วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 16, 2024
หน้าแรกNEWS“SME”หวั่นต่างชาติตีตลาด ชงรัฐจำกัดการทำธุรกิจ
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“SME”หวั่นต่างชาติตีตลาด ชงรัฐจำกัดการทำธุรกิจ

“SME” วอนรัฐออกมาตรการจำกัดธุรกิจต่างชาติในพื้นที่จังหวัดท่องเที่ยว เสนอเก็บภาษี-เพิ่มขีดความสามารถธุรกิจ เพื่อแข่งขันกับต่างชาติ

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า สสว. ได้ทำการสำรวจผู้ประกอบการ SME เกี่ยวกับความคิดเห็นของ SME ต่อผู้ประกอบการต่างชาติในพื้นที่ โดยสอบถามผู้ประกอบการ จำนวน 2,678 ราย ใน 6 ภูมิภาคทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 21-31 กรกฎาคมที่ผ่านมาพบว่า ผู้ประกอบการ SME 57.5% มีลูกค้าเป็นคนไทยเท่านั้น ส่วนอีก 42.5% มีลูกค้าทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ โดยเฉพาะในธุรกิจภาคบริการและภาคการค้าที่มีพื้นที่ตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยว

ซึ่งแหล่งที่มาของสินค้าหรือวัตถุดิบของธุรกิจ SME สัดส่วน 91.3% ใช้จากแหล่งผลิตในประเทศ และ 8.7% ใช้ทั้งจากแหล่งผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ โดยช่องทางการซื้อสินค้าหรือวัตถุดิบนำเข้ามากที่สุด 42.8% มาจากผู้ประกอบการคนไทย รองลงมา 33.8% มาจากผู้ประกอบการต่างชาติในรูปแบบออนไลน์ 12.6% มาจากผู้ประกอบการต่างชาติในรูปแบบออฟไลน์ และ 10.8% ตอบว่ามากกว่า 1 ช่องทาง

สำหรับประเทศแหล่งที่มาหลักของสินค้าหรือวัตถุดิบนำเข้า ได้แก่ จีน เป็นสินค้าในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์พลาสติก สินค้าอุปโภคบริโภค ญี่ปุ่น เป็นสินค้าในกลุ่มธุรกิจร้านซ่อมรถ ร้านอะไหล่รถยนต์ ปากีสถานและอินเดีย เป็นสินค้าในกลุ่มธุรกิจเสื้อผ้า สิ่งทอ และกลุ่มผลิตอัญมณี เครื่องประดับ โดยสัดส่วนต้นทุนการซื้อสินค้านำเข้าต่อต้นทุนรวมสินค้าทั้งหมดแบ่งตามช่องทางการซื้อสินค้านำเข้าพบว่ามีต้นทุนการใช้สินค้านำเข้าในช่วง 1-20% และหากเป็นการซื้อผ่านช่องทางออนไลน์จะมีสัดส่วนต้นทุนที่สูงขึ้น

นอกจากนี้ผู้ประกอบการ SME 11.5% เผชิญกับการแข่งขันกับผู้ประกอบการต่างชาติในพื้นที่ โดยเฉพาะใน กรุงเทพฯ และจังหวัดท่องเที่ยวของภาคเหนือและภาคใต้ แต่สัดส่วน 30% ที่ตอบว่าไม่แน่ใจ โดยในพื้นที่ใกล้เคียงกิจการของ SME ส่วนใหญ่จะมีธุรกิจต่างชาติไม่เกิน 10 ราย ซึ่งลักษณะธุรกิจของผู้ประกอบการต่างชาติส่วนใหญ่เป็นกลุ่มร้านอาหาร เครื่องดิ่ม และโรงแรม ที่พัก โดยเป็นการลงทุนจากผู้ประกอบการจีน และญี่ปุ่น

