วันพุธ, พฤษภาคม 15, 2024
หน้าแรกNEWSพาณิชย์หนุนเอกชนจับคู่ธุรกิจขายสินค้าบนแพลตฟอร์มจีน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

พาณิชย์หนุนเอกชนจับคู่ธุรกิจขายสินค้าบนแพลตฟอร์มจีน

พาณิชย์หนุนผู้ประกอบการนมโคแปรรูปจับคู่ธุรกิจ -ขายสินค้าบนแพลตฟอร์มเถาเป่าชื่อดังของจีน คาดสร้างยอดขายไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท

นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการ “โคนมไทยก้าวไกลขยายตลาดส่งออกได้ด้วย FTA” ว่าได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจัดโครงการดังกล่าวขึ้นเพื่อมุ่งเน้นส่งเสริมการตลาดให้เกษตรกรสห กรณ์โคนม และผู้ประกอบการนมโคแปรรูปของไทยใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่ประเทศคู่ค้าส่วนใหญ่ลดภาษีนำเข้าสินค้านมโคและนมโคแปรรูปให้ไทยเหลือ 0% แล้ว โดยเฉพาะในตลาดอาเซียนและจีน

“การช่วยหาตลาดให้เกษตรกรนมโคและผู้ประกอบการสินค้านมของไทยเป็นเรื่องที่กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นเนื่องจากนมเป็นหนึ่งในสินค้าที่ไทยต้องเตรียมความพร้อมรับการแข่งขันในตลาดโลกที่เข้มข้นยิ่งขึ้นซึ่งโครงการดังกล่าวจะช่วยให้เกษตรกรและผู้ประกอบการสินค้านมสามา รถขยายการส่งออกผ่านช่องทางการขาย ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ได้เพิ่มขึ้น สอดรับกับการค้ายุควิถีใหม่ที่สืบเนื่องมาจากการพัฒนาของเทคโน โลยีและสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่เกิดขึ้น”

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในปีนี้ ได้พัฒนารูปแบบการดำเนินโครงการให้สอดคล้องกับสถานการณ์โควิด-19 มากขึ้น โดยได้จัดอบรมบูธแคมป์ติวเข้มเรื่องการใช้ประโยชน์จาก FTA และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ผ่านมาตรฐานส่งออกของไทยและต่างประเทศ


ซึ่งผู้ประกอบการโคนมที่ผ่านการคัดเลือก 5 ราย จะได้เข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจกับผู้นำเข้าจีนและทำ Live Sale จำหน่ายผลิตภัณฑ์บนแพล็ตฟอร์มเถาเป่าของจีนด้วย

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.ที่ผ่านมา กรมฯ ได้จัดประกวดนำเสนอแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์และวิสัยทัศน์และคณะกรรมการได้คัดเลือกผู้ประกอบการที่มีศักย ภาพ 5 ราย ได้แก่ บริษัท เชียงใหม่เฟรชมิลค์ จำกัดบริษัท แดรี่โฮม วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด บริษัท บุณยเกียรติ ไอศกรีม จำกัด บริษัท แมรี่ แอน แดรี่โปรดักส์ จำกัด และสหกรณ์โคนมไทย-เดนมาร์ค ห้วยสัตว์ใหญ่ จำกัด

โดยคณะกรรมการคัดเลือกผู้ประกอบการพิจารณาจากหลักเกณฑ์เช่น เป็นผู้ที่กระบวนการผลิตได้รับมาตรฐานการขึ้นทะเบียนจากหน่วยงาน GACC ของจีน และได้รับมาตรฐานEST. จากกรมปศุสัตว์ ที่พร้อมส่งออกไปตลาดจีนมีการใช้วัตถุดิบน้ำนมจากเกษตรกรภายในประเทศ มีความพร้อมส่งออกไปตลาดจีน มีการใช้นวัตกรรมในการผลิตที่จะสามารถตอบสนองความต้องการของตลาดจีนได้

รวมทั้งมีแผนธุรกิจที่ใช้ประโยชน์จาก FTA ในการส่งออกและมีการวางแผนกลยุทธ์การทำตลาดออน ไลน์และออฟไลน์ โดยหลังจากนี้ กรมฯ จะนำผู้ประกอบการทั้ง 5 รายเข้าร่วมกิจกรรมจับคู่ธุรกิจ ในวันที่ 25 ม.ค. 65 ซึ่งคาดว่าจะสร้างยอดขายไม่ต่ำกว่า 250 ล้านบาท

ทั้งนี้ปัจจุบันไทยเป็นผู้ส่งออกสินค้านมและผลิต ภัณฑ์นมอันดับ 1 ในอาเซียน และเป็นอันดับที่ 7 ของโลกในช่วง 10 เดือน (ม.ค.-ต.ค. 2564) ไทยส่งออกสินค้านมและผลิตภัณฑ์นมสู่ตลาดโลกมูลค่า 486.5 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 3.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า


ตลาดส่งออกสำคัญ ได้แก่ อาเซียน (ส่งออก 407.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 2.6%) ฮ่องกง (ส่งออก 21.4 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 13.2%) จีน (ส่งออก 20.1 ล้านเหรียญสหรัฐ ลดลง 2.0%)และกานา (ส่งออก 10 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 40.8%) จากช่วงเดียวกันของปีก่อน สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ นมเปรี้ยว โยเกิร์ต และนม UHT

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img