วันอังคาร, พฤษภาคม 14, 2024
หน้าแรกHighlight“อนุทิน”ชงเปิดประเทศเต็มรูปแบบ เดินหน้าเศรษฐกิจ คาดก่อน 1 ก.ค.นี้
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“อนุทิน”ชงเปิดประเทศเต็มรูปแบบ เดินหน้าเศรษฐกิจ คาดก่อน 1 ก.ค.นี้

“อนุทิน” เตรียมเสนอเปิดประเทศเต็มรูปแบบ เดินหน้าเศรษฐกิจ เผยหลังผ่อนคลายมาตรการ มั่นใจระบบสาธารณสุขรับมือไหว คาดว่าน่าจะเร็วกว่าแผนเดิมที่เคยกำหนดไว้ประมาณวันที่ 1 ก.ค.2565 ขึ้นอยู่กับความพร้อมของแต่ละหน่วยงาน

เมื่อวันที่ 21 เม.ย.65 ที่กระทรวงสาธารณสุข นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ถึงแนวโน้มที่จะเสนอศบค.ในการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ ว่า ขณะนี้จำนวนคนติดเชื้อในประเทศจากการตรวจ RT-PCR ราวๆ 2-3 หมื่นรายต่อวัน ไม่รวมการตรวจ ATK ขณะที่ผู้เดินทางมาจากต่างประเทศมีการตรวจ RT-PCR ชัดเจน พบได้ไม่เกินวันละ 100 คน บางคนเป็นคนไทย  เพราะฉะนั้น การนำเข้าเชื้อมาจากต่างประเทศ กับเชื้อที่มีอยู่ในประเทศไทยนั้น คิดว่าเราสามารถรับมือได้

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า  เราเองก็ต้องการให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้ต่อไป  อย่างที่ผ่านมาหลังจากเริ่มผ่อนคลายมาตรการ ให้มีการตรวจ RT-PCR  เพียงครั้งเดียว ไม่ต้องกักตัวนาน ก็ทำให้มีผู้เดินทางเข้ามาทั้งนักท่องเที่ยว และประกอบธุรกิจมากมาย ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้ทำอะไรที่สวนทางกับทั่วโลกที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เราอาจจะเดินตามเขาด้วยซ้ำในเรื่องของความเข้มงวดในการตรวจคัดกรองเชื้อ

“เราจึงคิดว่าเราอยู่ภายใต้การบริหารจัดการได้ โดยเฉพาะการบริหารจัดการไม่ให้เกิดกรณี ป่วยหนักหรือเสียชีวิตเพิ่มมากขึ้นจนระบบรับไม่ไหว  เราก็มีความตั้งใจที่จะเปิดให้กว้างขึ้น ผ่อนคลายมากขึ้นเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ พี่น้องประชาชนสามารถสร้างรายได้ มีงานทำ มีกิจวัตรประจำวันที่เป็นปกติได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขตั้งใจที่จะทำมาโดยตลอด ทุกครั้งที่มีโอกาส” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า การผ่อนคลายมาตรการต่างๆ มากขึ้นจะทำให้มีปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกเข้ามามากขึ้นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างมีปัจจัยเสี่ยงอยู่แล้วอยู่ที่ว่าจะบริหารจัดการอย่างไร วันนี้เราเดินออกนอกบ้านไม่ติดโควิด ก็เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุต่าง ๆ ได้ แต่เราจะประเมินความเสี่ยงอย่างไร จะระมัดระวังอย่างไร  โควิดก็เช่นกัน

แหล่งข่าวระดับสูงกล่าวว่า  กรณีกระทรวงสาธารณสุขเสนอให้เปิดประเทศเต็มรูปแบบนั้น จะเสนอให้เปิดประเทศเร็วที่สุด คาดว่าน่าจะเร็วกว่าแผนเดิมที่เคยกำหนดไว้ประมาณวันที่ 1 ก.ค.2565 ทั้งนี้ ต้องขึ้นอยู่กับความพร้อมของหน่วยงานต่างๆ ด้วย

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img