วันพุธ, พฤษภาคม 15, 2024
หน้าแรกHighlightไทยใช้“ฟาวิพิราเวียร์”60ล้านเม็ด/เดือน หมอเป็นห่วงดื้อยา-อาจเกิดผลข้างเคียง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

ไทยใช้“ฟาวิพิราเวียร์”60ล้านเม็ด/เดือน หมอเป็นห่วงดื้อยา-อาจเกิดผลข้างเคียง

หมอห่วงคนไทยดื้อยา หลังใช้ “ฟาวิพิราเวียร์” เดือนละ 60 ล้านเม็ด ชี้หากไม่มีอาการไม่จำเป็นต้องใช้ เพราะยาทุกตัวเกิดผลข้างเคียงได้ เผยแนวทางการรักษาใหม่คือรักษาตามอาการ

เมื่อวันที่ 1 มี.ค.65 รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ผู้ทรงคุณวุฒิกรมการแพทย์ สรุปภาพรวมผู้ติดเชื้อโควิด ระลอกโอมิครอน มีประมาณ 10% ที่ต้องเข้ารับการรักษาในรพ. ส่วนผู้ติดเชื้อ 90% ไม่มีอาการหรืออาการน้อย เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียวที่สามารถดูแลรักษาที่บ้านได้ทั้งผ่านระบบ Home Isolation : HI และดูแลแบบผู้ป่วยนอก (OPD) โดยกลุ่มที่ไม่มีอาการ จะไม่ให้ยาต้านไวรัสฟาวิพิราเวียร์ ส่วนกลุ่มอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยง ไม่มีโรคร่วม แพทย์เป็นคนพิจารณาว่าจะให้ฟาวิพิราเวียร์หรือไม่ ส่วนโอกาสที่ กลุ่มอาการสีเขียวอาการจะรุนแรงไปอยู่ระดับสีเหลืองหรือสีแดงนั้นน้อยมากๆ

ทั้งนี้หากผู้ป่วยโควิด ไม่มีอาการ ไม่จำเป็นต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์ ส่วนมากอาการจะค่อยๆหายเอง ไม่ได้แย่ลง ซึ่งยาทุกตัวสามารถเกิดผลข้างเคียงได้ เช่นยาฟาวิพิราเวียร์ อาจเกิดอาการ คลื่นไส้ อาเจียน ตาเป็นสีฟ้า และไม่แนะนำใช้ในหญิงตั้งครรภ์ โดยเฉพาะตั้งครรภ์อ่อนๆ เพราะพบว่ามีผลต่อตัวอ่อนในสัตว์ทดลอง อีกทั้ง ปัจจุบันประเทศไทยมีการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์วันละ 2 ล้านเม็ดเดือนละ 60 ล้านเม็ด นับว่าเป็นการใช้ยาต้านไวรัสในปริมาณมาก และจากการใช้ยาต้านไวรัสในปริมาณที่มากนี้ กลุ่มแพทย์ผู้เชี่ยวชาญกำลังกังวลในประเด็นเรื่องของเชื้อดื้อยา ซึ่งตามทฤษฎีย่อมเกิดขึ้นได้ ถ้าเชื้อสัมผัสกับยาบ่อยๆจะเกิดการดื้อยาและถ้ามีการดื้อยาเกิดขึ้นจริงๆ ให้กินก็เหมือนกินแป้งไม่มีประโยชน์ ดังนั้นแนวทางรักษาใหม่จึงกำหนดให้ใช้ยาตามอาการและใช้อย่างสมเหตุสมผล หากไม่มีอาการก็ไม่จำเป็นต้องได้รับยาฟาวิพิราเวียร์

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img