วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 16, 2024
หน้าแรกHighlight“สุพัฒนพงษ์”เชื่อปี 65 ศก.ไทยโต 4% เตรียมแผนพร้อมรับมือทุกวิกฤต
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“สุพัฒนพงษ์”เชื่อปี 65 ศก.ไทยโต 4% เตรียมแผนพร้อมรับมือทุกวิกฤต

“สุพัฒนพงษ์” มั่นใจปี 65 เศรษฐกิจไทยยังคงมีสัญญาณโตต่อเนื่อง 3-4% จากปีก่อน เตรียมแผนรับมือปัญหาเศรษฐกิจทุกระยะ เชื่อผ่านวิกฤตนี้ไปได้และกลับมาแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม

เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 65 นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พลังงาน เป็นประธานเปิดงานสัมมนา iBusiness Forum 2022 “2022 Next Economic Chapter : New Challenges and Opportunities เศรษฐกิจไทยปี 2565 ความท้าทายและโอกาสใหม่” โดยนายสุพัฒนพงษ์ ระบุว่า  ปี 2565 เศรษฐกิจไทยยังคงมีสัญญาณบวกที่ยังเติบโตต่อเนื่องโดยคาดว่าจะโตได้ในระดับประมาณ 3-4% จากปีก่อน ตามการคาดการณ์ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง แม้ว่าระยะสั้นจะมีความท้าทายจากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ แต่รัฐได้เตรียมมาตรการที่จะดูแลไว้แล้ว รวมไปถึงระยะยาวที่จะปรับโฉมอุตสาหกรรมไปสู่เป้าหมายใหม่เพื่อผ่านวิกฤตโควิด-19 และพลิกฟื้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็งยิ่งกว่าเดิม

สำหรับระยะสั้น สิ่งที่รัฐบาลเตรียมไว้คือการสำรองวัคซีนเพื่อป้องกันโควิด-19 ถึง 90 ล้านโดส รวมไปถึงมาตรการต่างๆ ที่จะเข้ามากระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น มาตรการคนละครึ่ง บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ฯลฯ มาตรการในการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบทั้งการที่ธปท.และคลังได้ร่วมกันปรับโครงสร้างหนี้ที่เริ่มคลี่คลายมากขึ้น รวมไปถึงหนี้ครัวเรือนที่ได้เร่งดำเนินการและดูแลอย่างใกล้ชิด

นายสุพัฒนพงษ์ กล่าวต่อว่า   ราคาพลังงานไทยแพงสุดในโลกยืนยันว่าไม่จริงเพราะได้มีการดูแลไม่ให้สูงเกินไปกว่าประเทศในอาเซียนด้วยกันเองที่มีสถานะการเป็นประเทศนำเข้าพลังงานเป็นหลัก เช่นเดียวกับอัตราเงินเฟ้อของไทยเมื่อเทียบกับกลุ่มอาเซียนก็ไม่ได้สูง ส่วนความท้าทายสั้นๆ จำเป็นต้องดูใกล้ชิด หวังว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่มีแทรกเข้ามารัสเซีย- ยูเครนไม่บานปลาย หากจะบานปลายรัฐบาลก็ยืนยันว่าจะมีนโยบายประคับประคองการฟื้นฟูเศรษฐกิจต่อไป ตรึงราคาพลังงานให้อยู่ในระดับรักษาความสามารถการแข่งขันของไทยให้ได้ต่อไป ถ้าไม่บานปลายเชื่อมั่นว่าไทยจะฟื้นตัวได้ตามลำดับ

สำหรับระยะยาว รัฐบาลมีความตั้งใจส่งเสริมเศรษฐกิจอุตสาหกรรมใหม่ โดยจะดึงเอกชนเข้ามาร่วมขับเคลื่อนโดยเฉพาะ 5 อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ ทั้งยานยนต์ไฟฟ้า และอยากให้เอกชนมีบทบาทมากใน 5 อุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ ทั้งยานยนต์สมัยใหม่ อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ การท่องเที่ยวกลุ่มรายได้ดี อุตสาหกรรมการแพทย์ อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพโดยเฉพาะพลังงานสะอาดที่จะตอบโจทย์ลดภาวะโลกร้อน ควบคู่ไปกับการส่งเสริม Soft Power ที่จะเป็นอุตสาหกรรมของคนรุ่นใหม่

“หลายอุตสาหกรรมเรามีฐานที่เข้มแข็งอยู่แล้ว เราจึงทำโครงการวีซ่าระยะยาว มาอยู่อาศัยเน้นคนมีฐานะรายได้พอสมควร เป็นคนเก่งมีความสามารถ ดึงดูดและจะใช้เป็นรูปธรรมเร็วๆ นี้เป้า 1 ล้านคนเพื่อสร้างรายได้ที่หายไป ทั้งหมดที่รัฐบาลวางไว้ ดังนั้นที่ผ่านมาเราได้ผ่านความยากลำบากมาด้วยความสำเร็จที่เกิดขึ้นวันนี้จะมีส่วนสำคัญที่จะทำให้เราจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้และกลับมาแข็งแรงยิ่งกว่าเดิม” นายสุพัฒนพงษ์กล่าว

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img