“ออมสิน-ธอส.” เตรียมขยับดอกเบี้ยเงินกู้ ก.พ.นี้ หลังส่วนต่างดอกเบี้ยแบงก์พาณิชย์ห่างจากแบงก์รัฐ 0.65-0.9%
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ในเดือน ก.พ.นี้ หลังต้นทุนเงินฝากของแบงก์เพิ่ม ขณะที่ต้นทุนช่วยลูกค้าในโครงการต่าง ๆ ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นแล้ว ขณะที่ธนาคารได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้มาระยะหนึ่งแล้ว
“ขณะนี้ส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ย MLR และ MRR ระหว่างแบงก์รัฐกับเอกชน ผิดเพี้ยนไปจากปกติ เนื่องจากแบงก์พาณิชย์ส่วนใหญ่ปรับขึ้นดอกกู้ไปเมื่อปลายปี 2565 บางแบงก์ขึ้นดอกกู้ 0.25% บางแบงก์ก็ขึ้น 0.5% และเมื่อช่วงต้นปี 2566 ขึ้นไปอีก 0.4% รวมกันแล้วประมาณ 0.65-0.9% จึงถึงจุดที่แบงก์เฉพาะกิจของรัฐต้องคุยกัน เพื่อปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ไม่ให้เกิดความแตกต่างกับแบงก์เอกชนมากจนเกินไป”นายวิทัย กล่าว
ส่วนการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.วันที่ 25 ม.ค.นี้ จะปรับขึ้นดอกเบี้ย หรือ คงอัตราดอกเบี้ย ก็คงไม่มีผลต่อการตัดสินใจของธนาคารออมสินมากนัก เนื่องจากต้นทุนทางการเงินระหว่างแบงก์รัฐและแบงก์พาณิชย์แตกต่างกันมากในปัจจุบัน
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ กล่าวว่า ในไตรมาส 1/2566 สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ เตรียมจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ หลังจากที่ผ่านมาได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ แม้คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะมีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยในรอบปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปก่อนหน้านี้แล้ว
โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต้องการรักษาส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยเงินกู้กับเงินฝาก และรักษาส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ กับอัตราดอกเบี้ยของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ โดยจะขยับอัตราดอกเบี้ยขึ้นไม่มาก หรือประมาณครึ่งหนึ่งของที่ธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นไป เพื่อรักษาระดับส่วนต่างดอกเบี้ยระหว่างเงินกู้และเงินฝาก ทั้งนี้ ธอส.จะตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ถึงแค่สิ้นเดือน ม.ค.นี้ อย่างไรก็ตาม การพิจารณาขึ้นดอกเบี้ยจะรอดูผลการประชุมกนง.ในวันที่ 25 ม.ค.นี้ก่อน
รายงานข่าวแจ้งว่า ธนาคารเฉพาะกิจของรัฐเตรียมหารือปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เร็ว ๆ นี้ ประมาณ 0.3-0.4% ภายหลังจากต้นทุนเงินฝากที่เพิ่มขึ้น ในขณะที่ต้องตรึงดอกเบี้ยเงินกู้ตามนโยบายของภาครัฐตั้งแต่ปลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มีส่วนต่างดอกเบี้ยเงินกู้ระหว่างแบงก์รัฐกับแบงก์พาณิชย์เอกชนแตกต่างกันมาก
