“อมรัตน์” จี้รัฐหยุดพฤติกรรมคุกคามปชช. หลังตร.บุกถึงบ้าน “ศิโรตม์” อัดเป็นวิถีโจร แนะ “บิ๊กตู่” รีบยุบสภา-ลาออก อย่าอยู่บนเสียงสาบแช่งของปชช.อีก
วันที่ 2 ก.พ.65 ที่รัฐสภา ในการประชมสภาผู้แทนราษฎร มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม ทั้งนี้ ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม ได้เปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อน โดยนางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุลส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล หารือไปยังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณีที่คุกคามประชาชนรวมถึงสื่อมวลชน ทั้งที่เมื่อกลางปี 2564 ทาง 6 องค์กรวิชาชีพสื่อมวลชน ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมการคุกคามสื่อมวลชนของรัฐบาลที่พยายามปิดกั้นการนำเสนอข่าว เพราะการคุกคามสื่อคือการคุกคามเสรีภาพของประชาชน เข้าข่ายผิดรัฐธรรมนูญและละเมิดปฎิญญาสากลว่าด้วยหลักสิทธิมนุษยชนที่ไทยได้ลงนามไว้
นางอมรัตน์ กล่าวต่อว่า จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีการเลิกพฤติกรรมเช่นนี้ เห็นได้จากเมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกบ้านนายศิโรตม์ คล้ามไพบูลย์ นักวิชาการ และพิธีกรทีวีช่องหนึ่ง หลังจากเมื่อช่วงปี 2564 ได้ไปทำข่าวในพื้นที่การชุมนุมและถูกคดีฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินร้ายแรง ครั้งนี้มาบุกบ้านซึ่งมีมารดา อายุ 90 ปี มีการข่มขู่คนในบ้านว่านายศิโรตม์ เป็นบุคคลเฝ้าระวัง มาขอถ่ายรูปคนในบ้านด้วยแต่คนในบ้านปฏิเสธ และยังขู่อีกว่าจะมาทุกเดือน
“รู้สึกเห็นใจตำรวจชั้นผู้น้อยที่ต้องทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา การกระทำแบบนี้มันคือวิถีโจร ไม่ใช่วิถีของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ ที่บำบัดทุกข์ บำรุงสุขประชาชน ทุกวันนี้ประชาชนเห็นตำรวจมายืนหน้าบ้านตกใจกลัว พ.ร.ก.ฉุกเฉินมีไว้เพียงเป็นข้ออ้าง เพราะศาลตัดสินมาหลายคดี อาทิ น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์
รวมทั้งล่าสุดศาลแพ่งธนบุรีได้ยกฟ้องคดีฝ่าฝืนพ.ร.ก.เช่นกัน เมื่อศาลมีคำวินิจฉัยที่สร้างบรรทัดฐานให้กับคดีเหล่านี้ จึงเป็นการยัดเยียดคดีเพื่อปิดปาก” นางอมรัตน์ กล่าว และว่า ขอให้พล.อ.ประยุทธ์ หยุดก่อกรรมทำเข็ญกับประชาชน มันนานเกินพอแล้ว อยากให้ยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน หรือไม่ก็ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี อย่าอยู่บนเสียงสาบแช่งของประชาชนอีกเลย
