วันอังคาร, พฤษภาคม 14, 2024
หน้าแรกHighlight“หุ้นซึมแน่”ถ้าเลือกนายกฯไม่จบรอบแรก ตอบไม่ได้“อารมณ์ตลาดหุ้น”เป็นอย่างไร
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“หุ้นซึมแน่”ถ้าเลือกนายกฯไม่จบรอบแรก ตอบไม่ได้“อารมณ์ตลาดหุ้น”เป็นอย่างไร

“สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน” มองดัชนีตลาดหุ้นไทยยังไม่สะท้อนพื้นฐานเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ชี้เป็นการซื้อขายตามอารมณ์ รับตอบยากดัชนีไหลไปจุดไหน เชื่อการเมืองยังไม่วิกฤติ เข้าสู่รูปแบบการประท้วง ระบุหากเลือกตั้งนายกฯรอบแรกไม่จบ ห่วงทำตลาดหุ้นซึม

นายไพบูลย์ นรินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน กล่าวในหัวข้อ “แรงเสียดทางจาก “การเงินโลก” สู่ “ตลาดทุนไทย” ในงานสัมมนาแผนฝ่าวิกฤติ พิชิตสงคราม BATTLE STRATEGY ว่า ปัจจุบันดัชนีตลาดหุ้นไทยยังไม่สะท้อนพื้นฐานเศรษฐกิจ แต่เป็นการซื้อขายกันตาม “อารมณ์” เท่านั้น และยังไม่สามารถตอบได้ว่า ดัชนีหุ้นไทยจะไปอยู่ที่จุดไหน รวมทั้งมองว่า สถานการณ์การเมืองในขณะนี้ ยังไม่ได้รุนแรงถึงขั้นเป็นวิกฤติ แต่วันนี้ที่ตลาดกำลังเผชิญคือ “วิกฤติศรัทธาในตลาดหุ้น” เท่านั้น จากปัญหาการตกแต่งบัญชี ซึ่งถือเป็นจุดที่เล็กน้อยมากๆ โดยปัญหาดังกล่าวทำให้คนขาดความมั่นใจ ดังนั้นหน่วยงานที่รับผิดชอบ ควรออกมาเพื่อตอกย้ำว่า ปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นเป็นเพียงจุดเล็กๆ และมีการดำเนินการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน

นายไพบูลย์ ยังกล่าวถึงกรณีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีรอบแรก ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ว่า หากรอบแรกยังเลือกไม่ได้ ก็ไม่ว่ากัน ก็เลือกในรอบต่อๆ ไป แต่สุดท้ายแล้ว ขอเพียงอย่าให้มีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น โดยจากที่ได้มีการพูดคุยในแวดวงตลาดทุน เชื่อว่าจะไม่เกิดความวุ่นวายแน่นอน นโยบายสำคัญ ทีมเศรษฐกิจสำคัญ เชื่อว่าทุกอย่างลงตัว ก็ไปต่อได้ แต่สุดท้ายหากเกิดเหตุการณ์วุ่นวาย เกิดการไม่ยอมรับ เกิดการประท้วง เอาไม่อยู่ นั่นก็เป็นอีกประเด็นหนึ่ง แต่ถ้าสถานการณ์แบบนี้ในต่างประเทศนักลงทุนจะ wait & see

“ถ้าเกิดกรณีผิดคาดจริงๆ เกิดความวุ่นวายจริงๆ ตลาดหุ้นจะเหนื่อย เพราะตลาดหุ้นเป็นตลาดที่ซื้ออนาคต ถ้านักลงทุนมองไม่เห็นอนาคต ก็ไม่รู้จะไปยังไง และเชื่อว่าจุดนั้น คงมีนักลงทุนส่วนหนึ่งที่ไม่อยากถือหุ้นแล้ว เพราะเมื่อมองภาพไม่ออก กลยุทธ์คือต้องถอยออกมาก่อน เพราะต้องยอมรับว่า การเมืองถือเป็นภาพใหญ่ที่มีความเกี่ยวโยงกับเศรษฐกิจ ถ้าเกิดความวุ่นวาย แต่ไม่ถึงขั้นประท้วง อยู่ในจุดที่คุยกันได้ ก็อาจจะทำให้ตลาดซึมๆ บ้าง แต่ถ้าดูเหมือนไม่มีทางออก ก็คงจะมีนักลงทุนที่เลือกจะลดความเสี่ยงลงไปอีก” นายไพบูลย์ กล่าว

นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ตอนที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะหลุด 1,500 จุด ก็ไม่มีใครคาดคิด นักลงทุนต่างประเทศถ้าไม่ดูพื้นฐาน ก็จะดูแนวโน้มก่อน ดังนั้นหากมีเหตุการณ์วุ่นวายเกิดขึ้น ก็มีโอกาสที่จะเกิดการเทขาย ถ้าเป็นแบบนี้หุ้นก็ลงแน่ เมื่อหุ้นถูก ก็อาจจะมีการซื้อกลับได้ ดังนั้นยืนยันว่า ตอบไม่ได้ว่าอารมณ์ของตลาดหุ้นไทยจะเป็นอย่างไร แต่วันนี้ส่วนตัวมองว่า ดัชนีที่ระดับ 1.500 จุดนั้น ถ้าเทียบกับพื้นฐานเศรษฐกิจไทย ยังถือว่าถูกเกินไป

ด้านนางชวินดา หาญรัตนกูล นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุน กล่าวว่า มองว่าปัจจุบันยังไม่เป็นวิกฤติ และเชื่อว่าจะเป็นโอกาสในการลงทุนด้วย แต่นักลงทุนต้องพยายามที่จะเข้าในเรื่องสภาวะของตลาดหุ้น ดังนั้นอยากให้มองว่า ทุกวิกฤติมักจะมีโอกาสอยู่เสมอ เมื่อหุ้นลงไปต่ำ โอกาสรีบาวด์ก็อาจจะได้เห็น แต่โอกาสจะต้องสมดุล

“แม้ภาคการเมืองจะไม่เป็นบวกกับตลาดหุ้น แต่ด้วยการผลักดันและการขับเคลื่อนของภาคเอกชนผ่านผลตอบแทนของตลาด สะท้อนว่า ตลาดน่าจะทรงตัวอยู่ได้ในลักษณะที่ตอบโจทย์ความถูกต้อง โดยสิ่งที่ผลักดันตลาดหุ้นใหใ้ลงมาวันนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของภาษี และอีกหลายๆ เรื่องที่ทำให้ตลาดหุ้นเกิดความผันผวน ดังนั้นถ้าถามว่าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสจะไปถึง 1,300 จุดหรือไม่ จริงๆ ก็เป็นอะไรที่ไม่ได้ยากที่จะเจอ” นางชวินดา กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img