วันอังคาร, พฤษภาคม 28, 2024
หน้าแรกHighlight“บิ๊กป้อม”เดินหน้าอุ้ม“ธรรมนัส"ต่อ! ประกาศขู่“ไม่เลิกทะเลาะกัน..กูออก”
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“บิ๊กป้อม”เดินหน้าอุ้ม“ธรรมนัส”ต่อ! ประกาศขู่“ไม่เลิกทะเลาะกัน..กูออก”


ประวิตร” อุ้ม “ธรรมนัส”ไม่ปล่อย ขู่ “ไม่เลิกทะเลาะกูออก” เรียก ส.ส.เข้าป่าฟังปัญหาสรุปยังไว้วางใจหัวหน้า-เลขาฯคนเดิม

เมื่อวันที่ 28 ต.ค.64 รายงานข่าวจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) แจ้งถึงความเคลื่อนไหวภายในพรรค พปชร.เพื่อให้เกิดการปรับเปลี่ยนโครงสร้างคณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) และเลขาธิการพรรค โดยหลังจากช่วงบ่ายวันที่ 26 ต.ค. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ในฐานะเลขาธิการพรรค เข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ เพื่อหารือเรื่องดังกล่าว จากนั้นช่วงเย็นวันเดียวกัน พล.อ.ประวิตรได้โทรศัพท์หารือกับ กก.บห.ทุกคนเพื่อไม่ให้เซ็นใบลาออกจนกว่าจะประชุมวันที่ 28 ต.ค. ทำให้มี ส.ส.ที่เซ็นใบลาออกรอไว้แล้วแต่ยังไม่ได้ยื่น ประสานไปยัง 6 รัฐมนตรีเพื่อขอถอนใบลาออก ทำให้เหลือคนที่เซ็นใบลาออกแล้วเพียง 6 คนนั้น ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันพุธที่ 27 ต.ค. ได้มี กก.บห.บางส่วน อาทิ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี และนายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช ได้เดินทางไปยังมูลนิธิป่ารอยต่อฯ เพื่อพบและร่วมรับประทานอาหารเช้า ซึ่งเป็นเมนูข้าวต้มหมู กับ พล.อ.ประวิตร

ทั้งนี้ในช่วงหนึ่งได้สอบถามความชัดเจนถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดย 1 ในแกนนำพรรคได้พูดกับ พล.อ.ประวิตร ถึงปัญหาที่เกิดจาก ร.อ.ธรรมนัสพร้อมระบุว่า รัฐบาลและพรรค พปชร.จำเป็นต้องเป็นเนื้อเดียวกัน ถ้าเป็น ร.อ.ธรรมนัสคงทำงานกันลำบาก เพราะนายกฯ ไม่เอา ร.อ.ธรรมนัส จึงควรปรับโครงสร้างให้ทำงานได้ ทำให้ พล.อ.ประวิตรกล่าวสวนไปว่า “พวกคุณไปฟังความข้างเดียวกัน ถ้าไม่เอาธรรมนัส แล้วจะเอาใคร เขาทำงานได้ ทำงานเพื่อพรรค แล้วใครจะทำงาน คนอื่นก็เป็นคู่กรณีของเขา ถ้ายังไม่เลิกทะเลาะกัน กูลาออก ใครอยากมาเป็นก็มาเป็นเลย”

แกนนำคนเดิมจึงระบุว่า แต่ถ้ายังเป็น ร.อ.ธรรมนัส ปัญหาจะไม่จบ เพราะนายกฯอาจไปตั้งพรรคใหม่ ทำให้ พล.อ.ประวิตร ตอบอย่างมีอารมณ์ว่า “ถ้านายกฯ ตั้งพรรคใหม่ ผมก็เลิก ไม่เล่นแล้วการเมือง”

รายงานข่าวแจ้งอีกว่า ตอนหนึ่งยังมีการพูดถึงข้อสรุปในวงหารือระหว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย พล.อ.ประวิตร กับ 6 รัฐมนตรี เกี่ยวกับการปรับโครงสร้างพรรค เมื่อวันที่ 25 ต.ค.ที่ผ่านด้วย โดย พล.อ.ประวิตรระบุว่า วันดังกล่าวไม่ได้มีข้อสรุปอะไร เพียงนั่งรับฟังเฉยๆ “ก็วันนั้นพวกคุณรุมผม”

ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน บรรดาแกนนำ และ ส.ส.หลายคนได้ทยอยเข้าพบ พล.อ.ประวิตร อย่างพร้อมเพรียง อาทิ ร.อ.ธรรมนัส, นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.การคลัง และนายชัยวุฒิ โดย พล.อ.ประวิตร ได้เปิดโอกาสให้สมาชิกสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นว่า “ใครมีความในใจอะไรก็พูดออกมาเลยคุยกันตรงๆ” โดยมี ส.ส.ภาคใต้บางคน กล่าวว่า จริงๆ แล้วพวกเราไม่มีอะไร เป็นเรื่องที่ผู้ใหญ่ทะเลาะกันเอง ทำให้ พล.อ.ประวิตร ตอบกลับไปว่า “ที่เป็นปัญหาอาจมีบางคนทะเลาะ และมีเด็กไปบอกนายกฯ จึงทำให้เป็นปัญหา เอาเป็นว่าต่อไปนี้ ขอให้รักกัน พูดคุยกัน และให้จบตรงนี้ ไม่เป็นไร ถ้าที่ผ่านมีอะไรที่ผิดพลาด หรือ ผมอาจจะดูแลทุกคนไม่ดีพอก็ขอโทษ แต่ยืนยันว่าผมรักสมาชิกทุกคน”

จากนั้น ร.อ.ธรรมนัส ได้ถือโอกาสอธิบายว่า “ผมไม่มีอะไร ที่ผ่านมาทำงาน ใจถึงพึ่งได้ พร้อมช่วยทุกคน แต่เรื่องที่เกิดขึ้น มีบางคนที่ไม่ชอบผมเอาไปพูดนอกพรรค ทำให้สับสน ขอให้มาพูดกัน” พร้อมกันนี้ ร.อ.ธรรมนัสยังเสนอให้ ส.ส.กลุ่มต่างๆ มาที่นั่งฟังจะได้รับทราบไปพร้อมกัน จะได้ไม่ต้องไปประชุม กก.บห.วันที่ 28 ต.ค.อีก ให้มันจบกันวันนี้ ทั้งนี้ เมื่อ ร.อ.ธรรมนัสพูดเสร็จบรรยากาศได้ตรึงเครียดขึ้น เมื่อนายชัยวุฒิ ได้พูดสวนไปว่า “ให้เอาความจริงมาพูดกัน เมื่อครั้งที่จะโหวตสวนผมและนายกฯ คืออะไร” ร.อ.ธรรมนัส จึงตอบว่า “ที่ผ่านมาก็ขอโทษ ส่งข้อความและชี้แจงไปหมดแล้ว” ทำให้นายชัยวุฒิย้ำอีกครั้งว่า “ให้เอาความจริงมาพูดกันจะดีกว่า”

นอกจากนี้ ในการหารือครั้งนี้ ได้มีการแจกกระดาษที่เป็นลักษณะแบบสอบถามประมาณ 7-8 ข้อ เป็นใบละ 1 คำถามให้กับสมาชิกไปเขียนด้วยลายมือ ไม่ต้องระบุชื่อ เช่น สอบถามว่าต้องการให้ใครเป็นหัวหน้าพรรค ต้องการให้ใครเป็นเลขาธิการพรรค และอนาคตอยากให้พรรคเป็นอย่างไร รวมถึงให้แสดงความรู้สึกที่มีต่อรัฐมนตรีในสังกัดพรรค

จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้อ่านผลการกรอกแบบสอบถามด้วยตัวเอง โดยมีสีหน้ายิ้มแย้มตลอดเวลาว่า ทั้งหมดพร้อมใจกันยืนยันให้ พล.อ.ประวิตรเป็นหัวหน้าพรรคต่อไป ส่วนเลขาธิการพรรคประมาณ 80% ยังไว้ววางใจ ร.อ.ธรรมนัส รองลงมาคือ นายอนุชา น้อยที่สุดคือชื่อของนายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ขณะที่การแสดงความเห็นต่อรัฐมนตรีของพรรค ส่วนใหญ่แสดงความเห็นไปในทิศทางเดียวคือ ไม่พอใจต่อการปฏิบัติตัวของรัฐมนตรี 2 กระทรวงคือ กระทรวงแรงงาน และกระทรวงดีอีเอส ทั้งนี้ ผลการตอบแบบสอบถามดังกล่าว จะมีการนำไปรายงานให้ที่ประชุม กก.บห.ในวันที่ 28 ต.ค.ทราบ

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img