วันพฤหัสบดี, พฤษภาคม 16, 2024
หน้าแรกHighlightแนะทางแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว ทำให้ถูกกม.ได้ทั้งเงิน-ทั้งแรงงาน
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

แนะทางแก้ปัญหาแรงงานต่างด้าว ทำให้ถูกกม.ได้ทั้งเงิน-ทั้งแรงงาน

ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ออกโรงแนะรัฐบาล แก้ปัญหาแรงงานพม่าในไทย นำสิ่งที่ผิดกฎหมายใต้ดิน มาไว้บนดิน จัดระเบียบแรงงานต่างด้าวให้ถูกกฎหมาย อย่าผลักออกไป เพราะแรงงานหลายด้านคนไทยไม่ทำแล้ว ชี้ให้ยอมรับความจริง ถ้าทำให้ถูกต้อง จะได้ทั้งแรงงานมาทำ และได้เงินทองเข้าท้องพระคลัง อย่าปล่อยให้ขบวนการใต้ดิน กินเงินใต้โต๊ะ

เมื่อวันที่ 23 ธ.ค.63 นายอัษฎางค์ ยมนาค ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว ในหัวข้อ “ปัญหาแรงงานพม่ากับการแพร่ระบาดของโควิด” มีเนื้อหาน่าสนใจดังนี้…เมื่อวานตั้งวงนั่งคุยกันในสภากาแฟในซิดนีย์ถึงเรื่องโควิดที่ระบาดรอบใหม่ ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากกลุ่มผู้ใช้แรงงานชาวพม่า ได้สาระมาเล่าสู่กันฟัง เผื่อไปอีกแนวทางหนึ่ง ซี่งผมและเพื่อนที่อยู่ในซิดนีย์ที่เริ่มต้นอยู่ที่ซิดนีย์ในฐานะนักเรียนต่างชาติ ซึ่งกฎหมายอนุญาติให้ทำงานพาร์ทไทม์ได้ จึงมีโอกาสสัมผัสประสบการณ์กับการทำงานร่วมกับแรงงานต่างด้าว ทำให้เรามีแนวความคิดมาเสนอ ว่า…

1)จับแรงงานพม่า รวมทั้งแรงงานต่างชาติที่ผิดกฎหมายทั้งหมด มาจดทะเบียนให้ถูกต้อง ถึงแม้รัฐบาลจะออกใบอนุญาตให้แรงงานต่างชาติเข้ามาทำงานในเมืองไทยอย่างถูกกฎหมาย แต่ด้วยกฎเกณฑ์บางอย่าง ทำให้เกิดช่องว่างให้เจ้าหน้าที่หรือข้าราชการใช้เป็นช่องทางหาเงินใสกระเป๋าตัวเอง สังเกตมั้ยว่าระบบราชการของไทยเรามักเปิดช่องให้ข้าราชการกระทำการคอรัปชั่น แทนที่จะยกเรื่องที่ผิดกฎหมายที่กระทำการใต้ดิน ขึ้นมาบนดิน คือทำให้มันถูกกฎหมาย หลายเรื่องราวที่เรารู้กันอยู่เต็มอกว่า มีการทำอะไรใต้ดิน ใต้โต๊ะ แต่ระบบราชการของเรากลับทำไม่รู้ไม่ชี้ปล่อยให้เกิดขบวนใต้ดิน และขบวนการใต้ดินนั้นก็เอาผลประโยชน์ต่างๆ อันควรเป็นของรัฐ ไปเป็นของตน เช่นเรื่อง เงินๆ ทองๆ ซึ่งควรเป็นรายได้ของรัฐ กลับไปเป็นรายได้ของตน ซึ่งเมื่อมีการหาเงินผิดกฎหมาย ก็จะเกิดปัญหาใหญ่ตามมาอีกอย่างหนึ่งคือ การสร้างกลุ่มผู้มีอิทธิพลหรือมาเฟียขึ้นมาในสังคม จริงๆ เรื่องนี้แก้ไขไม่ยาก ถ้ารัฐบาลและข้าราชการรวมใจและจริงใจที่จะจัดการกับปัญหา ด้วยการจับสิ่งผิดกฎหมายใต้ดิน ให้ขึ้นมาอยู่บนดิน

