วันพุธ, พฤษภาคม 22, 2024
หน้าแรกHighlight‘รู้ตัวกลุ่มเผา’หน้าเรือนจำคลองเปรม ‘ผบช.น.’ขอเวลาอีกไม่นาน-จับได้แน่
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘รู้ตัวกลุ่มเผา’หน้าเรือนจำคลองเปรม ‘ผบช.น.’ขอเวลาอีกไม่นาน-จับได้แน่

“ผบช.น.” แถลงเหตุสลายม็อบ 28 กุมภาฯ ย้ำเป็นครั้งแรกที่ใช้ปืนยิงกระสุนยางเข้าควบคุม เพื่อให้สถานการณ์ยุติโดยเร็ว เผยกรณีเผาพระบรมฉายาลักษณ์ที่หน้าเรือนจำคลองเปรม รู้ตัวกลุ่มก่อเหตุแล้ว ขอเวลาอีกไม่นาน จับได้แน่ ข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์และ ม.112

เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 1 มี.ค.64 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น., พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผบช.น.และโฆษก บช.น. และพล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนง โฆษกตร. ร่วมกันแถลงผลการดำเนินคดีกลุ่มผู้ชุมนุม REDEM ปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ บริเวณถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย โดยพล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวว่า การชุมนุมเริ่มตั้งแต่ 15.00 น. ต่อเนื่องจนถึงเวลา 02.00 น.ของวันนี้ ตลอดการชุมนุมตำรวจได้แจ้งเตือนผู้ชุมนุมอยู่เป็นระยะ แต่มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้รื้อลวดหนาม รั้วเหล็ก และขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะนั้นเกรงว่าจะเหตุการณ์จะรุนแรงขึ้น จึงระงับเหตุ ถือเป็นครั้งแรกที่ตำรวจใช้ปืนยิงกระสุนยาง ยืนยันว่าวัสดุอุปกรณ์ทุกอย่างที่นำมาใช้ในการควบคุมฝูงชน เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับอนุญาตทั้งหมด ไม่มีความรุนแรงอันตรายถึงชีวิต อีกทั้งยังใช้ตามความจำเป็น โดยหวังให้สถานการณ์ยุติให้เร็วที่สุด

พล.ต.ท.ภัคพงศ์ กล่าวต่อว่า หลังยุติการชุมนุม มีผู้ชุมนุมบางส่วนเดินทางไปรวมตัวที่หน้า สน.ดินแดง และสน.สุทธิสาร มีการก่อเหตุเผารถตำรวจที่สน.ดินแดง ทำให้เกิดความเสียหาย ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบความเสียหาย และจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดี เบื้องต้นมีความผิดข้อหาวางเพลิงและทำให้เสียทรัพย์ ส่วนกรณีเหตุคนร้ายวางเพลิงเผาพระบรมฉายาลักษณ์ บริเวณด้านหน้าเรือนจำคลองเปรม เมื่อคืนวันที่ 27 ก.พ.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้ส่งตัวแทนมาแจ้งความดำเนินคดีที่สน.ประชาชื่น ความผิดที่เกี่ยวข้องในข้อหาวางเพลิงเผาทรัพย์ และคาดว่าจะมีความผิดม.112 ขณะนี้รู้ตัวกลุ่มที่ก่อเหตุแล้ว เป็นกลุ่มเดียวกันกับที่อยู่ระหว่างดำเนินคดี ขอเวลาทำงานอีกไม่นาน จะจับกุมผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้แน่นอน

เมื่อถามว่า จากภาพที่มีปรากฏตามสื่อโซเชียล ทั้งการเตะและลากผู้ที่บาดเจ็บ เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุหรือไม่ ผบช.น. ตอบว่า ขอให้มองในภาพรวมทั้งหมด บางทีเราเห็นเหตุการณ์แค่ช่วงๆ เจตนาคงจะพยายามระงับเหตุให้เร็วที่สุดและนำตัวผู้กระทำผิดแยกออกจากกลุ่มผู้ชุมนุม และไม่ให้สถานการณ์รุนแรง จริงๆ ความรุนแรงไม่รุนแรงขึ้นอยู่กับผู้ชุมนุม ถ้าผู้ชุมนุมชุมนุมโดยสงบ ตำรวจไม่เคยใช้กำลัง อย่างกรณีที่ผู้ชุมนุมปัสสาวะอยู่บนตู้คอนเทนเนอร์ แสดงให้เห็นว่า ถ้าตำรวจไม่อดทนอดกลั้น ก็ต้องลากตัวลงมาแล้ว ก่อนที่ตำรวจจะเริ่มปฏิบัติตามยุทธวิธี หรือตามขั้นตอน เรามีการประกาศแจ้งเตือนและลูกน้องเราก็ถูกกระทำ จนกระทั่งเกรงว่าสถานการณ์จะลุกลามจนควบคุมไม่ได้ อยากจะขอเราเป็นคนไทยด้วยกัน การเห็นต่างมีการแสดงออกได้หลายทางก็ทำในช่องทางที่ถูกต้อง

