วันจันทร์, พฤษภาคม 27, 2024
หน้าแรกHighlight“สอท.”ไล่เช็กผลกระทบธุรกิจ หลังเมียนมาระงับชำระคืนหนี้ตปท.
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“สอท.”ไล่เช็กผลกระทบธุรกิจ หลังเมียนมาระงับชำระคืนหนี้ตปท.

สอท.เกาะติดสถานการณ์เมียนมา หลังสั่งระงับการชำระคืนหนี้ต่างประเทศชั่วคราวรักษาทุนสำรองระหว่างประเทศ ด้านเอ็กซิมแบงก์ยันลูกค้าไม่ได้รับผลกระทบ


นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยถึงกรณีธนาคารกลางเมียนมา มีคำสั่งให้บริษัทเอกชน รวมทั้งบุคคลทั่วไปที่มีเงินกู้ต่างประเทศ ระงับการชำระคืนหนี้ต่างประเทศชั่วคราว เพื่อต้องการรักษาทุนสำรองระหว่างประเทศ หลังจากค่าเงินจ๊าดของเมียนมาเทียบกับดอลลาร์อ่อนค่าลงมากว่า 1 ใน 3 เทียบกับปีก่อน ว่า ภาคเอกชนรู้สึกช็อกกับคำสั่งดังกล่าวของธนาคารกลางเมียนมา ซึ่งขณะนี้ภาคเอกชนหลายรายที่มีการทำการค้ากับคู่ค้าเมียนมา ได้โทรศัพท์สอบถามไปยังคู่ค้าว่าจะดำเนินการอย่างไร

นอกจากนี้ได้ให้ 45 กลุ่มอุตสาหกรรมของ ส.อ.ท. ติดตามผล กระทบอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมกันประเมินสถานการณ์ต่อไป เบื้องต้นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบ เช่น อุตสาหกรรมกลุ่มอุปโภคบริโภค อุตสาห กรรมการก่อสร้าง ซึ่งทำการค้ากับเมียนมาเป็นจำนวนมาก ขณะที่ภาพรวมการค้าระหว่างไทย-เมียนมาตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย. 65 เพิ่มขึ้นถึง 37.88%

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่พบลูกค้าของเอ็กซิมแบงก์ที่เข้าไปลงทุนในเมียนมา ได้รับผลกระทบ โดบคำสั่งที่ออกมาเป็นการสั่งระงับการชำระคืนเงินกู้ แต่ธุรกิจของไทยที่เข้าไปลงทุนเป็นรูปแบบการชำระเงินเพื่อซื้อขาย

ปัจจุบันลูกค้าของเอ็กซิมแบงก์ที่เข้าไปลงทุนในเมียนมา มีทั้งหมด 7 ราย 4 รายทำธุรกิจพลังงาน และ 3 รายทำธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคมูลค่าลงทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท โดยเอ็กซิมแบงก์ เตรียมมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่เข้าไปลงทุนในเมียนมาไว้แล้ว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img