2) บางคนหัวร้อน เสนอว่า ไล่พม่ากลับบ้าน ซึ่งผมไม่เห็นด้วย และเชื่อว่าคนไทยจำนวนไม่น้อย โดยเฉพาะผู้ประกอบการ หรือแม้กระทั่งประชาชนที่จ้างชาวพม่าทำงานบ้าน ก็ไม่อยากให้เป็นแบบนั้น เราต้องหัดยอมรับความจริง ความจริงที่ว่า มีงานหลายประเภทที่คนไทยไม่ยอมทำงานแล้ว เพราะฉะนั้นเราจึงต้องการแรงงานต่างชาติที่พร้อมจะทำงานเหล่านั้น เมื่อสัก 10 ปีก่อนตามร้านกาแฟคอฟฟี่ช็อปหรือภัตราคารร้านอาหารในออสเตรเลีย จะมีชาวต่างชาติทั้งที่เป็นนักเรียนต่างชาติและแรงงานที่ผิดกฎหมายทำงานในครัว โดยเจ้าของร้านชาวออสซี่จะไม่ยอมให้คนต่างชาติมาทำงานหน้าร้าน แต่ปัจจุบันงานสาย Hospitality และงานอีกหลายสาขา โดนแรงงานชาวต่างชาติยึดไปหมดแล้ว ไม่ว่าไปที่ไหนจะเห็นฝรั่งออสซี่แท้ๆ ทำงานน้อยมาก ซึ่งจากการที่มีแรงงานต่างชาติเข้ามาทำงานในออสเตรเลียจำนวนมากมายนั้น ก็มีส่ิงที่รัฐบาลออสเตรเลียได้รับกลับมาคือ

• มีแรงงานทำงานในสายงานที่คนออสซี่ไม่ยอมทำ
• รัฐบาลได้เงินจากค่าเอกสาร ค่าดำเนินการเพื่อของวีซ่าทำงาน
• รัฐบาลบังคับให้แรงงานต่างชาติทุกคนต้องซื้อประกันสุขภาพ
• รัฐบาลเก็บภาษีจากแรงงานต่างชาติ

แรงงานต่างชาติได้รับเงินเดือนเท่ากับคนในชาติ และจ่ายภาษีเต็มๆ แต่ได้รับผลประโยชน์กลับไปน้อยกว่าคนในชาติ เพราะเขาถือว่าเข้ามาหาประโยชน์ในประเทศของเขา เอาแค่เงินค่าทำวีซ่า จ่ายภาษี ก็นำกลับมาใช้เป็นงบประมาณพัฒนาประเทศได้มหาศาลแล้ว ยังไม่รวมเงินประกันสุขภาพ ก็ทำให้บริษัทเอกชนมีลูกค้าเพิ่ม และมีรายได้เพิ่มขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจไปในตัว นอกจากนี้การที่แรงงานต่างชาติเหล่านั้นมาใช้ชีวิตในประเทศ ก็หมายความว่า นอกจากเจ้าของกิจการชาวออสซี่ต้องจ่ายค่าจ้างให้แรงงานต่างชาติเหล่านั้น ในขณะเดียวกันก็เกิดผลประโยชน์หมุนเวียนกลับมานั้นคือ เกิดการใช้จ่ายของแรงงานต่างชาติ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยในกระตุ้นเศรษฐกิน ทำให้เศรษฐกิจมีการเคลื่อนไหว

ลองคำนวณกันดูเล่นๆ สมมติมีแรงงานต่างชาติ 1 ล้านคน เราเก็บค่าวีซ่าทำงานคนละ 1 พันบาท เงินพันล้านบาทก็เข้าคลัง ถ้าเก็บ 1 หมื่นบาท เงินหมื่นล้านบาทก็เข้ามาสู่งบประมาณแผ่นดิน แล้วแรงงานต่างชาติต้องซื้อประกันจากบริษัทเอกชน สมมติว่า 1 พันบาท บริษัทเอกชนก็มีเงินพันล้านบาทเข้ามาหมุนเวียน ถ้าเก็บ 1 หมื่นบาท เงินหมื่นล้านบาทก็เข้ามาสู่ระบบเศรษฐกิจของชาติ แต่เงินมากมายมหาศาลนั้นเข้าสู่ระบบครึ่งหนึ่ง อีกครึ่งก็ตกลงไปอยู่ใต้โต๊ะ เข้ากระเป๋าผู้มีอิทธิพล

