วันอังคาร, พฤษภาคม 14, 2024
หน้าแรกNEWS‘สมคิด’ ฝาก “บิ๊กตู่”หยุดคิดเรื่องไปก่อน ควรใช้เวลาที่เหลือทำเพื่อประเทศ-ปชช.
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

‘สมคิด’ ฝาก “บิ๊กตู่”หยุดคิดเรื่องไปก่อน ควรใช้เวลาที่เหลือทำเพื่อประเทศ-ปชช.

“สมคิด” ฝาก “ประยุทธ์”หยุดคิดเรื่องเลือกตั้งไปก่อน เพราะเลือกตั้งไม่ใช่ประชาธิปไตยเลือกมาก็เหมือนเดิม แนะใช้เวลาที่เหลือทำเพื่อประเทศ-ประชาชนให้ดีที่สุด

เมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่สมาคมธรรมศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย ในฐานะศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปาฐกถาเรื่อง “โลกเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน ประเทศไทยจะเปลี่ยนไหม” ในงาน “วันธรรมศาสตร์ 10 ธันวาคม 2565 งานคืนสู่เหย้า” เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยนายสมคิดกล่าวตอนหนึ่งว่า เศรษฐกิจปีหน้ามีสัญญาณแนวโน้มการเติบโต แต่ไม่ใช่แบบก้าวกระโดด เป็นการเติบโตอย่างช้าๆ เนื่องจากปัจจัยภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก จากปัญหาสถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครน วิกฤติราคาพลังงานแพง สินค้าแพง

ท่ามกลางสถานการณ์ดังกล่าวกลับมีบางประเทศที่ระบบเศรษฐกิจจะสวนทาง คือ ประเทศอินโดนีเซีย และเวียดนาม เนื่องจากทั้ง 2 ประเทศ มีการเตรียมตัวที่ดี เช่น อินโดนีเซีย ที่ประสบความสำเร็จจากการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่น โดยออกกฎหมายแยกความรับผิดชอบ และอำนาจของส่วนกลางกับท้องถิ่นออกจากกัน เกิดการแข่งขันการสร้างจีดีพีระหว่างท้องถิ่น ทำให้จีดีพีอินโดนีเซียโตอย่างมีเสถียรภาพเฉลี่ย 7% มาหลายปี ส่งผลให้อินโดนีเซียกลายเป็นดาวจรัสแสงในขณะนี้ ซึ่งเกิดจากวิสัยทัศน์ และการเอาจริงเอาจังของผู้นำประเทศ ขณะที่ประเทศไทยก็เริ่มทำพร้อม ๆ กับอินโดนีเซีย แต่หยุดอยู่แค่ในรัฐธรรมนูญไม่ใช่การปฏิบัติ

นายสมคิด กล่าวอีกว่า ขณะที่เวียดนามเป็นประเทศที่น่าจับตา ก่อนหน้านี้ 3 ปี ตนเคยบอกว่าเวียดนามกำลังหายใจรดต้นคอประเทศไทย แต่มาวันนี้เวียดนามแซงหน้าไปแล้ว มีการเตรียมพร้อมเรื่องเศรษฐกิจดิจิทัล มีการปฏิรูปการศึกษา โดยมีการเปลี่ยนแปลงเนื้อหาการศึกษาให้สอดรับกับความเปลี่ยนแปลงของโลกอนาคต ซึ่งการเตรียมพร้อมของเวียดนามก็ทันในช่วงยุคเศรษฐกิจดิจิทัล และได้อานิสงค์จากธุรกิจด้านไอทีที่ย้ายฐานการผลิตจากจีนเข้าสู่เวียดนาม นอกเหนือจากนี้สิ่งที่ทำให้ทั้ง 2 ประเทศ เป็นดาวจรัสแสงของอาเซียนก็คือการเปลี่ยนแปลงด้านกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการเติบโตของระบบเศรษฐกิจนับร้อยฉบับ และการออกใบอนุญาตให้ง่ายต่อการลงทุนทำธุรกิจและเอื้อต่อการเจริญเติบโตของประเทศอีกด้วย

อาเซียนยังเป็นภูมิภาคที่สำคัญ ท่ามกลางการแข่งขันระหว่างจีนกับอเมริกา โดยจะกลายเป็นโอกาสสูงสุดของอาเซียนในการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้ โอกาสสำคัญอยู่ที่ 2 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย และเวียดนาม ขณะเดียวกัน ประเทศกัมพูชาก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่น่าจับตากับโอกาสตรงนี้ วันนี้หากประเทศไทยยังแข่งกับเขาไม่ได้ก็จะสูญเสียความจรัสแสงในอาเซียน การลงทุนต่าง ๆ จะน้อยลง อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าประเทศไทยยังมีโอกาส ซึ่งหัวใจสำคัญที่จะทำให้ประเทศไทยมีโอกาสคือต้องกระจายอำนาจ กระจายความเจริญสู่ท้องถิ่น ไม่ใช่กระจุกตัวอยู่แค่กระทรวง และส่วนกลาง ต้องสร้างผู้นำใหม่ๆ ในท้องถิ่น หากไม่จริงจังกับการปฏิรูปนี้ก็ยากที่จะเห็นโอกาส และความเปลี่ยนแปลง

“ผมไม่อยากให้เราคิดแต่เรื่องการจะเลือกตั้ง เพราะกว่าจะเลือกตั้งประเทศไทยจะเสียโอกาส เสียเวลาจนสายเกินไป การเลือกตั้งยังไม่ใช่ประชาธิปไตย เพราะเลือกมาแล้วก็ยังเป็นเหมือนเดิม พรรคร่วมรัฐบาลเหมือนเดิมหรืออาจจะแย่กว่าเดิม รัฐมนตรีเหมือนเดิมหรืออาจจะดีกว่าเดิม ซึ่งวันนี้ผมอยากให้นายกรัฐมนตรีจริงจัง ใช้เวลาที่มีทำให้ดีที่สุด เพราะประเทศไทยเสียเวลาไปมากแล้ว ให้ลืมเรื่องเลือกตั้งไปก่อน อย่างไรก็ตาม วันนี้ผมไม่ได้มาว่าใคร ไม่มีประเด็นการเมือง ขอให้กำลังใจทุกพรรคการเมืองให้ทำประชาธิปไตยให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริง” นายสมคิด กล่าว.

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img