“พท.”ดึงพรรคไหนร่วมต้องบอกให้ชัดๆ “อนุทิน”บอก“อย่าตีกินปล่อยโหวตก่อน”

“อนุทิน” สะกิด “เพื่อไทย” ดึงพรรคไหน ร่วมรัฐบาลบอกให้ชัด เชื่อไม่มีลักไก่ตีกินปล่อยโหวตก่อน มั่นใจ “เศรษฐา” แจงปมม.112 ได้ ไม่ถือสา “ศิธา” หิวแสง ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนพูด

เมื่อวันที่ 2 ส.ค.66 เวลา 14.15 น.ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงทิศทางการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ว่า ต้องดูก่อนว่า การนำเสนอเป็นอย่างไร ตอนนี้ยังไม่ได้คุยกับแกนนำจัดตั้งรัฐบาลใดๆ

เมื่อถามถึงกรณีที่ขณะนี้มีชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย ที่จะถูกเสนอชื่อในการโหวตเลือกนายกฯ วันที้ 4 ส.ค.นี้ แต่ถูกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ตั้งข้อสังเกต โดยเฉพาะเรื่องมาตรา 112 พรรคภูมิใจไทยมองอย่างไรนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า จากที่ติดตามข่าว นายเศรษฐาก็พร้อมจะชี้แจงในประเด็นนี้ คนที่เป็นบุคคลสาธารณะก็ต้องพร้อมชี้แจง เชื่อว่าจะทำความเข้าใจกับประชาชนได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้พรรคภูมิใจไทยก็ยังเป็นพรรคอันดับ 3 เหมือนเดิม ก็ปล่อยให้เป็นมารยาททางการเมือง ซึ่งขณะนี้พรรคที่ 2 กำลังจัดตั้งรัฐบาลอยู่

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวจะปล่อยให้การจัดตั้งรัฐบาลมาถึงพรรคอันดับ 3 จากนั้นจะเสนอชื่อนายเศรษฐาเป็นนายกฯ เป็นไปได้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่มีการพูดคุยอะไรเลย

เมื่อถามว่า ขณะนี้พรรคเพื่อไทยมีการส่งสัญญาณมาให้พรรคภูมิใจไทยบ้างหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ยังไม่มีส่งสัญญาณอะไรมา มีเพียงการพูดคุยกันเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เราได้แจ้งข้อจำกัด ว่าพรรคภูมิใจไทยจะไม่แตะมาตรา 112 ไม่เอารัฐบาลเสียงข้างน้อย และไม่สามารถร่วมงานกับรัฐบาลที่มีพรรคก้าวไกลได้ ซึ่งพรรคภูมิใจไทยยังอยู่ในกรอบนี้อยู่

เมื่อถามถึงกรณีที่น.ต.ศิธา ทิวารี สมาชิกพรรคไทยสร้างไทย ระบุว่า พรรคภูมิใจไทยโทรสายตรงไปถึงพรรคก้าวไกลเพื่อขอร่วมรัฐบาล นายอนุทิน กล่าวว่า เขารู้ได้อย่างไร ตนขอไปหาก่อนว่า ใครโทร แต่ที่แน่ๆ ไม่ใช่ตน และเลขาฯพรรค ซึ่งถ้าไม่ใช่ตน ถ้าไม่ใช่เลขาฯพรรค และไม่ใช่กรรมการบริหารพรรค ก็แสดงว่าไม่ได้มีการโทร

“การให้ข่าวแบบนี้ ต้องระมัดระวังนิดนึง เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายกับพรรคภูมิใจไทย ผมเข้าใจดีว่า อยากเป็นข่าว แต่ก็ควรให้ข่าวไม่ให้พาดพิงคนอื่นๆ โดยที่ไม่ได้มีการตรวจเช็คข้อมูลก่อน แต่อย่างว่าผมกับน.ต.ศิธา ก็พี่น้องกัน เจอกันตีข้อศอกกันก็หายแล้ว วันนี้หากหนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กัน” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามว่า พรรคภูมิใจไทยเชื่อสูตรที่พรรคก้าวไกล จะโหวตให้พรรคเพื่อไทยแล้วจะยอมไปเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เห็นสมาชิกพรรคก้าวไกลบอกว่าไม่มีสูตรนี้ จริงๆถ้าเป็นฝ่ายค้านก็ต้องเป็นฝ่ายค้านตลอด ทำหน้าที่ตรวจสอบ ยกเว้นถ้าทำแล้วประชาชน และประเทศชาติได้ประโยชน์ มาสนับสนุนรัฐบาลก็เป็นเรื่องที่น่าชมเชย

เมื่อถามว่า ทางสว.มีความเป็นห่วงว่า แม้พรรคก้าวไกลจะยอมเป็นฝ่ายค้านในตอนโหวตนายกฯ แต่เวลาจัดตั้งรัฐบาลกังวลว่าพรรคเพื่อไทยจะนำพรรคก้าวไกลมาร่วมรัฐบาลด้วยนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ตนคิดว่าคนที่จะไปร่วมรัฐบาลต้องแถลงให้ชัดเจน อันนี้สำคัญมาก ไม่ใช่ปล่อยให้โหวตกันไปก่อน ซึ่งทำแบบนั้นไม่ได้ ควรต้องทำให้ชัดเจนประชาชนต้องมีส่วนรับรู้รับทราบ

“ลักไก่ตีกินไม่สามารถทำได้ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน ทุกอย่างจะต้องมีความชัดเจน ผมถึงบอกว่าต้องไม่ใช้คำว่าดีลลับ ซึ่งมีไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องที่ประชาชนมีส่วนเกี่ยวข้อง” นายอนุทิน กล่าว

เมื่อถามย้ำว่า พรรคเพื่อไทยควรจะประกาศให้ชัดเจนว่าพรรคใดร่วมรัฐบาลบ้างใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ต้องพูดให้ชัดเจน ตรงนี้เป็นสิ่งจำเป็นว่าใครร่วมรัฐบาล ใครเป็นฝ่ายค้าน เมื่อร่วมแล้วจะต้องไม่มีนโยบายอะไรบ้าง เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเข้าใจกัน ตนคุยกับหัวหน้าพรรคหลายๆพรรค หลายๆท่านก็ยืนยันในหลักการนี้

เมื่อถามว่า ถ้ายังไม่มีความชัดเจนในวันที่ 4 ส.ค.นี้ พรรคภูมิใจไทยก็โหวตลำบากใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ทุกอย่างต้องชัดเจนก่อนจะอึมครึมไปอย่างนี้ไม่ได้ ซึ่งประชาชนไม่ต้องกังวล ตนคิดว่าจะมีการแถลงความชัดเจน เพราะหากไม่แถลงจะโหวตนายกฯอย่างไร เราก็ไม่รู้จะอยู่ตรงนี้