วันพุธ, พฤษภาคม 29, 2024
หน้าแรกHighlight“โรม”กังขา“ทักษิณ”ดอดเจรจากลุ่มชาติพันธุ์เมียน หวั่นมีผลผูกมัดรัฐบาล
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“โรม”กังขา“ทักษิณ”ดอดเจรจากลุ่มชาติพันธุ์เมียน หวั่นมีผลผูกมัดรัฐบาล

“โรม” กังขา “ทักษิณ” ดอดเจรจากลุ่มชาติพันธุ์เมียนมาฐานะอะไร ไร้ตำแหน่ง หวั่นมีผลผูกมัดรบ. ติดใจ “นายกฯ-รมว.ต่างประเทศ” ปัดความรับผิดชอบ จ่อเรียกหน่วยงานแจงกมธ.มั่นคงฯ

วันที่ 8 พ.ค.67 ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาฯ ให้สัมภาษณ์ถึงความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ไปพบปะกลุ่มชาติพันธุ์เมียนมา เพื่อขอเป็นตัวกลางเจรจาสันติภาพในเมียนมา ว่า ตนกังวลว่าสิ่งที่นายทักษิณดำเนินการนั้นจะสร้างความสับสน ต่อบทบาทประเทศไทยในการสร้างสันติภาพในเมียนมา เพราะนายทักษิณไม่มีตำแหน่งใดในรัฐบาล และรัฐบาลไม่ได้มอบหมายให้ไปในฐานะตัวแทนรัฐไทยไปดำเนินการ

“ผมสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นคนกลางเพื่อสร้างสันติภาพในเมียนมา แต่ควรเป็นไปในกลไกที่ถูกต้อง และมีความชอบธรรม แต่กรณีของนายทักษิณนั้นไม่รู้เป็นมาอย่างไร ไปเจรจาต่างๆ ได้อย่างไร”นายรังสิมันต์ กล่าว

เมื่อถามว่ากังวลว่าการเจรจาของนายทักษิณจะมีผลผูกพันกับรัฐบาลในการดำเนินการเกี่ยวกับสันติภาพเมียนมาหรือไม่ นายรังสิมันต์ กล่าวว่า เป็นประเด็นที่กังวล เพราะหน้าที่พัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นตัวแทนประเทศไทย คือ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ซึ่งกรณีดังกล่าวมีรัฐสภากำกับ แต่นายทักษิณไม่มีตำแหน่งใดในรัฐบาล ดังนั้นจึงไม่มีกลไกกำกับความสัมพันธ์ หากนายทักษิณเจรจารับคำ เหมือนกับผูกพันรัฐบาลด้วย จะทำให้เป็นปัญหาในเชิงการทำงานและการตรวจสอบ

“เรื่องนี้กมธ.ต้องตรวจสอบอย่างแน่นอน เบื้องต้นในวันที่กมธ.ลงพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก ในวันที่ 12 พ.ค. จะมีการพูดคุยกรณีของนายทักษิณแทรกมา จากเดิมที่จะไปดูเรื่องการสนับสนุนด้านมนุษยธรรม และเก็บข้อมูลเรื่องนโยบายความมั่นคง นอกจากนี้ก็จะเรียกหน่วยงานอื่นๆ คุยเพราะมีนัยะสำคัญกับประเทศ” นายรังสิมันต์ กล่าว

ประธานกมธ.มั่นคง กล่าวด้วยว่า บทบาทการเจรจาเพื่อสร้างสันติภาพเมียนมา ควรเป็นบทบาทและใช้กลไกของหน่วยงานรัฐบาล ทั้งฝ่ายความมั่นคง กระทรวงการต่างประเทศ ไม่ใช่ในฐานะบุคคล ขณะเดียวกันท่าทีของรัฐบาลต่อกรณีของนายกทักษิณ ไม่ว่าจะเป็นนายเศรษฐา และ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ แสดงว่าในลักษณะปัดความรับผิดชอบ ไม่รับรู้ จะเป็นปัญหาได้ทั้งในภาวะผู้นำตัวจริงของรัฐบาล เมื่อรัฐบาลไม่ปฏิเสธสิ่งที่นายทักษิณทำ เท่ากับเพิ่มพลังของนายทักษิณทำให้การเจรจาที่ทำนั้น ไม่แตกต่างอะไรจากการเจรจาของรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลลดภาวะผู้นำของนายกฯ ลงไป เมื่อไม่ปฏิเสธชัดเจนถือเป็นปัญหาที่น่าปวดหัว ว่าใครคือ นายกฯตัวจริง ใครคือผู้มีอำนาจตัดสินใจ

”นายทักษิณคุยกับกลุ่มชาติพันธุ์แม้จะเป็นฝ่ายที่เรียกร้องประชาธิปไตยในเมียนมา แต่ภาพของนายทักษิณต่อสันติภาพเมียนมาไม่ชัดเจนว่าต้องการประชาธิปไตยแบบไหน และที่ผ่านมาในการตรวจสอบกมธ.มั่นคง ไม่เคยได้รับรายงานว่ากระทรวงต่างประเทศว่ามองภาพสันติภาพเมียนมาาแบบไหน ดังนั้นหากเจรจาเพื่อสภาบริหารแห่งรัฐเมียนมาหรือ เอสเอซี อย่างเดียว จะทำให้สันติภาพไม่ยั่งยืน”นายรังสิมันต์ กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img