบีทียู ถือว่าแพงมาก จากเดิมอยู่ที่ 8 เหรียญต่อเอ็มเอ็มบีทียู เราจึงจะนำน้ำมันดีเซลมาทดแทน ก่อนจะกลับไปใช้พลังงานฟอสซิลจากโรงงานไฟฟ้าที่เตรียมปลดระวาง เพราะถ่านหินต้นทุนถูก รวมถึงจะซื้อไฟฟ้าพลังน้ำจากลาวเพิ่มขึ้น เพื่อช่วยพยุงราคาไฟฟ้าไม่ให้กระทบต่อประชาชนในระยะสั้น”นายกุลิศกล่าว
ส่วนระยะยาว จะเร่งปรับตัวเป็นกรีนเอ็นเนอร์ยี่ อีกหนึ่งแรงกดดัน เพราะทุกประเทศเริ่มปรับตัว ลงทุนกรีนเอ็นเนอร์ยี่ กระทรวงจะเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน ซึ่งอยู่ในกรอบแผนพลังงานชาติ เพื่อเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนในการผลิตไฟฟ้าให้มากกว่า 50% ของการผลิตใหม่ ภายในปี ค.ศ.2040 ตามแผนที่กำหนดไว้