“เรืองไกร-โจ้” ซัดกันนัว! กลางเวทีถกงบฯ 65 แอบกินข้าวหลวงในสภา เจอเบรคอย่าเอาปมแค้นส่วนตัวมาพาดพิงกัน
เมื่อวันที่ 20 ส.ค. 64 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ปี 65 วาระที่ 2-3 เป็นวันที่ 3 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ.งบฯ กล่าวระหว่างการพิจารณางบประมาณ กระทรวงมหาดไทย ในการจัดอบรมสัมมนาว่า ประเด็นหนึ่งที่ตนขอสงวนความเห็นคือเรื่องเกี่ยวกับการอบรมสัมมนาควรมีเรื่องตรวจสอบเพิ่มเติมอย่างไรบ้าง ที่ห่วงคือการรั่วไหล โดยในการประชุมกมธ.งบฯ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา มี กมธ.คนหนึ่ง พูดเรื่องค่าอาหาร เครื่องดื่ม และเวลาจัดอบรมสัมมนา มีการรั่วไหลมาก เพราะมีบุคคลภายนอกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานสัมมนา ไปขโมยอาหาร เครื่องดื่มกิน ไม่ใช่ระดับจังหวัด แม้แต่ในสภาฯก็ยังมี บริเวณชั้น 2 เซฟโซนที่สงวนให้ส.ส.ปัจจุบัน แต่ก็ยังมีคนหน้าคุ้นๆ ที่เป็นอดีตมานั่งกิน เป็นนักตรวจสอบที่ชอบตรวจสอบคนนั้นคนนี้ ไปแอบกินข้าวหลวงในสภาฯ ไม่ใช่บัตรสีเหลืองเหมือนส.ส.
“ผมก็อยากจะบอกเช่นกันว่า คนเราเวลาจะไปพูดถึงคนอื่นต้องรู้จักตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองก่อน วันนี้เราพิจารณาตรวจสอบงบประมาณแผ่นดิน 3.1 ล้านล้านบาท ต้องมีความสง่างาม โปร่งใส ผมมาย้ำเตือนว่า กระทรวงมหาดไทยต้องการตรวจสอบงบประมาณแผ่นดิน มีรายการปรับลดเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องซึ่งคือค่าสัมมนา” นายเรืองไกร กล่าว
ขณะที่นายยุทธพงศ์ จรัสเถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า งบประมาณของกระทรวงมหาดไทยจำนวน 259,593,878,500 บาท ตนขอปรับลดลง 10% เพราะกระทรวงมหาดไทยดูแลผู้ว่าฯทั่วประเทศ โดยผู้ว่าฯแบ่งเป็นการดูแลงบจังหวัดและกลุ่มจังหวัดตามมาตรา 28 แต่ผู้ว่าฯกินเงินเดือนของสำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย จากที่มี กมธ.งบประมาณฯคนหนึ่งได้อภิปรายไปนั้น ตนไม่ได้อภิปรายเรื่องใครมาขโมยข้าวหลวงกินในมาตรานี้ เพราะเวลาจังหวัด กลุ่มจังหวัดนำงบประมาณไปทำแผนกลุ่มจังหวัด และแผนจังหวัดและแผนอำเภอ มีงบฝึกอบรมสัมมนาที่มีค่าอาหาร และเครื่องดื่ม ตนได้ขอให้ผู้ว่าฯตอบว่ามีการรั่วไหลของงบฯหรือไม่ มีบุคคลไม่เกี่ยวข้องกับการสัมมนามาขโมยอาหารหลวงกินหรือไม่ และได้ยกตัวอย่างว่าในสภาฯที่มีห้องอาหารของสมาชิกรัฐสภา แต่มีบุคคลภายนอกแอบเข้ามากิน และคนนั้นก็เป็น กมธ.ด้วย
“ผมจึงฝากให้ทุกคนติดตามมาตรา 30 งบประมาณของหน่วยงานของรัฐสภา เพราะได้เตรียมรายละเอียดว่า คนนั้นหน้าตาเป็นอย่างไรที่มาขโมยอาหารหลวงกินในสภา เพื่อให้เจ้าหน้าที่สภาฯระมัดระวังไว้ และประธานต้องบอกรปภ.ว่า กมธ.ที่ไม่ได้เป็นส.ส. บุคคลภายนอกอาจขโมยของหลวงกลับไปด้วย” นายยุทธพงศ์ กล่าว
จากนั้นนายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นประท้วงประธานการประชุมว่า ขอให้ควบคุมการประชุมว่าให้อยู่ในประเด็น เพราะการพิจารณาเป็นไปอย่างล่าช้า เหตุเพราะนำเรื่องแค้นส่วนตัวมาใส่ในสภาฯ ทำให้นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม ได้กล่าวเตือนนายยุทธพงศ์เป็นระยะๆว่าให้อภิปรายเรื่องที่เกี่ยวกับกระทรวงมหาดไทย และไม่ให้พาดพิงถึงใคร หรืององค์กรอื่น อย่าไปแขวะคนโน้นคนนี้ ไม่เช่นนั้นตนจะไม่อนุญาตให้อภิปรายต่อ ทำให้นายยุทธพงศ์มีท่าทีเบาลงและอภิปรายงบประมาณของกระทรวงมหาดไทยต่อ
