วันอังคาร, พฤษภาคม 14, 2024
หน้าแรกHighlight“วราวุธ”ลั่น“ชทพ.”ขอไม่ต่ำกว่า 25 ที่นั่ง ขอรักษาแชมป์พื้นที่สุพรรณบุรีสุดกำลัง
- Advertisment -spot_imgspot_img
spot_imgspot_img

“วราวุธ”ลั่น“ชทพ.”ขอไม่ต่ำกว่า 25 ที่นั่ง ขอรักษาแชมป์พื้นที่สุพรรณบุรีสุดกำลัง

‘วราวุธ’ มองการเมืองหลังปีใหม่คึกคัก เมินคนหยามพรรคต่ำกว่าสิบ ลั่นชทพ.ขอไม่ต่ำกว่า 25 ที่นั่ง รักษาเข็มขัดแชมป์พื้นที่สุพรรณบุรีสุดกำลัง


เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.65 นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงการเมืองหลังปีใหม่ ว่า ส.ส.ในสภาจะมีการโยกย้ายพรรคและต้องดูว่าจะมีผลกระทบต่อองค์ประชุมสภามากน้อยแค่ไหน จะก่อให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมาหรือไม่ อันนี้ตอบไม่ถูก เพราะที่ผ่านมาการเมืองไทยไม่เคยเกิดสถานการณ์แบบนี้ แต่หลังปีใหม่เราจะได้เห็นความชัดเจนของหลายๆ พรรคการเมือง ทั้งที่ตั้งใหม่ ควบรวม และที่มีอยู่แล้ว เพราะจะชัดเจนในเรื่องการยักย้ายถ่ายเท ส.ส.และผู้สมัคร ส.ส.ของแต่ละพรรค ในส่วนของ ชทพ.มีเข้ามาเพิ่มเป็นระยะๆ อย่างที่ย้ำมาตลอดว่าจะไม่หวือหวาเหมือนพรรคใหญ่ๆ เหมือนพรรคภูมิใจไทย สำหรับเป้าหมายในการเลือกตั้งครั้งหน้านั้น ขอไม่ต่ำกว่า 25 ที่นั่ง ซึ่งเราคิดเช่นนั้น โดยเฉพาะ จ.สุพรรณบุรี ตนไม่อยากใช้คำว่ามั่นใจ แต่ขอใช้คำว่าไม่ประมาท ถ้าใครจะเข้ามาเราพร้อมรักษาเข็มขัดแชมป์ไว้อย่างสุดกำลังความสามารถ

นายวราวุธ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จะส่งนายยุทธนา โพธสุธน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พปชร. หลานชายนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรค ชทพ. ลงชนในเขตเลือกตั้งเดียวกับนายเสมอกัน เที่ยงธรรม ส.ส.สุพรรณบุรีนั้น อย่างที่ตนบอกแล้วว่า เมื่อนายบรรหารไม่อยู่ หลายคนจะมองว่า จ.สุพรรณบุรีเป็นเค้กชิ้นโตที่หลายฝ่ายอาสามาตีเมืองขึ้น จะทำให้สุพรรณบุรีแตก ซึ่งเป็นเรื่องปกติ เราไม่ว่ากัน แต่ตนพูดได้แค่ว่าก็ลองกันสักตั้งหนึ่ง ถ้าคิดว่าทำสำเร็จก็เป็นสิทธิ์ของหลายฝ่ายที่จะคิด แต่สำหรับตน หน้าที่คือปกป้องพื้นที่ของตนเอง

นายวราวุธ กล่าวว่า ส่วน จ.นครปฐม ทางตระกูลสะสมทรัพย์เองก็ทำงานอย่างไม่ประมาท หลังจากมีประสบการณ์จากครั้งที่แล้ว ตอนนี้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.แล้ว ทำงานกันอย่างเข้มแข็ง เชื่อว่าจะยึดพื้นที่ได้ ส่วนจังหวัดใกล้เคียงขอให้จับตาดูในอนาคตว่าจะมีเข้ามาเพิ่มเติมอย่างไร หลังปีใหม่ไปแล้วจะได้เห็นอะไรชัดเจนกันมากขึ้น แต่ถ้าจะให้ชัดเจนที่สุดคือ วันที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ประกาศยุบสภา วันนั้นฝุ่นตลบอีกทีแน่

เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งหน้า นายวราวุธจะยังเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 หรือไม่ นายวราวุธ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับที่ประชุมกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) ว่าจะให้ลงลำดับที่เท่าไหร่ แต่ถึงอย่างไรก็ลงสมัครรับเลือกตั้งในบัญชีรายชื่อโดยผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมพรรคก่อน โดยเฉพาะแคนดิเดตนายกฯ ยิ่งจะต้องพูดคุยกันภายในพรรคก่อนว่าจะเสนอใคร แต่ส่วนใหญ่หลายๆ พรรคจะเสนอชื่อหัวหน้าพรรค ขอย้ำว่าต้องผ่านความเห็นชอบของที่ประชุม กก.บห.และผู้ใหญ่ของพรรคก่อน