3)เรื่องสำคัญที่สุดอีกอย่างคือ นอกจากเรามีแรงงานต่างชาติขึ้นทะเบียนถูกกฎหมาย เก็บเงินค่าดำเนินการต่างๆ เข้ารัฐได้แล้ว เรายังสามารถติดตามความเคลื่อนไหวของแรงงานต่างชาติเหล่านั้น ว่าอยู่จำนวนเท่าใด อยู่ตรงไหนของประเทศ อยู่ในพื่นที่แพร่ระบาดของโรคหรือไม่ จะต้องกักกันหรือไม่อย่างไร หากพบผู้เจ็บป่วย ติดเชื้อโควิด ก็เข้ารับการรักษาจากเงินที่เขาซื้อประกันเอาไว้เอง และที่สำคัญคือ แรงงานต่างด้าวคนใดทำผิดกฎหมาย เราก็จับส่งกลับไป

การที่ทำอะไรให้ถูกกฎหมาย มีแต่ผลดี ที่เราจะได้ทั้งขึ้นทั้งร่อง คือ ได้ทั้งแรงงานมาทำงานให้ และได้ทั้งเงินทองเข้าท้องพระคลัง ไม่ใช่ออกกฎหมายเพื่อให้ข้าราชการที่ทำงานกินภาษีราษฎร แปลงกายเป็นมาเฟียใต้ดินที่คอยซูบเงินอันควรจะเป็นของรัฐ ซึ่งแปลว่าเป็นของประชาชนทั้งประเทศ ไปเข้ากระเป๋าตนเองและพวกพวกพ้อง แรงงานพม่าน่าเห็นใจมากกว่าน่ารังเกียจ ลองคิดดูกันดีๆ ว่าเขาต้องมาขายแรงงานเพราะบ้านเมืองของเขาอัตคัดขัดสน ในอดีตคนไทยก็เคยต้องออกไปขายแรงงานในต่างประเทศเหมือนกัน นอกจากต้องมาอยู่ต่างบ้านต่างเมืองแล้ว ต้องมาทำงานขายแรงงาน ยังต้องเสียเงินค่าธรรมเนียมมากมายเพื่อให้ได้วีซ่าทำงาน รายได้ส่วนหนึ่งเอาไว้ใช้จ่าย อีกส่วนต้องงส่งกลับมาบ้าน และอีกส่วนคือค่าขอวีซ่าทำงาน ลองคิดๆ กันดู ว่ามันมีแต่การทำงานหนักกับรายจ่าย เราคนไทยควรมีเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ที่ตกยาก

เด็กม็อบสมัยนี้ไม่เคยรู้หรอกว่าประเทศของเราก็เคยอยู่ในภาวะลำบากยากจนเช่นนี้มาก่อน เหมือนกัน แต่เพราะในหลวงและคนรุ่นพ่อรุ่นแม่นี่แหละที่ช่วยกันทำงานพัฒนาประเทศจนเราผ่านจุดความยากจนนั้นมานานแล้ว และเรากลายเป็นที่พักพิงของประเทศเพื่อนบ้านได้แล้ว ให้ความเมตตาต่อเพื่อนมนุษย์ ด้วยการทำอะไรให้ถูกกฎหมาย ซึ่งมันส่งผลให้ได้ประโยชน์ด้วยกันทั้ง 2 ฝ่าย อย่าปล่อยให้ขบวนการใต้ดิน กินเงินใต้โต๊ะ เป็นฝ่ายเก็บผลประโยชน์เหล่านั้น ที่ควรเป็นของรัฐเป็นของเรา ใส่กระเป๋าตนเอง แล้วพอเกิดปัญหาผู้ที่ต้องรับผิดชอบก็คือรัฐบาลกับคนไทยทั้งประเทศ ส่วนมาเฟียที่รับเงินใต้โต๊ะลอยนอลไปพร้อมกับเงินจำนวนมหาศาล หยุดคอรัปชั่นเพื่อเราและเขา และทุกคน
………………………………………………………………….

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img