วันจันทร์, พฤษภาคม 13, 2024
หน้าแรกNEWSยอดขาย“บ้านเดี่ยวมือ 2”วูบ หลังลูกค้าเร่งโอนก่อนหมดแอลทีวี
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ยอดขาย“บ้านเดี่ยวมือ 2”วูบ หลังลูกค้าเร่งโอนก่อนหมดแอลทีวี

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยยอดขายบ้านมือ 2 ในไตรมาส 3/65 ลดลง ทั้งจำนวนหน่วยและมูลค่า หลังลูกค้าเร่งโอนก่อนหมดมาตรการแอลทีวี โดยบ้านเดี่ยวแชมป์ประกาศขายมากสุด รองลงมาเป็นห้องชุด-ทาวน์เฮ้าส์

ดร.วิชัย วิรัตกพันธ์ ผู้ตรวจการธนาคาร และรักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงการประกาศขายผ่านเว็บไซต์ตลาดนัดบ้านมือสอง (www.taladnudbaan.com) ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยมือสองทั่วประเทศ ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2565 ในภาพรวมด้านอุปทานพร้อมขายในตลาดลดลงจากสิ้นไตรมาส 2 (QoQ) ทั้งในด้านจำนวนหน่วยและมูลค่า โดยมีจำนวนหน่วยประกาศขาย 162,923 หน่วย ลดลง 3.3% และมีมูลค่า 962,188 ล้านบาท ปรับลดลง -3.4% หากเทียบไตรมาส 2 ปี 2565 ซึ่งมีจำนวนหน่วย 168,541 หน่วย และ มีมูลค่า 996,471 ล้านบาท

ทั้งนี้ พบว่า บ้านเดี่ยว เป็นประเภทที่มีการประกาศขายมากที่สุด รองลงมาคือห้องชุด และทาวน์เฮ้าส์ โดยระดับราคาไม่เกิน 1.00 ล้านบาท เป็นระดับราคาที่มีสัดส่วนประกาศขายมากที่สุด รองลงมาเป็นระดับราคา 3.01-5 ล้านบาท และ เป็นระดับราคา 2.01-3.00 ล้านบาทพื้นที่กรุงเทพมหานครยังเป็นจังหวัดที่มีการประกาศขายที่อยู่อาศัยมือสองมากที่สุด 36.3% ของจำนวนหน่วยประกาศขายทั้งหมด และมีมูลค่า 62.9% ของจำนวนมูลค่าทั้งหมด

นอกจากนี้หากพิจารณาจำนวนหน่วยที่อยู่อาศัยมือสองที่ประกาศขายในแต่ละประเภท พบว่า ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2565 ที่อยู่อาศัยมือสองเกือบทุกประเภทมีจำนวนหน่วยลดลงจากสิ้นไตรมาส 2 ปี 2565 (QoQ) โดย บ้านเดี่ยวประกาศขายมากที่สุดจำนวน 64,966 หน่วย ลดลง -4.0%

รองลงมาเป็นห้องชุด จำนวน 48,768 หน่วย ลดลง -3.1% ทาวน์เฮ้าส์ จำนวน 42,394 หน่วย ลดลง -3.3% ขณะที่อาคารพาณิชย์ มีจำนวน 4,428 หน่วย เพิ่มขึ้น 0.8% และบ้านแฝด จำนวน 2,367 หน่วย เพิ่มขึ้น 3.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

ในด้านมูลค่า พบว่า บ้านเดี่ยวมีมูลค่าในการประกาศขายมากที่สุด มูลค่า 468,805 ล้านบาท ลดลง -6.6% รองลงมาเป็นห้องชุด มูลค่า 352,231 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.1% ทาวน์เฮ้าส์ มูลค่า 111,718 ล้านบาท ลดลง –8.1% อาคารพาณิชย์ มูลค่า 21,440 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% และ บ้านแฝด มูลค่า 7,993 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า

สำหรับ อันดับมูลค่าของที่อยู่อาศัยมือสองที่มีการประกาศขาย ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2565 พบว่า 10 จังหวัดที่มีมูลค่าสูงสุด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี สมุทรปราการ ปทุมธานี ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต ระยอง นครราชสีมาและขอนแก่น

ทั้งนี้ กรุงเทพมหานคร มีหน่วยประกาศขาย 59,181 หน่วย คิดเป็นสัดส่วน 36.3% และมีมูลค่าสูงเป็นอันดับแรก มีมูลค่าถึง 605,587 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 62.9% เมื่อเทียบกับทั้งประเทศ ขณะที่จังหวัดอันดับที่ 2 – 10 มีสัดส่วนจำนวนหน่วยและมูลค่าของแต่ละจังหวัดไม่ถึง 10% เมื่อเทียบกับจำนวนหน่วยมูลค่าและทั่วประเทศ

แต่ 10 จังหวัดนี้มีสัดส่วนจำนวนหน่วยเป็น 70.9% และสัดส่วนของมูลค่ารวมกันมากถึง 88.2% ส่วนจังหวัดที่เหลืออีก 67 จังหวัด มีสัดส่วนจำนวนหน่วยรวมกัน 29.1% และมีสัดส่วนมูลค่ารวมกันเพียง 11.8% เท่านั้น

อย่างไรก็ตาม พบว่าใน 10 จังหวัดมีมูลค่าสูงสุด จังหวัดที่มีอัตราการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าสูงสุดเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) 3 อันดับแรก คือ ภูเก็ต ลดลง -14.1% รองลงมาคือ เชียงใหม่ ลดลง –9.7% และ ชลบุรี -7.2% โดยมีจังหวัดอื่นๆ มีอัตราการเปลี่ยนแปลง ลดลง -8.7% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าในจังหวัดรองต่าง ๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ลดลงเช่นเดียวกัน

สำหรับการที่ตลาดที่อยู่อาศัยมือสองในไตรมาส 3 ปี 2565 ประกาศขายลดลงจากไตรมาสก่อนหน้าและปีก่อน อาจเกิดจากการที่ตลาดบ้านมือสองที่ถูกดูดซับอุปทาน ซึ่งสอดคล้องกับการโอนกรรมสิทธิ์บ้านมือสองที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาส 1-2 ที่ผ่านมา และสูงกว่าช่วงเดียวกันของปี 2564 กว่า 15% ก่อนที่จะหมดมาตรการผ่อนปรน LTV และมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และการจดจำนองสำหรับที่อยู่อาศัยที่ไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยเพิ่มเติมการให้สิทธิครอบคลุมมาถึงที่อยู่อาศัยมือสองจากเดิมที่มีผลเฉพาะที่อยู่อาศัยสร้างใหม่ โดยมีระยะเวลาสิ้นสุดมาตรการดังกล่าวไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img