เมื่อถามว่า มีเสียงวิจารณ์ประเมินว่า ชทพ.จะได้ไม่ถึง 10 ที่นั่ง นายวราวุธ กล่าวว่า ไม่อยากพูด เราจดไว้ ที่บอกว่า ต่ำสิบก็ดี เพราะการประเมินสูงเราเหนื่อย ประเมินต่ำค่อยๆ มา ค่อยๆ ไป มาเร็ว มาแรงไปแรง จะดูว่าทำได้ขนาดไหน ประเมินเท่าไรไม่เกี่ยง หลีกหนีความเป็นจริงไม่ได้ แม้จะคลุกคลีทางการเมืองมามาก แต่บารมีและพรรษาทางการเมืองสู้หลายคนไม่ได้ แต่หากพูดถึงศักยภาพการทำงาน รับประกันไม่แพ้ใคร หากเอาหัวหน้าแต่ละพรรคมาประชัน ตนทำงานไม่แพ้หัวหน้าพรรคอื่นแน่นอน แต่ปัจจัยยอื่นๆ อาจจจะเทียบเท่าไม่ได้ บางครั้งเร่งไม่ได้ ต้องให้เวลาสั่งสมประสบการณ์

เมื่อถามว่า ช่วงเลือกตั้งกังวลอะไรบ้าง เช่น กติกาใหม่ ที่ใช้เลือกตั้งครั้งหน้า นายวราวุธ กล่าวว่า เราเคยเจอมาแล้ว ทั้งการเลือกตั้งปี 44 และเลือกตั้งปี 48 ที่ใช้รัฐธรรมนูญ 40 ก็ใช้แนวทางการลงคะแนนแบบนี้ บัตรสองใบ คนกับพรรค จะมีความกังวลว่าบางพื้นที่ที่ไม่ได้ส่งผู้สมัคร จะต้องหาวิธีเพื่อให้ได้คะแนนพรรค ซึ่งจะซับซ้อนมากขึ้น การใช้บัตรเลือกตั้งสองใบทำให้ต้องใช้คะแนนเสียง 3.5 แสน – 3.7แสนคะแนนเพื่อให้ได้ปาร์ตี้ลิสต์ 1 คน จะมีความท้าทายการทำงาน ก็เป็นกังวลเหมือนกัน

เมื่อถามถึงการส่งผู้สมัคร ส.ส.ในครั้งนี้ นายวราวุธ กล่าวว่า พรรคจะส่งไม่ครบ 400 เขต เพราะเปลืองเงินทุน เพราะคราวที่แล้วส่งยิ่งเยอะเพื่อหวังโอกาสได้คะแนน แต่ได้เรียนรู้ว่าบางเขตส่งไป หมดเงินค่าสมัคร ทำป้ายหาเสียง แต่ได้คะแนนหลักสิบ สู้ไม่ส่งเขต ประหยัดเงินไว้เอาไว้หาเสียงเขตอื่น ทำป้ายเขตอื่นดีกว่า ดังนั้น ครั้งนี้คัดให้ละเอียดมากขึ้น เพราะไม่จำเป็นส่งทุกเขตก็มีสิทธิได้คะแนนทั่วประเทศเช่นกัน โดยการทำรายละเอียดของการส่งผู้สมัครขณะนี้ คืบหน้า 60- 70% ที่จะส่งลงสมัคร ส่วนที่เหลือนั้นต้องรอให้ฝุ่นหายตลบ หรือพ้นโค้งสุดท้ายอีกครั้ง

เมื่อถามถึงการเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ของ ชทพ. นายวราวุธ กล่าวว่า มีแน่นอนแต่ไม่ใหญ่เท่าพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเหมือนทุกพรรคที่จะเปิดตัวในช่วงปฐมนิเทศ ส่วนจะดึงคนเก่าที่เคยอยู่กับพรรคชาติไทยมาอยู่กับ ชทพ. หรือไม่นั้น รอบนี้ไม่มีเพราะไม่ทัน การที่คนเก่ากลับมาอาจต้องพิจารณาหลายปัจจัย ทั้งหัวหน้าพรรค ตนก่อร่างสร้างพรรคให้ยิ่งใหญ่เหมือนสมัยนายบรรหารหรือไม่ ไม่ได้แปลว่าจะไม่กลับ แต่อาจรอเวลา ดูว่าหัวหน้าพรรคที่ชื่อวราวุธ ทำเหมือนคนชื่อบรรหารทำหรือไม่ วันนี้อาจอยู่อีกพรรค วันหน้าอาจจะเวียนกลับมาก็ได้ เพราะยอมรับว่าส.ส.ในสภาตอนนี้เกินครึ่งเป็นศิษย์เก่าพรรคชาติไทยทั้งนั้น เขาอาจจะวนกลับมาก็ได้ ไม่แปลก รอบนี้อาจไม่ทัน เพราะแต่ละคนล้วนเป็นส.ส.อาวุโสทางการเมือง แต่หัวหนน้าพรรคอาจอาวุโสไม่พอ อาจจะยังไม่ถึงเวลา เพราะกระดูกไม่ถึงเบอร์ แต่พอผ่านไปอีกสมัย กระดูกมีเบอร์ มีความเข้าใจมากขึ้น อาวุโสมากขึ้นอาจได้รับความเชื่อมั่นกลับมา

- Advertisment -spot_img
- Advertisment -spot_imgspot_img

Featured

- Advertisment -spot_img
Advertismentspot_imgspot_img
spot_imgspot_img