“เรืองไกร” ไปตามนัดที่พรรคเพื่อไทย แต่ “โจ้-ยุทธพงศ์” คนนัด “ไม่สมราคาคุย” บ่ายเบี่ยงเลยอดเจอกัน นักร้องฯงัดคู่มือการยื่นบัญชี พร้อม 2 ตัวอย่างให้ดูต่างหน้า
เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 64 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตสมาชิกพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ตามที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ท้าท้ายตนผ่านสื่อ ให้ไปที่พรรคเพื่อไทยกรณี “นาฬิกาหรู” นั้น เมื่อตนไปตามคำท้า ปรากฏว่า งานนี้ไม่สมราคาคุย ตนเลยกินแห้ว ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องชี้แจงเพิ่มเติมต่อสื่อมวลชนว่า ที่นายยุทธพงศ์แถลงนั้น อาจคลาดเคลื่อนต่อเจตนารมณ์ของการยื่นบัญชีทรัพย์สินอื่น เพราะตามคำอธิบายในคู่มือการยื่นบัญชีฯของ ป.ป.ช. นั้น อธิบายไว้ชัดเจนว่า “ทรัพย์สินอื่นตามรายการที่ 9 ที่ต้องยื่น หมายถึง ทรัพย์สืนอื่นของผู้ยื่น คู่สมรส และบุตรยังไม่บรรลุนิติภาวะแต่ละรายนอกจากทรัพย์สินที่ระบุในรายการที่ 1-8 โดยมีมูลค่าของทรัพย์สินทุกชนิดรวมกันตั้งแต่ 200,000 บาท ขึ้นไป เช่น อัญมณี เครื่องประดับ ทองคำ อาวุธปืน นาฬิกา งานศิลปะ โบราณวัตถุ พระเครื่อง พระบูชา หรือวัตถุมงคล”
“นี่คือคู่มือการยื่นบัญชีฯ ที่ผมจะนำไปอธิบายให้นายยุทธพงศ์ฟัง แต่ก็ไม่มีโอกาส ทั้งที่ไปตามคำท้าแล้ว”นายเรืองไกร กล่าวและว่า จากการฟังคำแถลงของนายยุทธพงศ์ ตนเข้าใจว่า นายยุทธพงศ์คงเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า ทรัพย์สินอื่นที่ต้องยื่นคือทรัพย์สินแต่ละชนิดต้องมีมูลค่าตั้งแต่ 200,000 บาท มิใช่ทุกชนิดรวมกันมีมูลค่าตั้งแต่ 200,000 บาท เรื่องนี้คงต้องขอให้ ป.ป.ช. ดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ตนได้นำตัวอย่างการยื่นบัญชีทรัพย์สินอื่นเตรียมไปอธิบายด้วย เมื่อนายยุทธพงศ์ และพรรคเพื่อไทยไม่ให้โอกาสตนอธิบายความ ก็ขอนำตัวอย่างของ 2 คนมาแสดงต่อสื่อมวลชน คือ 1.กรณีนายชวน หลีกภัย ยื่นบัญชีทรัพย์สินอื่น เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2562 โดยใช้มูลค่าของทรัพย์สินทุกชนิดรวมกันในการยื่น ซึ่งมีนาฬิกาข้อมือ 19 เรือน มูลค่า 500,000 บาท รวมอยู่ด้วย 2.กรณีนายชูศักดิ์ ศิรินิล ยื่นบัญชีทรัพย์สินอื่น เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2551 ก็ใช้มูลค่าของทรัพย์สินทุกชนิดรวมกันในการยื่นบัญชี ซึ่งมีนาฬิกาข้อมือ 1 เรือน มูลค่า 50,000 บาท รวมยื่นด้วย
