วันพุธ, พฤษภาคม 15, 2024
หน้าแรกNEWS"สาธิต"แจงยันรับมือ"โอมิครอน"ไม่ง่าย แต่ต้องกักตัว100%
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“สาธิต”แจงยันรับมือ”โอมิครอน”ไม่ง่าย แต่ต้องกักตัว100%

“สาธิต” แจงกระทู้ยันรับมือ “โอมิครอน” ไม่ง่าย ยันกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัว 100% ชี้ข้อมูลยังไม่เพียงพอที่จะปิดประเทศ นายกฯสั่งระงับ 9 ปท.เข้าไทยแล้ว เผยบริษัทหลายแห่งเตรียมวิจัยพัฒนาวัคซีนรองรับแล้ว

วันที่ 2 ธ.ค. 64 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาฯคนที่หนึ่ง ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ทั้งนี้ได้พิจารณากระทู้ถามสดของนพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย เรื่อง มาตรการของรัฐบาลในการรับมือสถานการณ์ไวรัสโควิด “โอมิครอน” ถามนายกฯ ว่ามีมาตรการรองรับในเรื่องนี้อย่างไร เพราะบางประเทศปิดรับนักท่องไปแล้ว

นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ชี้แจงแทนนายกฯ ว่านโยบายเปิดประเทศรัฐบาลไม่ได้ลุกลี้ลุกลน แต่เป็นการฟื้นเศรษฐกิจ ภายใต้การดำเนินการมาตรการด้านสาธารณสุข-คุมตัวเลขผู้ชิดเชื้อ ซึ่งประเมินแล้วมั่นใจในศักยภาพการรับมือของกระทรวงสาธารณสุขยังสามารถรับได้ ทั้งการฉีดวัคซีน การจัดการคัดกรองบุคคล ซึ่งพยายามป้องกันการแพร่ระบาดโควิดทุกสายพันธุ์ ส่วนไวรัสโควิดสายพันธุ์ โอมิครอน ยอมรับว่าการยับยั้งไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างที่เคยพยายามหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เบต้า ที่ระบาดในพื้นที่ภาคใต้ แต่จะต้องควบคุมและสอบสวนโรคให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะต้องนำผู้ที่สัมผัสและกลุ่มผู้เสี่ยงสูงเข้ากระบวนการกักตัวควบคุมโรคให้ได้ 100%

นายสาธิต กล่าวว่า หลังมีข่าวการแพร่ระบาด โอมิครอน นายกฯสั่งปิดรับลงทะเบียนเข้าไทย 9 ประเทศในแอฟริกาที่มีการระบาดสูง ส่วนกลุ่มบุคคลที่เข้ามาก่อนหน้านี้จะต้องมีการกักตัวและตรวจค้นหาเชื้อถึง 3 ครั้ง ซึ่งมีผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยรวมจนถึงตอนนี้เรา 800 คน โดยยืนยันจะไม่ตื่นตระหนกบนสถานการณ์ข้อมูลที่ยังไม่ชัดเจน หากมีอัตราตัวเลขผู้ติดเชื้อโอมิครอน 1,000 คนก็ยังไม่มากพอที่จะสามารถนำไปประกอบการพิจารณาฟันธงว่าจะปิดประเทศหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่มีอาการคล้ายกับเดลต้า

“ขณะนี้ยังไม่มียืนยันรายงานเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตสาเหตุจากการติดเชื้อดังกล่าว ซึ่งการฉีดวัคซีนในแอฟริกาใต้อัตราค่าเฉลี่ยยังต่ำอยู่ที่ร้อยละ 40 และบางพื้นที่เพียงแค่ร้อยละ 10 เท่านั้น และยอมรับว่ามีโอกาสที่ผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัวจะเสียชีวิตจากการติดเชื้อโอมิครอน ซึ่งบนพื้นฐานข้อมูลเท่านี้ยังไม่สามารถที่จะพลีผลามตัดสินใจ แต่ก็ไม่ได้ประมาท เพราะไม่สามารถปิดกั้นทุกช่องทางของโรคระบาดได้”รมช.สาธารณสุข กล่าว

นายสาธิต กล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศที่มีความเสี่ยงมีจำนวน 252 คนและมีการตรวจคัดกรองพบว่ามีความเสี่ยง ซึ่งเดินทางมาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดจำนวน 122 คน โดยมีผู้ที่เดินทางออกจากนอกราชอาณาจักรไทยไปแล้ว 4 คน และควบคุมดูแลสังเกตแล้ว 11 คน โดยมีการตรวจค้นหาเชื้อซ้ำแล้ว พบว่าทั้งหมดมีผลเป็นลบ สำหรับอีก 16 คน หากครบ 14 วันตามหลักเกณฑ์ก็ถือเป็นไปตามเกณฑ์การควบคุมโรคของโควิดทุกสายพันธุ์ ยกเว้นหากมีข้อมูลว่าโอมิควอน จะใช้ระยะเวลาฟักตัวเกิน 14 วันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แม้ขณะนี้มี 32 ประเทศที่ติดเชื้อโอมิครอนไปแล้วรวมถึงประเทศสิงคโปร์ที่อยู่ใกล้กับไทย และมีญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง จึงได้สั่งอธิบดีกรมควบคุมโรคที่ได้เดินทางต่างประเทศไปว่าจะต้องรายงานตลอด 24 ชั่วโมงถึงความคืบหน้าทั้งสถานการณ์ในต่างประเทศและในประเทศไทย และสั่งให้ตรวจทุกคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศซึ่งวันนี้ตรวจไปแล้ว 90 คนพบว่ายังเป็นเดลต้าทั้งหมด

รมช.สาธารณสุข กล่าวต่อว่า ส่วนวันนี้จะได้รับรายงานว่าที่เดินทางเข้ามาทั้งหมดมีสถานการณ์อย่างไร ยืนยันกระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด และจะติดตามข้อมูลให้ครบถ้วนหากมีข้อมูลที่สามารถตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็จะนำเสนอไปยังนายกรัฐมนตรีพิจารณากรณีที่จะส่งผลกระทบบนแรงในแนวเศรษฐกิจ ส่วนแนวทางดำเนินตามมาตรการมาจนถึงขณะนี้พอใจแล้ว

อย่างไรก็ตามนพ.สุวิทย์ ได้กล่าวฝากรัฐบาลเตรียมการจัดหาวัคซีนที่รองรับกับการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์โอมิครอน

นายสาธิต ชี้แจงว่า การผลิตวัคซีนของบริษัทในต่างประเทศแต่ละยี่ห้อเชื่อว่าอาจจะกำลังติดตามศึกษาสถานการณ์ไวรัสโอมิครอน ทั้งของแอสตร้าเซเนก้าและไฟเซอร์ ซิโนแวค ที่ได้มีการพูดคุยกัน โดยอ้างอิงข้อมูลข่าวว่าไฟเซอร์แสดงความพร้อมวัคซีนชนิดใหม่ที่รองรับไวรัสโอมิคครอนมาอีก 100 วันข้างหน้า และจอนสันแอนจอนสันอยู่ระหว่างทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนต่อเชื้อกลายพันธุ์ไวรัสชนิดนี้ คาดว่าอี2-3 สัปดาห์จะทราบผล เป็นต้น

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img