สำหรับการประเมินธุรกิจของผู้ประกอบการต่างชาติที่มีหน้าร้านหรือโรงงานในพื้นที่โดยรอบกิจการของ SME พบว่า พนักงานและสินค้า วัตถุดิบในการผลิตหรือบริการมาจากทรัพยากรในประเทศเป็นหลัก โดยผู้ประกอบการ SME ไทย ยังมีความกังวลเพียงเล็กน้อยต่อการมีผู้ประกอบการต่างชาติในพื้นที่ โดยมองว่าตนเองมีข้อได้เปรียบ ในเรื่องเอกลักษณ์ของสินค้าและการเข้าถึงลูกค้าในพื้นที่

ส่วนที่คิดว่าเป็นข้อเสียเปรียบเป็นเรื่องของการพัฒนาสินค้า เงินทุน และความรู้ทางการตลาด และผู้ประกอบการเกือบ 60% มองว่าการเข้ามาของผู้ประกอบการต่างชาติเป็นผลบวกมากกว่าผลลบ เพราะเป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในพื้นที่เพิ่มขึ้น รองลงมาคือ ได้เรียนรู้ทักษะหรือกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ ส่วนด้านผลลบมองว่าทำให้การแข่งขันสูง รองลงมาคือ ลดส่วนแบ่งทางการตลาด โดยเฉพาะในกลุ่มธุรกิจที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน



นอกจากนี้ผู้ประกอบการ SME ไทยในปัจจุบัน ส่วนใหญ่ยังไม่มีแผนการรับมือกับธุรกิจต่างชาติในพื้นที่ โดยมีข้อเสนอแนะความช่วยเหลือที่ต้องการมากที่สุด คือ การออกมาตรการจำกัดจำนวนและประเภทของธุรกิจต่างชาติในแต่ละพื้นที่เพื่อลดการกระจุกตัว รองลงมาคือ เร่งตรวจสอบและควบคุมการเข้ามาของผู้ประกอบการต่างชาติ การส่งเสริมการพัฒนาทักษะ ความรู้ในการทำธุรกิจ เพื่อให้ SME สามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการต่างชาติได้ มาตรการการเก็บภาษีที่ต้องมีความแตกต่างกันระหว่างผู้ประกอบการคนไทยและคนต่างชาติ โดยผู้ประกอบการต่างชาติควรมีสัดส่วนการจ่ายภาษีที่เยอะกว่า และส่งเสริมให้มีการจ้างงานแรงงานในพื้นที่มากกว่าการนำแรงงานมาจากประเทศของผู้ประกอบการ เพื่อเป็นการสร้างรายได้และอาชีพ


สำหรับผู้ประกอบการ SME ที่ยังไม่พบเจอธุรกิจต่างชาติในพื้นที่โดยรอบกิจการ กว่า 55% คาดการณ์ว่าจะยังไม่มีผู้ประกอบการต่างชาติเข้ามาในพื้นที่ตนเองเนื่องจากไม่ใช่เขตที่มีแหล่งเศรษฐกิจสำคัญทำให้ไม่อยู่ในเป้าหมายของนักลงทุน โดยประเมินว่าการเข้ามาของผู้ประกอบการต่างชาติในพื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มธุรกิจร้านอาหาร โรงแรมที่พัก รวมไปถึงภาคการค้าสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งจะอยู่ในเขตพื้นที่เมืองหลัก และเมืองท่องเที่ยวของแต่ละภูมิภาค

อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการ SME 65.3%ยังไม่กังวลต่อการเข้ามาของธุรกิจต่างชาติ เพราะมีความเชื่อมั่นต่อฐานกลุ่มลูกค้าและความเป็นเอกลักษณ์ของธุรกิจ แต่ผู้ประกอบการ SME 34.7% ที่มีความกังวล เนื่องจากข้อเสียเปรียบด้านเงินทุนและเครือข่ายการเข้าถึงต้นทุนที่ถูกกว่า โดยสิ่งที่ต้องการให้ช่วยเหลือมากที่สุด คือการกำหนดขอบเขตการประกอบกิจการของต่างชาติให้ชัดเจนเพื่อควบคุมผลกระทบที่มีต่อ SME คนไทย และมีมาตรการส่งเสริมธุรกิจ SME ในประเทศเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาด

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img