ครั้งแรกในรอบ 46 ปี อ่างบางพระน้ำเต็มความจุ 117 ล้าน ลบ.ม. สำนักงานชลประทานที่9 มั่นใจพื้นที่ EEC มีน้ำใช้พอทั้งหน้าแล้งปีนี้ และยังมีน้ำสำรองต้นฤดูฝน เก็บไปใช้ได้ถึงฤดูแล้งปี 2565/66
นายทินกร เหลือล้น ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 9 กล่าวว่า นโยบายของอธิบดีกรมชลประทาน นายประพิศ จันทร์มา และนายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล รองอธิบดีกรมชลประทาน เน้นย้ำเรื่องการบริหารจัดการน้ำต้องเพียงพอในทุกด้าน โดยเฉพาะต้องไม่มีปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค สำนักงานชลประทานที่ 9 มีพื้นที่รับผิดชอบในเขตพื้นที่ EEC มีอ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี เป็นหนึ่งในศูนย์กลางการจ่ายน้ำ พื้นที่นี้มีความต้องการใช้น้ำปีละประมาณ 80 ล้าน ลบ.ม.
โดยในปี 2564 ปริมาณน้ำต้นทุนอ่างเก็บน้ำบางพระอยู่ในเกณฑ์ดีมาก เป็นครั้งแรกในรอบ 46 ปี ที่อ่างบางพระมีปริมาณน้ำเก็บกักเต็มความจุ 100% ส่งผลดีทำให้มีน้ำใช้เพียงพอในทุกกิจกรรมจนจบสิ้นฤดูแล้วปี 2564/2565 ในวันที่ 30 มิถุนายน 2565 และยังมีน้ำต้นทุนสํารองไว้ใช้เตรียมแปลงเพาะปลูกช่วงต้นฤดูฝน ปี 2565 รวมถึงสํารองไว้ใช้ในกิจกรรมอื่นๆ กรณีต้นฤดูฝนปี 2565 เกิดฝนทิ้งช่วงด้วย
จากการจัดเก็บข้อมูลสถิติปริมาณน้ำในอ่าง นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 46 ปี ที่อ่างบางพระมีปริมาณน้ำเก็บกักเต็มความจุ 100% ปริมาณน้ำเต็มความจุอ่างเก็บน้ำ 117 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งผลจากการที่มีความจุ 100% ทำให้มีปริมาณน้ำต้นทุนของอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ในบริเวณพื้นที่ 8 จังหวัดภาคตะวันออก ได้แก่ จังหวัดชลบุรี จังหวัดระยอง จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดสระแก้ว จังหวัดปราจีนบุรี จังหวัดนครนายก และจังหวัดฉะเชิงเทรา เพิ่มขึ้น 90% ปริมาณน้ำที่จะเหลือในอ่างจะมีมากกว่าทุกๆปี เป็นหลักประกันว่าการบริหารจัดน้ำในฤดูแล้งที่จะถึงนี้ หรือต้นฤดูฝนปีหน้ามีปริมาณน้ำเพียงพอสำหรับความต้องการใช้น้ำในทุกด้าน
นายเกรียงศักดิ์ พุ่มนาค ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา สำนักงานชลประทานที่ 9 กล่าวว่า กรณีต้นฤดูฝน ปี 2565 เกิดฝนทิ้งช่วง หรือมีความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้น สำนักงานชลประทานที่ 9 ได้เตรียมแผนสูบผันน้ำโดยใช้ระบบโครงข่ายผันน้ำที่มีอยู่เข้าแก้ปัญหา เพื่อหมุนเวียนน้ำและจัดสรรน้ำให้กับพื้นที่ที่ขาดแคลน
โดยอ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี มีท่อผันน้ำมาจากสถานีสูบน้ำคลองพระองค์ไชยานุชิต จ.สมุทรปราการ สามารถสูบผันน้ำได้ 70 ล้าน ลบ.ม./ปี และท่อผันน้ำจากแม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อสูบผันน้ำจากแม่น้ำบางปะกงส่วนเกินในช่วงฤดูฝน จะไหลทิ้งทะเลมาเก็บในอ่างฯ บางพระ ปีละประมาณ 30 ล้าน ลบ.ม. หากเกิดวิกฤตทั้งแม่น้ำบางปะกงและคลองพระองค์ไชยานุชิต ยังสามารถผันน้ำจากอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ จ.ระยอง มาเติมที่อ่างเก็บน้ำบางพระได้ทางหนึ่ง คาดว่าเพียงพอกับความต้องการทุกกิจกรรมการใช้น้ำในอนาคต นอกจากนี้ อ่างเก็บน้ำบางพระ ยังผันน้ำไปยัง แม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทราในช่วงฤดูแล้ง เพื่อแก้ปัญหาความเค็มในแม่น้ำบางปะกงรุกตัว ให้ประชาชนสามารถใช้น้ำประปาได้ตามมาตรฐาน
ปัจจุบัน การจัดสรรน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกโดยสำนักงานชลประทานที่9 เป็นไปสำหรับทุกกิจกรรมอย่างเพียงพอ แบ่งเป็นการอุปโภค – บริโภค กปภ.สาขาชลบุรี ศรีราชา และพัทยา 70 ล้าน ลบ.ม. ต่อปี ,ภาคอุตสาหกรรม บ.ไทยออยล์ 6.6 ล้าน ลบ.ม. ต่อปี ,โรงไฟฟ้าบางปะกง 1.5 ล้าน ลบ.ม. ต่อปี,ภาคการเกษตร ส่งน้ำให้นาข้าว ไม้ผล พืชไร่ พืชสวน (พื้นที่ประมาณ 1,000-1,500 ไร่) 0.5 ล้าน ลบ.ม. ต่อปี