ขณะที่ พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้กระทำความผิดในที่เกิดเหตุปะทะกันได้จำนวน 22 คน นำส่งพนักงานสอบสวน การจับกุมก็เป็นไปตามขั้นตอนและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เบื้องต้นแจ้งข้อหาในความผิดร่วมกันชุมนุมหรือจัดกิจกรรมในพื้นที่ในสถานการณ์ที่กำหนดเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด ความผิดพ.ร.บ.ควบคุมโรค พ.ร.ก.ฉุกเฉิน บางส่วนมีความผิดพ.ร.บ.ควบคุมการโฆษณาหรือใช้เครื่องขยายเสียง ในข้อหาร่วมกันใช้เครื่องขยายเสียงด้วยกำลังไฟฟ้าโดยไม่รับอนุญาต และข้อหาต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติงานตามหน้าที่ และใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน และมีผู้ร่วมกระทำผิดบางส่วนทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานเหตุเกิดที่กรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ ส่วนที่สน.ดินแดง และสน.สุทธิสาร มีความผิดเกี่ยวกับวางเพลิงเผาทรัพย์ ทุบทำลายทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมีตำรวจได้รับบาดเจ็บ 90 นาย รักษาตัวที่รพ.ตำรวจ จำนวน 27 ราย และเสียชีวิต 1 นาย

วันเดียวกัน ที่ห้องประชุม เรือนจำกลางคลองเปรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เดินทางไปประชุม ร่วมกับ ว่าที่ ร.ต.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรมว.ยุติธรรม, นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์, นายวีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์, พ.ต.อ.ภานุเดช สุขวงศ์ รอง.ผบก.น.2 โดยในที่ประชุมมีการหารือ กรณีการวางเพลิงป้ายและทำลายทรัพย์สิน บริเวณหน้าเรือนจำคลองกลางเปรม ทั้งนี้นายอายุตม์ รายงานว่า ทางกรมราชทัณฑ์ไปแจ้งความเอาผิดกับผู้กระทำผิดแล้ว ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง โดยให้ผู้ตรวจกรมราชทัณฑ์เป็นประธาน และเพิ่มกำลังจากหน่วยงานพิเศษร่วมปฏิบัติหน้าที่รักษาการณ์บริเวณภายนอกเรือนจำ

ขณะที่การติดตามคนร้ายนั้น นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากพ.ต.อ.ภานุเดช สุขวงศ์ ถือว่ามีความคืบหน้าไปมาก โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 28 ก.พ. 2564 เวลา 03.10 น. กล้องวงจรปิดของเรือนจำกลางคลองเปรม สามารถจับภาพคนร้ายได้ ตรวจพบอุปกรณ์ในการเตรียมเพื่อตั้งใจมาเผา พบถังน้ำมันและไฟแช็คทิ้งเอาไว้ จากนั้นกรมราชทัณฑ์จึงได้ประสานไปยังสน.ประชาชื่น ได้ติดตามจากกล้องวงจรปิด พบรถ MPV สีขาว เป็นรถเพียงคันเดียวในเวลาดังกล่าว พบผู้ต้องสงสัย 3 คนเป็น ชาย 2 หญิง 1 โดยการตามจากกล้องวงจรปิดไปจนถึงที่พักและพบว่ามีความเชื่อมโยงทางการเมือง เวลานี้อยู่ระหว่างพิสูจน์หลักฐานให้ชัดเจนรวมถึงเช็กดาต้าเบสท์มือถือ เพื่อค้นเบอร์โทรว่าผู้ลงมือนั้นติดต่อกับใครได้บ้าง โดยในกรณีนี้ทางตำรวจได้ยืนยันจะทำคดีให้จบโดยเร็วที่สุดและคาดว่าจะไม่เกิน 7 วัน

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img